Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
efinanceThai - สำนักข่าวหุ้น และการลงทุน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
5 ก.ย. 2023 เวลา 07:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ไฮยีลด์บอนด์น่าเป็นห่วง ความเชื่อมั่นหาย เสี่ยงโรลโอเวอร์ยาก
ไฮยีลด์บอนด์ (High Yield Bond) ใช้เรียกตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ที่ อันดับเครดิตเรทติ้งต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (Non Investment Grade) หรือต่ำกว่า BBB- ไปจนถึง กลุ่มที่ไม่มีการจัดอันดับเครดิต (Unrated Bond) ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจขนาดกลาง-เล็กที่มีปัญหาการหาแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน
จึงใช้วิธีการระดมทุนผ่านการขายหุ้นกู้แทน โดยจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกู้ปกติ (มากสุดในระบบถึง 9.92%ต่อปี) เพื่อจูงใจนักลงทุน ปัจจุบันจะขายให้กลุ่มนักลงทุนสถาบันกับนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) เท่านั้น เพราะถือเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงสูงมาก และมักเกิดปัญหาการผิดนัดชำระบ่อยครั้ง
.
ที่จริงปัญหาการผิดนัดชำระหุ้นกู้ทุเลาไปพักใหญ่ แต่ปีนี้กลับอักเสบขึ้นมาอีกแล้ว จากปัญหาเดิม ๆ คือ "ขาดสภาพคล่องทางการเงิน" โดยเฉพาะกลุ่ม บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหุ้นกู้ประเภท High Yield Bond ทั้งนั้น มีทั้งเบี้ยวไม่จ่ายเลย, จ่ายได้บางส่วน และขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ขยายเวลาชำระรวมถึงปรับเงื่อนไขใหม่ ประกอบด้วย
.
1.บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) : ผิดนัดชำระหุ้นกู้ 7 รุ่น รวมมูลค่าหนี้คงค้าง 2,334.20 ล้านบาท
2.บมจ.ช ทวี (CHO) : เคยผิดนัดชำระหุ้นกู้ 1 ชุด จนถูกเรียก Call Default ในหุ้นกู้ที่เหลือ ซึ่งมีทั้งสิ้น 4 ชุด มูลค่ารวม 745.69 ล้านบาท ยังดีที่ภายหลังผู้ถือหุ้นกู้ใจดี อนุมัติให้ยกเลิก Call Default พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ และยืดขยายเวลาชำระหนี้เพิ่มให้
3.บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) : ไฮไลต์ของปีนี้เลย เพราะนอกจากแต่งงบการเงินจนผิดเพี้ยน ยังผิดนัดชำระหุ้นกู้จำนวน 5 รุ่น รวมมูลค่าหนี้คงค้างถึง 9,198.40 ล้านบาท
4.บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) : รายนี้ขอผู้ถือหุ้นกู้ให้อนุมัติขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 1 ปี และพิจารณาอนุมัติการแบ่งชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน ของหุ้นกู้ 2 ชุดที่จะครบกำหนด ต.ค.นี้ โดยทั้ง 2 ชุด มีมูลค่าคงค้างรวม 669.7 ล้านบาท 5.บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) : รายล่าสุด ไม่สามารถชำระหุ้นกู้รุ่น JKN239A ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอน 1 ก.ย.ที่ผ่านมา สามารถจ่ายได้เพียง 156.6 ล้านบาทเท่านั้น
จากมูลค่าเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 609.98 ล้านบาท และจะขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ 29 ก.ย.นี้ เพื่อขยายเวลาชำระออกไป
.
กลุ่มนี้คือ บจ.ที่ยังซื้อขายกันปกติในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ก่อนที่จะมีปัญหา ซึ่งหลังจากแจ้งว่าผิดนัดชำระทำให้ราคาหุ้นโดยกระหน่ำขายสร้างความเสียหายมหาศาล บางรายก็โดยพักการซื้อขายยาวไปเลย บางรายกลับเทรดได้ แต่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เรียกว่าสร้างความเสียหายหลายเด้งกระทบเป็นวงกว้าง
.
นี่ยังไม่นับรวมกลุ่มที่ถูกพักการซื้อขายอยู่แล้ว และกลุ่มบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยรายงานจากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) พบว่า หุ้นกู้ที่มีการผิดนัดชำระหนี้ (Default Payment) ณ 1 ก.ย.66 มีอยู่ทั้งหมด 7 บริษัท จำนวน 23 รุ่น รวมมูลค่ากว่า 19,039.96 ล้านบาท
.
อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ปัญหาการผิดนัดชำระหุ้นกู้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิม (Roll Over) ของกลุ่มไฮยีลด์บอนด์ ที่หลายรายขายไม่หมด ขายได้ไม่เต็มวงเงินเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะนักลงทุนระมัดระวังความเสี่ยงมากขึ้น อย่างไรก็ตามหุ้นกู้กลุ่มที่อยู่ในระดับสามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ยังสามารถขายได้ปกติ
.
ส่วน นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินว่า สถานการณ์หุ้นกู้กลุ่มไฮยีลด์บอนด์ขณะนี้น่าเป็นห่วง เพราะมีการผิดนัดชำระเกิดขึ้นหลายบริษัทเกินไป ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้มีการชะลงทุนต่อหรือลงทุนในตราสารหนี้ตัวใหม่ที่ออกมาเพื่อโรลโอเวอร์ชุดเดิม แม้จะมีการเพิ่มผลตอบแทน แต่ความเสี่ยงการผิดนัดชำระเป็นเรื่องที่สำคัญหว่า แต่มองว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤติในตลาดหุ้นกู้ เพียงแต่จะกระทบความเชื่อมั่นระยะสั้นเท่านั้น
.
ด้านแหล่งข่าวผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุว่า หุ้นกู้กลุ่มไฮยีลด์บอนด์ที่กำลังจะขายในช่วงที่เหลือของปีนี้ หากเป็น บจ.มีชื่อเสียง มีเครดิตเรตติ้งตั้งแต่ระดับ BBB ขึ้นไป อยู่ในกลุ่มธุรกิจไฟแนนซ์ หรือ บริษัทลูกในเครือธุรกิจขนาดใหญ่ อาจจะยังสามารถเสนอขายได้อยู่ แต่หากเป็น บริษัทนอกตลาดฯ หรือไม่มีชื่อเสียงมากพอ และไม่มีกลุ่มนักลงทุนประจำที่เหนียวแน่น
รวมถึงมีเครดิตเรตติ้งระดับต่ำกว่า BBB มีโอกาสที่จะขายไม่หมด และขายยากขึ้น เพราะนักลงทุนจะระมัดระวังเป็นพิเศษ หลังจากมีการผิดนัดชำระเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
.
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" จึงได้สำรวจข้อมูลเพิ่มเติมจาก ThaiBMA พบว่า ช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ มี 19 บจ. ที่หุ้นกู้ไฮยีลด์บอนด์ ถึงกำหนดชำระคืน มูลค่ารวมกัน 1.1 หมื่นล้านบาท ดูข้อมูลต่อได้ที่ :
https://rb.gy/s5qhs
.
ทั้งนี้ "ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์" หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะนำ 3 แนวทางพิจารณาลงทุนหุ้นกู้ ประกอบด้วย 1.ไม่นำเงินทั้งหมดไปลงทุนในไฮยีลด์บอนด์ เพราะมีความเสี่ยงสูง แม้จะจูงใจด้วยอัตรดอกเบี้ยมากแค่ไหนก็ตาม 2.ประเมินแนวโน้มบริษัทที่จะขายหุ้นกู้ให้รอบคอบ
ทั้งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและในอนาคต และ 3. หากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐยังไม่ได้ชัดเจนและยังเป็นด้านลบกับตลาดตราสารหนี้ หรือเป็นลบกับสภาพคล่องอาจจะต้องไม่เป็นต้องรีบร้อนเข้าไปลงทุน
.
เช่นเดียวกับ "อริยา ติรณะประกิจ" มองว่า ในภาวะเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว เมื่อบริษัทขนาดกลาง - ขนาดเล็กที่มีสายป่านไม่ยาวจะขายหุ้นกู้ นักลงทุนต้องมีการศึกษาให้ดี มากกว่าที่จะดูอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาเรื่องของความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออก แม้ว่าแต่ละครั้งที่ออกหุ้น ก.ล.ต.จะให้มีการเปิดเผยข้อมูลเป็นหลักแล้วก็ตาม
เช่น ดูความสามารถในการชำระหนี้ อัตราส่วนสภาพคล่อง อัตราส่วนรายได้เพียงพอที่จะควบคุมดอกเบี้ยจ่ายในแต่ละปีหรือไม่ แม้แต่ตัวผู้บริหารเองก็ต้องประเมินว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ หรือบริษัทที่มีประวัติที่หวือหวาก็ต้องดูอย่างรอบครอบ เพราะบางบริษัทอาจจะมีการเน้นการเติบโต มีการลงทุนมาก ๆ ถ้าพิจารณาเป็นหลักทรัพย์การลงทุนในหุ้น ๆ ตัวนั้นอาจจะมีศักยภาพที่มีการเติบโตสูง และสภาพคล่องเป็นอย่างไร
.
ด้าน "ชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์" กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) กสิกรไทย เพิ่มเติมว่า กลยุทธ์การลงทุนหุ้นกู้ของนักลงทุนสถาบันในขณะนี้ส่วนใหญ่คัดสรรการลงทุนหุ้นกู้ระดับ Investment Grade ขึ้นไป รวมถึงวิเคราะห์ศักยภาพของธุรกิจ โดยจะต้องมีหนี้สินไม่สูงเกินไป และมีสภาพคล่อง คัดเลือกธุรกิจ และผู้บริหารที่รู้จักเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป นอกจากนี้ก็จะไม่พิจารณาลงทุนหากเป็นหุ้นกู้ของบริษัทที่ไม่มีเครดิตเรทติ้ง
.
หนึ่เองครับ ^^
.
#หุ้นกู้ #ไฮยีลด์บอนด์ #ผิดนัดชำระ #JNK #ALL #STARK
.
"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" มีข่าว มีโอกาส...
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย