Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A Broad vot
•
ติดตาม
3 ก.ย. 2023 เวลา 03:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พารู้จักนักดาราศาสตร์ไทย มีส่วนร่วมในการศึกษา
เอกภพ และนำภาพเจมส์ เวบบ์ อันน่าทึ่งมาสู่เรา
‼️มนุษย์ไม่รู้จักพอหรอก เราคงยังต้องการที่จะอยากรู้ไปเรื่อยๆ แต่ว่าในมุมหนึ่ง ถ้าเราหยุดแล้วพอใจแค่ในสิ่งที่เรามีอยู่ หรืออาจจะเป็นการหยุดสนับสนุน เช่น คนไทยอาจจะหยุดและไม่สนับสนุนวงการดาราศาสตร์แล้ว มันจะยิ่งทิ้งห่างกับประเทศอื่นๆ ไปเรื่อยๆ เพราะเรามาช้ากว่า เขามาตั้งแต่ยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์เมื่อสองสามร้อยปีก่อน
คนอื่นเดินทางไปข้างหน้าแล้ว เราก็จำเป็นที่จะต้องก้าวเดินไปกับเขา หรืออย่างน้อยก็ต้องเดินไปพร้อมกัน เพราะถ้าเดินช้ากว่ามันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้า‼️
ดร.ณิชา ลีโทชวลิต
📡▪️▪️◾◼️🟥
ล่าสุด คณะนักวิจัยจากนานาประเทศ รวมถึง
ดร.ณิชา ลีโทชวลิต นักดาราศาสตร์จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ จากประเทศไทย ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ ศึกษากาแล็กซี MACS1149-JD1 หรือ JD1
🌀 กาแลคซีหมุนรอบที่อยู่ไกลที่สุดจากฟากฟ้า
เมื่อ 13.3 พันล้านปีก่อน หมุนวนราวกับจะบันทึก
เหตุการณ์เอกภพในยุคแรกๆ เร็วกว่าดาราจักรอื่น
ต้นกำเนิดของการเคลื่อนที่แบบหมุนในกาแลคซีมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับคำถามที่ว่ากาแลคซีอย่างทางช้างเผือกก่อตัวได้อย่างไร ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่ได้พบการเริ่มหมุนของเอกภพ
ยุคแรกๆ JD1 หมุนด้วยความเร็วประมาณ 180,000 กม./ ชม. หรือประมาณหนึ่งในสี่ของความเร็วการหมุนของทางช้างเผือก ดาราจักรยังเล็กกว่าดาราจักรกังหันสมัยใหม่อีกด้วย▪️▪️
🌀 ทีมวิจัยนี้ ได้ศึกษาข้อมูลของกาแล็กซี JD1 ด้วยอุปกรณ์ NIRCam และ NIRSpec ของกล้องเจมส์ เว็บบ์ โดยสามารถยืนยันค่า Redshift ของกาแล็กซีอยู่ที่ z=9.793 เท่ากับระยะห่างจากโลกประมาณ 13,300 ล้านปีแสง หรือมีอยู่ตั้งแต่เอกภพมีอายุเพียง 480 ล้านปีเท่านั้น
นอกจากการยืนยันระยะห่าง กาแล็กซี JD1 มีมวลน้อยกว่ากาแล็กซีทางช้างเผือกถึง 2,000 เท่า เป็นดาราจักรยุคแรกของเอกภพที่มีมวลน้อยที่สุดเท่าที่ถูกค้นพบมา พร้อมกับพบกลุ่มก้อนดาวฤกษ์อายุน้อยอยู่ 3 กลุ่ม โดยไม่มีลักษณะเป็นจานแบบดิสก์โดยรอบเช่นเดียวกาแล็กซีทางช้างเผือกในปัจจุบัน
รายงานเผยแพร่ในวารสาร Astrophysical Journal Letters
https://iopscience.iop.org/article/10.3847/2041-8213/ac7447
📡▪️▪️◾◼️🟥
ดร.ณิชา ลีโทชวลิต เป็นหนึ่งในนักดาราศาสตร์ที่ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ตั้งแต่เริ่มแรกเพื่อศึกษาคุณสมบัติของกาแลคซีในยุคเริ่มต้นของจักรวาล GLASS (Grism Lens-Amplified Survey from Space) เป็นหนึ่งโครงการที่เปิดโอกาสให้นักดาราศาสตร์ที่สนใจเสนอว่าต้องการให้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ ศึกษาในหัวเรื่องใดบ้าง งานวิจัยที่ค้นพบในครั้งน้นเป็นแบบที่จะเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะทันทีที่บันทึกข้อมูลได้ หรือ Early Release Science
🌀🌀 ดร.ณิชา เป็นผู้รับผิดชอบในการรันโค้ดเพื่อพิจารณาว่ากาแลคซีที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ห่างจากโลกแค่ไหน โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า "Redshift" เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อแสงจากวัตถุที่อยู่ไกลออกไปถูกยืดออกโดยการขยายตัวของจักรวาล ยิ่งแสงเลื่อนไปทางสีแดงมากเท่าใด วัตถุก็จะยิ่งอยู่ห่างจากวัตถุมากขึ้นเท่านั้น
ดร.ณิชา และทีมงานใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ สำรวจกาแลคซีที่เรียกว่า GN-z11
เป็นกาแลคซีที่อยู่ไกลที่สุดเท่าที่เคยตรวจพบ และอยู่ห่างจากโลกประมาณ 13.4 พันล้านปีแสง หมายความว่าแสงจาก GN-z11 ใช้เวลา 13.4 พันล้านปีเพื่อมาถึงเรา
การสังเกตการณ์ GN-z11 ด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ช่วยให้นักดาราศาสตร์เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกภพยุคแรกเริ่ม ได้แสดงให้เห็นว่า GN-z11 เป็นกาแลคซีอายุน้อยและเล็กมากและกำลังก่อตัวดาวฤกษ์ในอัตราที่สูงมาก การสังเกตการณ์ยังแสดงให้เห็นว่า GN-z11 ประกอบด้วยก๊าซไฮโดรเจนและฮีเลียมเป็นส่วนใหญ่
🌀 ผลงานของ ดร.ณิชาและทีมงานในครั้งนั้นมีส่วนสำคัญในการทำความเข้าใจจักรวาลในยุคแรกเริ่ม กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยให้นักดาราศาสตร์เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกาแลคซีแห่งแรกในจักรวาลในปีต่อๆ มารวมถึงผลงานครั้งล่าสุด *JD1* ▪️▪️
ประวัติ ดร.ณิชา ลีโทชวลิต
👩💻 🔭▪️▪️◾◼️🟥
หลังจากเรียนจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ สู่จุดเริ่มต้นการ
เดินทางในสายดาราศาสตร์ของ ดร.ณิชา ได้รับทุนจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี โท เอก ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ที่ University of Chicago และ California Institute of Technology สหรัฐอเมริกา
‼️เรื่องดาราศาสตร์ ไม่แน่ใจว่าชอบตั้งแต่ตอนไหน จับพลัดจับผลูตอนประถม (ที่โรงเรียนอนุบาลนครปฐม) โดนจับไปตอบคำถามวิทยาศาสตร์ แล้วครูก็มอบหมายให้เราทำเรื่องดาราศาสตร์
ตอนนั้นยังไม่ได้ชอบอะไรมากจนถึงชั้นมัธยมต้น
(ที่โรงเรียนสตรีวิทยา) ที่มีค่ายโอลิมปิกดาราศาสตร์รุ่นแรกๆ เราก็ลองไปสอบดูเพราะว่าพอมี
ความรู้อยู่แล้ว
แต่ถ้าชอบจริงๆ น่าจะชั้นมัธยมปลาย เพราะเรียนฟิสิกส์แล้วชอบ เพราะรู้สึกว่าเป็นวิชาที่อธิบายธรรมชาติได้ดีที่สุดแล้ว แล้วก็อยากทำอะไรที่ท้าทาย เลยรู้สึกว่าอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์บวกกับที่โรงเรียนก็สนับสนุนและได้ทุนด้วย ตอนนั้นเราได้ทุนทั้งปริญญาตรี โท เอก แต่ต้องไปเรียนซ้ำมัธยมปลายอีกปีหนึ่งก่อน และได้เริ่มทำวิจัยตอนปริญญาตรีเลย โดยตอนนั้นก็ส่งอีเมลหาอาจารย์ทั้งคณะเลยว่าอยากทำงานวิจัย แล้วก็โชคดีที่ได้อาจารย์ที่ดี หลังจากนั้นก็สอบเข้า ป.โทควบ แล้วก็มาทำงานต่อเป็นนักวิจัยหลัง ป.เอก (Postdoc)‼️‼️
ดร.ณิชา มีความตั้งใจตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายแล้วว่า อยากทำงานในเรื่องวิวัฒนาการจักรวาล หรือ Cosmology ในระดับปริญญาเอกจึงขอทำเรื่องจักรวาลวิทยา “แต่อาจารย์บอกว่า เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าขอบเขตของปริญญาเอก จึงได้มาทำในเรื่อง*วิวัฒนาการของกาแลกซี* 🌀🌀
Source ▪️▪️
https://www.thaipbs.or.th/news/content/317786
293/2023
🔺▪️▪️RelatedContent▪️▪️🔺
(ภาพที่ถ่ายมาจาก ออกมาสวยแบบนั้นเลยหรือ🔹)
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1509382002929891&id=100015743169755&mibextid=2JQ9oc
(เมื่อกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เวบบ์ เปิดจักรวาล
ที่ใหญ่กว่าสู่โลก🔹รวมทุกเรื่องราวของ JWST🔹)
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1265144147353679&id=100015743169755
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย