“ฉิบหายแน่”
บทสรุปส่งท้าย (4)
เมื่อตอนก่อตั้งกลุ่มอียูใหม่ๆนั้น พวกอียูต่างมีความคาดหวัง
ว่ากลุ่มอียู จะเป็นไปตามความคาดหมาย
หรือเป็นไปตามภาพที่(ถูก)วาดไว้อย่างสวยงาม
คร่าวๆ คือ พวกเราอียู จะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ก้าวหน้า
และมั่นคงไปด้วยกันอย่างยาวนาน
และ ช่วงแรกๆ (ช่วงโหมโปร) มันก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น
และช่วงนั้น ภาพของการเป็นกลุ่มอียู จึงได้รับการชื่นชมอย่างมาก
ว่าเป็นการรวมกลุ่มประเทศระดับภูมิภาค ที่ยิ่งใหญ่ และก้าวหน้าที่สุด
มี “บทบาทสำคัญ” ในการกำหนดทิศทางการเมือง
เศรษฐกิจและสังคม ระดับโลกอยู่เสมอ …
ใครๆ ก็ต้องฟังอียู ใครๆ ก็ อยากค้าขายกับอียู
ใครๆ ก็อยากย้ายไปอยู่อียู ฯลฯ
เพราะสิทธิพิเศษของพวกเขาและระหว่างพวกเขา
เหมือนมันจะมีมากมาย สะดวกสบายกับการใช้ชีวิตที่เหมือนฝัน
แถมภาพพจน์ของพวกเขา ส่วนใหญ่ดูจะรวยหรูหัวสูง
เดินหน้าเชิดคอแข็ง กว่าฝั่งไอ้ปากเหม็นเอาด้วยซ้ำ
สมัยอียูเกิดใหม่ๆ …กระเหรี่ยงอย่างเราๆ ไปขอวีซ่า
เพื่อจะไปเยี่ยมดินแดนเขา มันยากเย็นแสนเข็นจริงๆ
ก็ขอ 1 ได้ไป 10 กว่าประเทศ นี่นะ … จะให้กันง่ายๆได้ยังไง…
มันก็ต้องตรวจกันละเอียดตั้งกะส่วนที่ใส่หมวกจนถึงส่วนที่ใส่รองเท้า
เอาให้แน่ใจ ว่าพวกกระเหรี่ยงไม่ถือโอกาสไปเล่นบทตกยาก
อยู่แถวบ้านเขา
เมื่อเงินยูโรออกมาใหม่ๆ พวกนักเก็งกำไรบ้านเรา
พากันซื้อเงินยูโร เก็บใส่กล่องแอบ (เมีย) กันไว้ทั้งนั้น
เพราะบรรดากูรูการเงินบ้านเรา ที่เป็นคนวงใน(สายไอ้ปากเหม็น)
พากันแนะนำแบบน้ำลายแตกฟอง ว่าเงินยูโรมันจะแข็งและมีค่าขึ้นเรื่อยๆ …
จะแข็งแซงเงินดอลเอาด้วยซ้ำนะ…แบบนี้จะไม่ (แอบ) เก็บได้ยังไง
เออ… แล้วช่วงแรกๆ เงินยูโร มันก็มีค่าสูงขึ้นทุกวันจริงๆ
เลยมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นเพียบ (รวยกันจนเบื่อ)
เหมือน “เขาสั่ง” ได้จริง !
แต่ทุกวันนี้ ค่าเงินยูโรต่ำเตี้ยลงทุกวัน ดูเหมือนจะต่ำสุดในรอบ 20 ปี
ก็เหมือน “เขาสั่ง” ได้ในอีกรูปแบบนึง !
และปัจจุบันนี้ อียูก็เหมือนจะเปลี่ยนไป
จากเมื่อตอนคลอดออกมาใหม่ๆอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเดือนเมษายน คศ 2023 …ถังความคิดของยุโรป
ชื่อ European Council on Foreign Relations (ecfr.eu)
ได้ออกบทความยาวเหยีดด ด ด…(กว่า 20 หน้า)
ชื่อ The Art of Vassalisation: How Russia’s War
on Ukraine has transformed Transatlantic relations
(แปลแบบผม คงจะทำนอง …ศิลปะของการแปรรูปเป็นลูกกระเป๋ง:
สงครามยูเครนของรัสเซีย ได้เปลี่ยนสถานะสัมพันธภาพของพวก 2 ฝั่ง
ของแอตแลนติคไปอย่างไร)
บทความดังกล่าว …ได้เขียนบรรยายถึงความคิด พฤติกรรม
และแนวทางการแก้ปัญหาของพวกอียู อย่างยาวมาก …
มีทั้งอ้อมค้อม ตอแหล และไม่ประหยัดคำเหน็บแนม
ผมขอสรุปสั้นๆ เอาแต่ส่วนที่น่าสนใจสำหรับเราๆ ดังนี้
“…ในช่วงสงครามเย็นนั้น…พวกยุโรป ยังยืนอยู่แถวหน้า
ยืนแถวเดียวเรียงหน้ากระดาน ร่วมกับบ้านปากเหม็นเลยนะ
และยุโรปนับเป็น “ผู้เล่น” ตัวสำคัญ ในการแข่งขันที่ดุเดือด
ระหว่างมหาอำนาจในช่วงนั้นด้วย…
โดยยุโรปนั้น …เป็นตัวนำลูกวิ่งฝ่าเข้าไปในกลางเกมด้วยซ้ำ
ในปี คศ 2008 …ตัวเลขทางเศรษฐกิจของอียู
และของบ้านปากเหม็น ก็ (ยัง)ยืนอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
โดยทางอียู ดูเหมือนจะดีกว่าทางบ้านปากเหม็นเอาด้วยซ้ำ
โดยตัวเลขของ อียู …อยู่ ที่ 16.2 ทริลเลี่ยนเหรียญ (16.2 tn)
และตัวเลขของบ้านปากเหม็น … อยู่ที่ 14.7 ทริลเลี่ยนเหรียญ (14.7 tn)
แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ …ศักยภาพของอียู ได้ถอยลงไปแยะ
ทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และด้านการทหาร
(หมายเหตุของผม:
10 ปี ที่ผ่านมา… คือ ตั้งแต่ช่วงปี คศ 2013 เป็นต้นมานะครับ
ท่านผู้อ่านคงจำได้ ว่าช่วงปี คศ 2013 นั้น …
อียูกำลังอัดยาโด๊ปให้ยูเครนอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะมีการสร้างฉาก
ปฏิวัติ ส้ม 2 ในยูเครน …เพื่อให้พวกไอ้ปากเหม็น และ อียู…
อมยูเครนอย่างเต็มปาก)
และช่วงนั้น ดูเหมือนตัวเลขทางเศรษฐกิจของอียู
ก็ได้เริ่มเดินลงกระได ต่ำเตี้ยไปเรื่อยๆ อย่างน่าเป็นห่วง
มาถึงปี คศ 2022… ตัวเลขทางเศรษฐกิจของอียู
กับบ้านปากเหม็น …ดูเหมือนจะกลับตาลปัตรกันไปเสียแล้ว
กลายเป็นเศรษฐกิจของบ้านปากเหม็น วิ่งแซงหน้าอียูไปลิ่ว
โดยตัวเลขของบ้านปากเหม็น…ยืนอยู่ที่… 25 tn
ส่วนของอียูบวกกับไอ้นิ้วก้อยรวมกัน …ถอยไปยืนอยูที่ …19.8 tn
แปลว่า บ้านปากเหม็น… โตกว่า อียู บวก นิ้วก้อย ถึง 30%
และ ถ้านับระหว่างบ้านปากเหม็น กับ อียูเดี่ยวๆ (ไม่รวมนิ้วก้อย)
แปลว่า บ้านปากเหม็น โตกว่า อียู ถึง 50% …
และหลังจากที่ ฉากยูเครน ได้เปิดการแสดงตั้งแต่ต้นปี คศ 2023
ที่อียูมีส่วนร่วมอยู่ในฉากด้วย อย่างประชิดติดพันมันเกือบทุกเรื่อง
ทำให้สถานะทางเศรษฐกิจของอียูในปัจจุบัน จึงถึงกับทรุด
และพวกอียูเอง ก็ออกอาการมึนงง ยังจัดการอะไรไม่ได้
อียูเหมือนกลายสภาพเป็นเด็กน้อย ที่ดูแลตัวเอง
คิดเอง …และตัดสินใจเองไม่ได้ …
ต้องคอยแหงนหน้าถามคุณพ่อปากเหม็น ให้ช่วยตัดสินใจให้
แม้กระทั่ง เรื่อง “ความมั่นคง” ของอียูเอง
และทำให้อียูได้เปลี่ยนสภาพจาก “เป็นผู้เล่นที่เคยครองลูกวิ่งนำในเกม”
กลายเป็นลูกกระเป๋ง “ที่คอยรับคำสั่ง” จากคุณพ่อปากเหม็นอย่างเดียว
ถังยุโรป ecfr.eu บอกว่า สาเหตุของการกลายเป็นเด็กน้อย
ของอียูนั้น อันที่จริงจะไปโทษอียู เต็มปากคงไม่ได้ …
เพราะเรื่องมันเริ่มมาจากท่านเป็ดหน้าสีส้ม ของบ้านปากเหม็นเอง
ที่ตอนนั้นดำรงตำแหน่งเป็น ปธน และ ได้ด่าทอพวกยุโรปอย่างรุนแรง
ว่าพวกยุโรปกินแรงบ้านปากเหม็นสาระพัดเรื่อง
แถมยังหน้าด้านติดค้างค่าสมาชิกนาโต้ ฯลฯ …
แบบนี้เรา (แม้จะทาหน้าสีส้ม …ผมว่าเอง) ก็ไม่ได้หมายความว่าเรา
จะเห็นด้วย เกี่ยวกับเรื่องฉากยูเครน …
เพราะฉะนั้น พวกเอ็งอียู ก็ เล่นกันไปเองก็แล้วกัน
แบบนี้จะไม่ให้พวกอียูที่ขวัญไม่แข็งนัก จะไปยืดอกผึ่งผาย
ใส่พี่ปูของผมไหวยังไง …แล้วอียู ก็ได้แต่ยืนดูดนิ้ว …
รอท่านโจเหี่ยวปากเหม็นมาโปรด
คณะทำงานของท่านโจเหี่ยวบอกว่า จริงๆแล้วเมื่อท่านเหี่ยว
ขึ้นครองบัลลังค์บ้านปากเหม็น…นโยบายของท่านเหี่ยว คือเตรียมพร้อม
ที่จะโซ้ยกับพวกตาตี่แต่ดันรวยจัด และอยู่ใกล้บ้านหลังคาขาวมากกว่า
โดยไม่ได้คิดจะไปยุ่งเรื่องบ้านไอ้กี้มันสักนิดนึง…
และ จริงๆแล้ว บ้านปากเหม็น ก็ได้มีแผนวางไว้ล่วงหน้า
ถึงขั้นมีการตกลงขายอาวุธชั้นดีราคาถูกให้ไต้หวัน ไปเต็มที่แล้วด้วย
เหลือแต่ขั้นตอนการจัดส่งเท่านั้นเอง
(หมายเหตุของผม:
ข้ออ้างทั้งเรื่องบ้านไอ้กี้และเรื่องไต้หวัน ที่ไอ้ถังนี้มันบรรยาย
ความตามข้างต้นนั้น มันสะตอแหลมากนะครับ …อ่านไปเรื่อยๆก่อนครับ)
ทีนี้เมื่อเด็กของพี่ปู เขาเดินพาเหรดกันเข้ามาในยูเครน
ท่านเหี่ยว ที่เป็นผู้เห็นคุณค่าของการเป็นประชาธิปไตย
ยิ่งกว่าสิ่งใด (ยกเว้นเงิน…นี่ผมคาดเดาเอาเอง)
จึงรับไม่ได้เอาเลย …เพราะเห็นว่ามันเป็นการละเมิดอธิปไตยของยูเครน
ท่านเหี่ยวรับไม่ได้ …อียูก็ควรต้องรับไม่ได้ด้วย
บทความบรรยายว่า เป็นท่านเหี่ยวเองนะ…
ที่เป็นผู้ตัดสินใจ และวางแผนเรื่องการคว่ำบาตรใส่พี่ปูของผม
อย่างหนักหน่วง …ด้วยเชื่อว่า ถ้ารัสเซียขายของไม่ได้
มันจะอยู่ได้นานขนาดไหนเชียว …
(ความคิดแบบพ่อค้าแบกะดินเลยนะ …ผมว่าเอง)
รวมทั้ง เอาบรรดาอาวุธ ที่ว่าเตรียมจะส่งไต้หวัน มาส่งให้ยูเครน
โซ้ยกับรัสเซียไปก่อน…
และบทความฯ ก็บรรยายมาถึงเรื่องการคว่ำบาตรรัสเซีย
ของพวกอียู…ทั้งๆ ที่พวกอียู ต้องง้อใช้แก๊ส ใช้น้ำมัน และอื่นๆ
ในราคาถูกกว่าตลาดทั่วไปจากรัสเซีย
พอสงครามยูเครนมันถูกลากยาววว (เกินคาด) แบบนี้ ไอ้พวกอียูมันก็เจ๊งสิ
ต้นทุนสินค้าที่พวกมันเคยขาย ได้เพิ่มขึ้นไป 4,5 เท่า
พวกอียูหลายประเทศ ก็เลยขยับไปผูกมิตรกับทางจีน
เพื่อหาทางบรรเทาความเจ๊งของตัว
การที่พวกอียูเหล่านั้น ลดชั้น …ไปคบพวกตาตี่อย่างนั้น
ทำให้คุณพ่อปากเหม็นไม่พอใจอย่างที่สุด…
เพราะมันอาจมีผลกระทบอย่างมาก กับแผนการณ์ของคุณพ่อปากเหม็น
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้…?!?
ฝ่ายคุณพ่อปากเหม็น กำลังเตรียมพร้อมเกี่ยวกับ “เรื่องจีน”
และต้องการให้ไอ้นิ้วก้อย และกลุ่มเด็กน้อยดูดนิ้ว ร่วมเข้าทีม
เดิน(ตามหลัง) ตามแนวยุทธศาสตร์เกี่ยวกับจีนของคุณพ่อฯด้วย
ก็เลยต้องแก้เกม…จัดการปรับแผนใหม่
เพื่อบีบเอาพวกเด็กน้อยดูดนิ้ว มาอยู่ใต้จักกะแร้ ให้แน่นขึ้น
จะได้ไม่แตกแถวนอกใจไปจับมือกับพวกตาตี่
และคุณพ่อฯ ก็ได้มีการเล่นไม้แข็งกับพวกอียูแตกแถวด้วย
เรื่องเล่นไม้แข็งนี้…ทำให้พวกอียูที่อยู่ในแถว สาแก่ใจมาก
พวกอียูที่ มีปัญหาภายในกันเองมานานแล้วหลายเรื่อง
ก็เลยยิ่งแตกคอ ระหองระแหงกันมากขึ้น
จนไม่สามารถร้องเพลงเสียงเดียวกันได้ …
การกำกับเส้นทาง(ชักจูง)อียู…จึงกลับไปอยู่ในมือของคุณพ่อฯ
ไปเป็นลูกกระเป๋งเขา ด้วยการกระทำของพวกตัวเอง…”
(จบการสรุปบทความของถัง ecfr.eu)
สรุปว่า วันนี้ อียู ไม่เหมือนเดิมแล้ว ต่างไปแยะจากเมื่อตอนตั้งไข่
แม้ดูภายนอกอียูจะยังแอ็คท่า แสดงว่าเรายังฟูเฟื่องรุ่งเรืองอยู่
แต่จริงๆ แล้ว ทุกประเทศของอียู ก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
ว่าอียู กำลังอยู่ในสภาพที่เหมือนถุงกระดาษพองลม
น่าชื่นอกตรม ขมขื่นขนาดไหน …
โดนตบถุงทีเดียว สงสัยแบนแฟบคามือ
(พวกสมันถุง ก็ระวังไว้บางนะครับ)
อียูมีปัญหาเพิ่มขึ้นทุกที ตามจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น
และที่กำลังจะเพิ่ม…และ ถ้าจะมีสมาชิก ชื่อ ยูเครน
มาเข้าร่วมด้วย…อียูจะอ่วมขนาดไหน
ปัญหาใหญ่ของอียู ที่ค้างคาแก้ไม่ได้มานานแล้ว
คือ เรื่องการลงมติใน “เรื่องสำคัญ” ของกลุ่มอียู
ที่ต้องเป็นมติเอกฉันท์…โดย 1 ประเทศ มี 1 เสียงเท่ากันนั้น
แต่ความเห็น…เกี่ยวกับ “เรื่องสำคัญ” …
ในความคิดของแต่ละประเทศ และ แต่ละกลุ่ม
มันไม่ได้สอดคล้องกัน หรือ พ้องกันเสมอไป
โดยเฉพาะความคิด… ระหว่างพวกประเทศที่เป็นยุโรปตะวันตก
กับประเทศที่เป็นยุโรปตะวันออก หรือ พวกยุโรปที่เป็นอดีต
ของสหภาพโซเวียต
และโดยเฉพาะ ช่วงหลังจากการมีปฏิวัติสีส้ม 2 ของ ยูเครนแล้ว
ความแตกต่างทางความคิดความเห็น และวิธีการแก้ปัญหา
ของสมาชิก 2 ฟาก …ยิ่งมีมากขึ้น
แต่ขณะเดียวกัน …เวลาต้องควักกระเป๋า
เพื่อส่งเข้า “ เงินกองทุนอียู” นั้น
ดันคิดคำนวณ ตามสถานะทางเศรษฐกิจ และ รายได้ของแต่ละประเทศ…
แน่นอนว่าประเทศใหญ่ ที่มีสถานะทางเศรษฐกิจดีกว่า
เช่น เยอรมัน อังกฤษ (ก่อนbrexit) ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ฯลฯ
ก็มักเดือดร้อนใจกว่า และ น่าจะมองวิธีการแก้ปัญหา
ที่จะกระทบกับกระเป๋าพวกเขา ต่างกันไปอีกด้วย
ไอ้หรั่งเศส ได้พยายามที่จะแก้ไขการออกเสียงเกี่ยวกับมติของอียู
โดยไม่ใช้ 1 ประเทศ 1 เสียง …แต่ให้เป็น 1 กลุ่ม 1 เสียง
โดยให้มีการแบ่งจัดกลุ่มขึ้นมาใหม่
มันพยายามผลักดันเรื่องนี้มาหลายปี …แน่นอน …ไม่สำเร็จ !!!
แน่จริง มันต้องตัดใจออกมาจากอียู แบบไอ้นิ้วก้อยเลยสิวะ
เยอรมัน ก็เช่นกัน …หงุดหงิดมากกับเรื่อง 1 เสียงเท่ากัน
และจริงๆ เยอรมันควรหงุดหงิดมากว่าใคร เพราะกระเป๋าใหญ่กว่าเพื่อน
แต่เยอรมัน เก็บอาการได้มิดชิดกว่าไอ้หรั่งเศส
เมื่อฉากยูเครน เปิดการแสดงในปี คศ 2022 ใหม่ๆ
กลุ่มอียู ดูเหมือนจะ(ถูกสั่งให้) ลืมเรื่องบาดหมางระหว่างกันไปได้(ชั่วคราว)
พวกเขาพร้อมใจกันคว่ำบาตรรัสเซียเต็มที่ อย่างพร้อมเพรียงกัน
ด้วยความเชื่อมั่นว่า ฉากยูเครนจะเล่นไม่เกิน 1 ปี …
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ใกล้จะถึง 1 ปี … ฉากยูเครนก็ไม่มีทีท่าว่าจะลาโรง
เราจึงเห็น ไอ้หรั่งเศส วิ่งตีนขวิดไปหาไอ้ปากเหม็นบ้าง พี่ปูบ้าง จีนบ้าง ฯลฯ
เพื่อหาทาง “จบ” ฉากยูเครน …เพราะบ้านมันเอง ก็เริ่มหลังแอ่นแล้ว
แต่สมาชิกอียูฟากยุโรปตะวันออก หรือพวกอดีตสหภาพโซเวียต
พากันรุมกันด่าไอ้หรั่งเศส ว่า มันหักหลังพรรคพวก
“…ทำไม มึงคิดแต่จะหาทางเจรจาสงบศึก กับ รัสเซีย …
มึง ควร หาอาวุธ ส่งให้ยูเครน สู้กับรัสเซียไปนานๆสิวะ
บ้านมึงเอง ก็มีอาวุธแยะกว่าเพื่อน… มีแยะกว่าพวกเรารวมกันอีกนะ
ขืนเราไปตกลงเจรจากับรัสเซียเมื่อไหร่ …รัสเซียก็จะได้ใจ
คิดจะข่มเหงพวกเราอีก เมื่อไหร่ก็ได้ …”
การต่อว่าต่อขาน หรือ ทางแก้ปัญหาให้เรื่องยูเครนจบ
แบบส่งอาวุธให้ยูเครนมากๆ …มันจึงเกิดขึ้น …
ความคิดแบบนี้มันมาจากไหน…ถูกครอบ ถูกชักนำจากใคร
เยอรมันเอง ก็ อยากจะให้ยูเครนจบเร็ว
แต่เยอรมันพูดมากไม่ได้ เพราะท่อส่งแก๊ส Nord Stream
ทั้ง 1, 2 และอื่นๆ คงขวางอยู่เต็มปาก
และดูเหมือนคะแนนเสียง ของพวกอดีตสหภาพโซเวียต
โดยเฉพาะรุ่น big bang …จะมีส่วนอย่างมาก
ที่จะนำพาให้อียูฉิบหายยับได้…
เพราะเจ้าของเสียง หรือ ผู้ออกเสียง
ดูเหมือนจะมีเชือกคล้องคอที่มีใครคอยกระตุกชักนำอยู่เสมอ
คงต้องยอมรับ ว่าคนวางเกม จังหวะการเอาประเทศไหน
โดยเฉพาะพวก big bang เข้าเป็นสมาชิกอียู …
เขามีฝีมือร้ายกาจมาก!!!
เยอรมัน กับ ฝรั่งเศส ทนนิ่งต่อไปแทบจะไม่ไหวแล้ว
แม้จะมีอะไรค้ำคอขวางปากอยู่ก็ตาม…
เมื่อเดือนมกราคม คศ 2023… ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ
จึงกัดฟันทำใจกล้า (แอบ) ไปหารือกัน
เสร็จแล้วก็ทำหนังสือร่วมกัน ส่งถึงสภาอียู
หนังสือดังกล่าวมีข้อเสนอ…สรุปคร่าวๆ ว่าอียูนั้น
ถึงคราวจำเป็นแล้ว ที่ต้องมีการปฏิรูป หรือ ปรับปรุง
โครงสร้างของอียูในการรับสมาชิกใหม่ ที่แน่นอนว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก
โดยต้องมี “วิธีการ” ออกเสียงของสมาชิก …
ที่เหมาะสมกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เพื่อรองรับ “สถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“ ทั้งในระยะใกล้ และ ระยะไกล…”
สรุปสั้นๆ ว่า ไอ้ 2 ประเทศ พยายามหาทางปิดประตู
ไม่รับยูเครนน่ะ หรือ ให้ยูเครนเข้ามาเป็นสมาชิกอย่างยากที่สุดก็แล้วกัน
เพราะไม่อยากต้องรบกับรัสเซีย ด้วยเรื่องของยูเครน
และพยายามให้ กลุ่มอดีตสหภาพโซเวียต …
โดยเฉพาะรุ่น big bang ไม่ได้มี 1 ประเทศ 1 เสียง …
แต่ต้องมีเงื่อนไขหรือหลักเกณท์อื่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แต่ ดูเหมือนหนังสือดังกล่าวข้างต้น จะไม่ได้รับการตอบสนอง
อย่างที่ต้องการ …เพราะความต้องการของไอ้ 2 ประเทศนั้น
คงไม่ตรงกับความต้องการ ของผู้ทำคลอดอียู
พวกเอ็งไม่เข้าใจหรือไงวะ … ถึงเซ้าซี้ อยู่นั่น
และ เรื่องการประท้วงสารพัด จึงเกิดขึ้นในฝรั่งเศส อย่างต่อเนื่อง
เพิ่มมาสงบเอาเมื่อนายมาครง คงสำนึกได้ …ว่า ควรประพฤติตัวอย่างไร
ดูเยอรมันสิ (วะ) …มันอมเลือดขนาดไหน มันยังไม่ (กล้า) ขยับเลย
เยอรมัน จะขยับได้อย่างไร หรือ จะขยับอย่างไรดี
อย่าลืมว่า ตอนนี้ กองบัญชาการของนาโต้
ที่อยู่ภายใต้การบัญชาการของไอ้ปากเหม็น
ยังตั้งอยู่ที่กลางบ้านเยอรมันนะ …กล้าขยับไหมเยอรมัน
เรื่องการปฏิรูปอียู จึงยังค้างคาอยู่
ล่าสุด หลังจากมีการประชุมของนาโต้ เมื่อเดือนกรกฏาคม คศ 2023 นั้น
นายซาร์โกซี (Nicolas Sarkozy) อดีต ปธน ฝรั่งเศส (ปี คศ 2007-2012)
ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ กับ TF1 TV เมื่อไม่นานมานี้
ว่า ยูเครนนั้น ควรเป็นกลาง
ไม่ไปเข้าร่วมสังกัดกับฝ่ายใด …ไม่ว่า กับอียู หรือ นาโต้…
“…แต่นั่น (ยัง) ไม่ใช่ทางออกที่ดี หรือ การแก้ปัญหานะ…
ทางออกของเรื่องยูเครน คือ ควรมีการนั่งหารือร่วมกัน
ระหว่างผู้ที่เข้าใจและยอมรับความมีเหตุผล…
ชัยชนะของความขัดแย้ง จะมีขึ้นได้เพียง 2 ทางเท่านั้น
คือ โดยการทำลายศัตรูได้สำเร็จ …หรือ การประนีประนอมกัน…
เลิกพูดกันได้แล้ว เรื่องการขาย การส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ รถถัง เครื่องบิน
ให้ยูเครน…ของเหล่านั้นมันไม่ได้ทำให้ รัสเซีย “หายไปไหน” หรอกนะ
ไม่ว่าจะมีปูติน หรือ ไม่มีปูติน…
…การวิเคราะห์ของผม คือตอนนี้โลกเรา และอียู …
กำลังเต้นอยู่ ตรงริมขอบของภูเขาไฟ…ที่มันอาจเกินกำลังของเรา
ที่จะไปห้ามการระเบิด …ที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ …
เรามีการบาดเจ็บล้มตาย จำนวนมากมาแล้วนะ
และสำหรับผม …การเจรจาทางการทูต และการหารืออย่างจริงจัง…
ยังไม่เคยเกิดขึ้นเลย …และตอนนี้ มันสมควรที่จะเกิดขึ้นเสียที…”
แน่นอน คำวิจารณ์และข้อเสนอแนะ ของนายซาร์โกซี
โดนไอ้กี้ ด่ายับ…ว่า ไอ้หรั่งเศส กำลังสนับสนุนให้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ไม่ใช่แต่ไอ้หรั่งเศสเท่านั้น ที่กำลังปวดหัว
กับเรื่องการดำเนินการของอียู เกี่ยวกับเรื่องยูเครน
อิตาลี …ก็ เริ่มส่งเสียงเหมือนกัน
นาย กุยเซปเป้ คองติ (Guiseppe Conte) อดีตนายกรัฐมนตรี ของอิตาลี
(คศ 2018-2021) ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ของอิตาลี
ได้เขียนใน Facebook ของเขา สรุปความ ดังนี้
“… ไอ้เรื่องการโฆษณาชวนเชื่อว่า ยูเครนจะสามารถรุกคืบ
และต่อสู้เพื่อเอาดินแดน คืนกลับมาจากการยึดไปของรัสเซียนั้น…
ควรเลิกพูด เลิกคิดได้แล้ว …เพราะ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย…
และ ยูเครน กับ อียู …จะยิ่งพากันฉิบหายหนักขึ้นไปอีก
การไปคว่ำบาตรรัสเซีย …ไม่ได้ทำให้รัสเซียล้มละลายทางเศรษฐกิจ
รัสเซีย ยังมีทางออกอีกแยะ …ดู เรื่อง BRICS ที่กำลังเติบโตสิ…
ในทางกลับกัน …การล้มเหลวในแก้ไขปัญหาเรื่องยูเครน ของอียู …
มันฟ้องให้เห็นถึงความไร้สมรรถภาพของอียู ในการดำเนินการ
เกี่ยวกับเศรษฐกิจ และ ความมั่นคง ของอียูเอง
ที่แย่กว่านั้น …มันเป็นการฟ้อง “อีกทางหนึ่ง”
ว่ากลุ่มอียูนั้น ได้ก้มหัวยินยอม ที่จะอยู่ภายใต้การกำกับของอเมริกา ไปแล้ว…
(…instead, it has become yet another indicator of the bloc’s
kowtowing to the US …”
นาย Conte …เป็นอีกคนหนึ่ง ที่เรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้มีการเจรจากัน
ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยูเครน…แทนการส่งอาวุธให้ยูเครน…
ที่ไม่เห็นหนทางเลย ว่า ยูเครน จะเอาชนะรัสเซียได้…และ จะยิ่งทำให้เรื่อง
ราวมันยกระดับความแย่ ความฉิบหายมากขึ้นไปเรื่อยๆ…
เยอรมัน ก็เช่นกัน …หงุดหงิดมากกับเรื่อง 1 เสียงเท่ากัน
และจริงๆ เยอรมันควรหงุดหงิดมากว่าใคร เพราะกระเป๋าใหญ่กว่าเพื่อน
แต่เยอรมัน (ยัง) เก็บอาการได้มิดชิด กว่าไอ้หรั่งเศส และ อิตาลี
จริง ๆ ไอ้ 3 ประเทศ นี่ …มันควรต้องตัดใจออกมาจากอียู
และ จะได้รู้กัน ว่า อียู มันจะยังอยู่ได้หรือไม่ หรือ อยู่อย่างไร
แล้วเรื่องการปฏิรูปอียู จึงยังค้างคา
และอียูก็เลยกลายสภาพเป็นลูกกระเป๋ง (ชั้นสูงส่ง)
ของไอ้ปากเหม็นไปแล้ว
วันนี้ อียู ก็เลยอ่วมแล้วจริงๆ …(สมน้ำหน้า)
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
31 สิงหาคม 2566
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
