10 ก.ย. 2023 เวลา 12:02 • นิยาย เรื่องสั้น

ดูแก่นแท้ในใจจริงแล้วก็เป็นเรื่องธรรมชาติ

สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงแล้วมีตามดับไปเป็นธรรมดา เป็นพุทธวาจาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเองก็ท่องบ่นครั้งแล้วครั้งเล่า กล่าวตามคำพูดหรือวาจาของท่านทั้งหมดเป็นเวลาติดต่อกันเพื่อให้จิตใจนิ่งสงบให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่มันพูดง่ายปฏิบัติยาก แค่คิดก็ยังคิดไม่ออกว่าจะหยุดให้ใจว้าวุ่นได้อย่างไรกัน เย็นวันนี้ฝนตกหนักหลังจากหยุดตกมาหลายวัน เราเองออกไปยืนดูสายฝนที่ เทกระหน่ำลงมาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เสียงฟ้าร้องหึ่มๆๆเป็นระยะ ไม่เท่ากับความน่ากลัวของเสียงฟ้าคำราม
ฝ่าลงมาเปรี้ยงๆ เราเองยืนใต้ชายคา ฟังแล้วน่ากลัวมากจริงๆ เพื่อให้จิตสงบ ถอยเข้าบ้าน กลัวเสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องรับกันไปมาน่ากลัว สักครู่ไฟฟ้าดับหมดทั้งหมู่บ้านโชคดีที่เราเองจัดไฟฉายไว้ 2 กระบอกและมีเทียนไขเล่มใหญ่อยู่ติดบ้านอีกมันมืดน่ากลัว ทุกครั้งจะมีพี่อยู่เป็นเพื่อน
ถึงจะป่วยไม่แข็งแรง ก็ยังพูดคุยทักทายให้กำลังใจกัน คุยพูดกันจนฝนหยุดตก ก็จะไม่รู้สึกอะไรถึงไฟมืดก็มีไฟดวงเล็กเป็นเพื่อน แต่นี่เป็นวันวิปโยคอะไรของเรา มองดูเวลาแล้ว 21 นาฬิกา คือ 21:00 น ยังไม่ดึกมาก แต่ฝนตกนานไป ตกแต่หัวค่ำแล้วยังไม่หยุดแถมไฟฟ้าดับอีกช่างน่ากลัวมากอยู่แล้ว
นี่อะไรเกิดขึ้นหลังบ้าน ที่ห้องครัวได้ยินเสียงถล่มลงมา นี่บ้านเราเองหรือบ้านคนอื่นตกใจแทบล้ม หายใจไม่ออกแน่นไปหมด ความทรมานมาถึงแล้ว มันกำลังเกิดอะไรขึ้น เราเองตั้งสติค่อยๆเข้ามาข้างในบ้านใกล้ๆห้องพระห้องนั่งพักผ่อน นั่งลงข้างๆเงยหน้าขึ้นดูเพดานที่บ้าน
ยังอยู่ดี แต่เสียงที่ดังทยอยหล่น ฝนก็ยังไม่หยุดตก แต่ความเก่าของหลังคาบ้าน มันพังลงได้ง่ายๆ เพราะความเก่าความชื้นลมกรรโชกปลวกกินเนื้อไว้ เราคิดในใจแน่นอนบ้านเราเอง ตัวบ้านด้านหน้าหลังข้างบนและข้างล่างยังอยู่ดี แต่หลังบ้านส่วนติดบ้านใหญ่ถล่มลงมาน่ากลัวมากๆ เราเองได้แต่นั่งเป็นหุ่นอยู่กับเก้าอี้
นิ่งนานเท่าไหร่ไม่ทราบ นั่งจนกระทั่งเกือบเที่ยงคืน ไฟฟ้าสว่างขึ้น ท่ามกลางความยินดีของบ้านใกล้เคียง แต่ตัวเราเองต้องออกไปดูบ้านที่ถล่ม คิดแล้วเปียกอย่างนี้ต้องรีบเก็บกวาดเพราะเชื้อแบคทีเรียจะทำงาน กว่าจะสว่างเดี๋ยวเราจะป่วย เพราะได้รับเชื้อโรค จัดการเก็บกวาดเช็ดถูเอา
ให้เอี่ยมก่อน ส่วนข้าวของพวกนี้ค่อยจัดการ ในใจคิดแล้วก็เก็บกวาดเรียบร้อยใช้เวลา 1 ชั่วโมง เปียกเลอะเทอะไปอาบน้ำสระผมก็เกือบค่อนสว่าง ล้มตัวลงนอน นอนไม่หลับ ผมเปียกคิดถึงคุณพ่อคุณแม่น้ำตาไหล เวลามีทุกข์ท่านจะช่วยเราทุกเรื่อง แม้ว่ามีครอบครัวแล้วมีลูกแล้ว คิดถึงความดีของท่าน
ที่มันฝังอยู่ในแก่นแท้ของหัวใจลึกๆของหัวใจ คิดถึงมากน้ำตาไหลไม่ยอมหยุดคิดถึงสามีลูกมันก็เท่านั้นเอง ในแก่นแท้ของหัวใจมันล้มเหลวไปสู่มือที่มืดมน คิดอะไรก็คิดไม่ออกตั้งสติอยู่นานวัฏจักร เป็นทุกข์จะให้เกิดปัญหาเกิดมาพบความทุกข์อีกเหรอ
ในใจคิดถึงความไม่แน่นอนไม่ยั่งยืนเป็นอนิจจัง ประโยชน์ของการอยู่ในลมหายใจเป็นเพื่อนมีประโยชน์เกิดขึ้นไม่มีอะไรจริงจัง ไม่มีอะไรเป็นที่ตั้งยึดเหนี่ยว ไม่มีอะไรเป็นของเรา ไม่มีอะไรเป็นของใคร ไม่มีความสุขไม่มีทุกข์ มองไม่เห็นอะไรสำคัญชีวิตก็ยังไม่เป็นของเราเวลานี้
เราเริ่มคิดถึงคำพูดพระพุทธเจ้าองค์ตรัสที่ทรงตรัสไว้ สิ่งทุกสิ่งเกิดทุกสิ่งย่อมดับเป็นธรรมดา เราเองนั่งอยู่นานดีที่ได้อยู่คนเดียว ได้พิจารณาธรรมะ ได้เห็นทุกข์ ได้เข้าถึงธรรมะ เมื่อความทุกข์เกิดเพราะมาพิจารณาดูไม่อยากจากก็ต้องจากคนที่เรารักคุณพ่อคุณแม่ลูกและสามี ทุกคนไม่อยากจากกันสัญญาก็เท่านั้น
อยู่ด้วยกันอย่างสุขอย่างทุกข์ก็เข้างานมันคือความไม่แน่นอนไม่จริงจัง ไม่ยั่งยืนในช่วงที่ทุกข์มาถึง ต้นเหตุของทุกข์ทำไปได้เห็นอริยสัจ 4 มันเป็นเช่นนั้นเองมันเกิดขึ้นอย่างนี้เอง ในใจลึกๆแก่นแท้ของใจจิต เราได้รู้แล้วว่าทุกอย่างมันเป็นเช่นนั้นเองยึดถืออะไรไม่ได้เลยเพราะมันเป็นสมมุตินี่เอง
โฆษณา