4 ก.ย. 2023 เวลา 11:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ

"แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกให้เธอไม่ไปได้หรือเปล่าาา?"

ช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาทางสินมั่นคงประกันภัยได้ส่ง Email มาเพื่อให้เจ้าหนี้อย่างเราๆทั้งหลายมาพิจารณาถึงแผนฟื้นฟูกิจการ โดยบริษัทนางจะจัดประชุมออนไลน์เพื่อขอมติจากเจ้าหนี้ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ แต่เราสามารถลงมติได้ล่วงหน้าภายในวันที่ 20 ก.ย.นี้
1
ซึ่งใน emailที่นางส่งมาเนี่ยก็มีแผนการฟื้นฟูกิจการอยู่ด้วย โดยแผนคือจะคืนเงินให้เจ้าหนี้โดยแบ่งเป็น2ส่วน ส่วนที่1คือ จ่ายคืนให้ 15%ของจำนวนหนี้ทั้งหมด เช่น นางติดเงินอิฉันแสนนึง นางก็จะให้เงินอิฉันคืน 15,000 ส่วนที่เหลืออีก 85,000 นางจ่ายคืนเป็นหุ้นบุริมสิทธิราคาหุ้นละ1พันบาท (อีผี! พันนึง!นี้ราคาหุ้นสินมั่นคงหรือราคาหุ้น Apple คะเนี่ย ใครตั้งราคา แจงValuationทีค่ะ) สรุปแล้วคือเราจะได้เป็นเงิน 15,000 และได้หุ้นบุริมสิทธิ อีก 85หุ้น
1
อ่านสีส้มๆข้างล่าง มีแฝงเชียร์รับแผนอยู่
คราวนี้หุ้นบุริมสิทธิคืออะไร? มันคือหุ้น(ความเป็นเจ้าของ) ผสมกับหุ้นกู้(ความเป็นเจ้าหนี้) อารมณ์เป็นเหมือนหุ้นที่ไม่ใช่หุ้นสามัญ เพราะมีสิทธิ์เหนือกว่าหุ้นสามัญในบางเรื่อง เช่น สินมั่นคงจะไม่มีสิทธิจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น ถ้านางยังไม่จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ แต่นางก็อาจจะเลือกไม่จ่ายปันผลก็ได้ ไม่ได้ผิดอะไร และท้ายที่สุดบริษัทไปไม่รอด ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะมีสิทธิ์รับเงินก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ แต่หลังเจ้าหนี้ไม่มีประกัน
2
เพราะงั้นถ้าเราโอเคกับแผนของนาง เราก็จะได้เงินสดกรุบกริบบวกกับหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งไอ้ราคาหุ้นบุริมสิทธิที่หุ้นละ1พันบาท แต่ถ้าเราไม่ลงมติให้แผนนี้ละ มีทางเลือกอะไรบ้าง
พออ่านจบเพลง "แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกให้เธอไม่ไปได้หรือเปล่า...." ลอยมาเลยค่ะ เพราะนางพยายามบอกแบบชัดๆมัดมือชกไว้เลยว่า
ถ้านางจะยังดันทุรังดำเนินกิจการโดยไม่ทำแผนฟื้นฟูกิจการ นางก็จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เพราะสถานะการเงินปัจจุบันของนางคือบ้งขั้นสุด(ส่วนของเจ้าของติดลบ) คิดดูนะนางติดหนี้โดยรวมคือ 37,637 ล้านบาท แต่สินทรัพย์นางมีมูลค่าเพียง 4,013ล้านบาท
2
เพราะงั้นถ้าแผนนี้ของนางไม่ได้รับมติจากเจ้าหนี้อย่างพวกเราๆ นางไม่มีเงินจ่ายพวกเราได้แน่นอน แถมกองทุนวินาศภัยที่ต้องมาช่วยนางจ่ายถ้านางล้มละลาย ดูทรงแล้วก็ไม่น่ามีเงินจ่ายเพราะปัจจุบันกองทุนขณะนี้มีมูลหนี้คงค้างของบริษัทประกันวินาศภัยอยู่ทั้งสิ้น 8 บริษัท
3
ประกอบด้วย 1.สัมพันธ์ประกันภัย 2.เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ 3.สัจจะประกันภัย 4.เจ้าพระยาประกันภัย 5.เอเชียประกันภัย 1950 6.เดอะวันประกันภัย 7.ไทยประกันภัย และ 8.อาคเนย์ประกันภัย รวมจำนวนคำทวงหนี้เกือบ 7 แสนราย คิดเป็นยอดเงินขอรับชำระหนี้กว่า 6 หมื่นล้านบาท
3
เพราะงั้นดูแล้วอิฉันคงจะเลือกลงมติยอมรับแผนของนาง ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าไอ้หุ้นบุริมสิทธิราคาหุ้นละ 1พันบาทนี้คิดมาจากไหน แต่ดูๆก็น่าจะคุ้มกว่าปล่อยให้บริษัทนางล้มละลาย ต้องมาขายของใช้หนี้ได้แค่ส่วนนึง อีส่วนที่เหลือเราก็ต้องรอเงินจากกองทุนประกันวินาศภัย ซึ่งตอนนี้แม้แค่กองทุนก็มีแผนกู้เงินเหมือนกัน!! ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีคืนให้เราตอนไหน เพราะงั้นเอาก็เอาว่ะ! กำขี้ดีกว่ากำตด! อย่างน้อยก่อนโควิดสินมั่นคงก็กำไรมาตลอด กิจการปกติก็ดูไปได้สวย
3
ส่วนลูกๆจะเลือกลงมติให้แผนฟื้นฟูกิจการอันนี้ไหม แม่ก็ไม่ขอชี้นำ ลองไปอ่านเอกสารชั่งใจกันเองเด้ออออ เขาก็เขียนมาให้อ่านหลายหน้าอยู่
1
คนจะลงมติล่วงหน้าก็จัดการปริ้นใบลงมติที่มี2หน้า+สำเนาบัตรประชาชนส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือแสกนหรือถ่ายภาพใช้แอพนิดนึงแปลงให้เป็น PDF ส่งเมลไปก่อน20 ก.ย.นะคะลูก....รายละเอียดเพิ่มเติมมีในเมล+เวปไซต์ กองฟื้นฟูกิจการ, กรมบังคับคดีนะ //แนะนำให้ส่ง Email ไม่เสียเงิน ถ้าส่งเป็นจดหมายลงทะเบียนไป ตอนนี้ตู้จดหมายกองฟื้นฟูแตก จดหมายอาจถูกตีกลับได้
7
ส่วนคนที่ไม่อยากลงมติก่อน แต่อยากเข้าฟังประชุมก่อน ก็รอเข้าฟังวันที่ 27นะ จะมีดราม่าไหม ใครเข้าวันนั้นเอามาเม้าให้ฟังด้วยนะ
2
ส่วน Timeline หลังจากนี้ก็คือ ถ้าได้มติจากเจ้าหนี้เรื่องแผนนี้แล้ว ทางศาลล้มละลายกลางก็จะเริ่มพิจารณาแผนการฟื้นฟูเดือน พ.ย. แล้วก็จะออกคำสั่งมาในเดือน ธ.ค.ปีนี้
2
Ref
โฆษณา