9 ก.ย. 2023 เวลา 02:00 • ธุรกิจ

Dynamic Pricing Strategy ตั้งราคาห้องพักดึงดูดลูกค้าพร้อมสร้างกำไร

สำหรับการทำธุรกิจ รายได้ถือเป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง หากเกิดการขาดทุนหลายเดือนติดกัน สุดท้ายอาจไม่สามารถประคองธุรกิจนั้นไหว ในขณะเดียวกันถ้าหากมีรายได้เข้ามาแต่ไม่เหลือเป็นกำไรเลย ธุรกิจก็จะดำเนินต่อไปแบบสภาพไม่ค่อยคล่องตัว
ในอุตสาหกรรมโรงแรมเองก็มีการเลือกใช้กลยุทธ์ด้านราคา(Price Strategy) หลายรูปแบบ เพื่อให้โรงแรมของตนเองอยู่รอดและสามารถแข่งขันกับโรงแรมคู่แข่งได้ ไม่ต่างกับธุรกิจประเภทอื่น ซึ่งแต่ละโรงแรมจะเลือกใช้กลยุทธ์อะไรก็ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละโรงแรมจะเลือกใช้อย่างไรเพื่อให้เหมาะกับสภาพตลาด พฤติกรรมของผู้บริโภค หรือแม้แต่สภาพการแข่งขันในตลาดนั้น ๆ ซึ่งอีกตัวอย่างหนึ่งของการเลือกใช้กลยุทธ์ราคาที่วันนี้เราจะมาทำความรู้จักก็คือ Dynamic Pricing Strategy
การตั้งราคาแบบยืดหยุ่น(Dynamic Pricing) คือ การตั้งราคาตามระดับความต้องการของสินค้าหรือบริการในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดย Dynamic Pricing เป็นกลยุทธ์ที่มักจะพบได้บ่อยในธุรกิจบริการที่ในแต่ละช่วงเวลาต้องรับลูกค้าจำนวนที่ต่างกัน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Dynamic Pricing อาจจะเป็นอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับระดับความต้องการ(Demand) ซึ่งอาจไม่ใช่ความต้องการต่อสินค้าโดยตรง แต่อาจเป็นปัจจัยทางอ้อมที่ส่งผลต่อความต้องการของผู้บริโภค เช่น ความพึงพอใจต่อสินค้าหรือบริการ ระดับสินค้าที่เหลืออยู่ เป็นต้น โดยพื้นฐานการตั้งราคา Dynamic Pricing เกิดมาจาก 2 สาเหตุใหญ่คือ
1. กำจัด Demand ส่วนเกิน(ขายไม่ทัน)
หากโรงแรมของเรามีจำนวนห้องไม่เพียงพอต่อการรองรับลูกค้า วิธีการกำจัด Demand ส่วนเกิน ด้วยการตั้งราคาแบบ Dynamic Pricing ก็คือการเพิ่มราคาห้องพักให้สูงขึ้นเพิ่มลดจำนวนลูกค้าลงชั่วคราว
2. กำจัด Supply ส่วนเกิน(ขายไม่หมด)
ตรงกันข้ามหากห้องพักเหลือว่าง วิธีกำจัด Supply ส่วนเกิน ก็คือการลดราคาห้องพักลง ทั้งนี้แม้การลดราคาจะทำให้กำไรลดน้อยลง แต่อย่าลืมว่าต้นทุนเรายังคงเท่าเดิม ดีกว่าปล่อยให้เหลือห้องว่างแล้วไม่มีรายได้
โรงแรมส่วนใหญ่ที่ใช้ Dynamic Pricing Strategy จะทำการเซ็ตราคาแบบกลยุทธ์ Seasonal Pricing ในช่วง ตั้งราคาสูงขึ้นในช่วง high season แล้วปรับราคาลงในช่วง low season และกลยุทธ์ในการขายห้องพักช่วง weekday ในราคาปกติ แล้วตั้งราคาสูงเพิ่มขึ้นในช่วง weekend
นอกจากนี้ยังมีการปรับราคาแบบ Realtime โดยปัจจัยของการปรับขึ้นและลงของราคาห้องพัก จะขึ้นอยู่กับอัตราการเข้าพัก (Occupancy rate) และราคาของคู่แข่ง (Competitors) ถ้าโรงแรมไหนมีระบบที่ช่วยปรับราคาอัตโนมัติ ก็จะสามารถปรับราคาห้องพักแบบ Realtime ได้โดยที่ไม่ต้องคอยนั่งเช็คห้องเหลือแล้วตั้งราคาใหม่ตลอดเวลา
Dynamic Pricing Strategy นี้ไม่ได้มีเพียงข้อดีแต่ยังมีข้อเสีย หากโรงแรมไหนสนใจจะใช้กลยุทธ์นี้จะต้องวิเคราะห์และเข้าใจให้ดีเสียก่อน จะปรับใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่น ๆ ตามสถานการณ์ตลาดก็ดี เพราะบางช่วงอาจจะเหมาะกับกลยุทธ์อื่นมากกว่าได้
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก : https://greedisgoods.com/dynamic-pricing-คือ/#:~:text=Dynamic Pricing คือ การตั้ง,ลูกค้าจำนวนที่ต่างกัน
รู้จัก Hotelsup มากขึ้น : https://www.hotelsup.co/
โฆษณา