วัดสุทัศน์เทพวราราม ราชวรวิหาร (3) .. สัตตมหาสถาน
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรวิหาร (3) .. “สัตตมหาสถาน”
ในวัดสุทัศน์ มีสิ่งทีน่าสนใจอีกสิ่งหนี่ง คือ “สัตตมหาสถาน” สถานที่สำคัญ 7 แห่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข หลังจากตรัสรู้แล้วเป็นเวลาแห่งละ 1 สัปดาห์ เรียงตามลำดับ
รัชกาลที่ ๓โปรดเกล้าฯ ให้สร้างจำลองขึ้นแทนพระธาตุเจดีย์ ตั้งอยู่บริเวณกำแพงวัดด้านทิศตะวันออก เรียงเป็นแถวแนวทิศเหนือ-ใต้ วัดสุทัศน์จึงไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่นๆ เพราะมีสัตตมหาสถานแทนที่อยู่แล้ว “สัตตมหาสถาน” ประกอบด้วย
สัปดาห์ที่ 1 “รัตนบัลลังก์” .. เมื่อพระโพธิสัตว์ประทับภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงต่อสู้กับพญามารและเหล่าเสนา พญามารได้กล่าวตู่เอาอาสนบัลลังก์ว่าเป็นของตน พระมหาบุรุษทรงยืนยันอาสนบัลลังก์ว่าพระองค์ได้ประทับอยู่ก่อน โดยมีพระแม่ธรณีวสุนธราเป็นพยาน
พระแม่ธรณีได้บีบมวยผม ทำให้น้ำที่พระองค์กรวดทุกครั้งเมื่อถวายทานตลอดหลายชาติ ไหลท่วมพญามารและเสนาจนพ่ายแพ้ จากนั้นพระองค์ทรงบำเพ็ญเพียงทางจิต กระทั่งลุปัจฉิมยามก็บรรลุอาสวักขยญาณ ตรัสรู้อริยสัจ ๔ สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา สถานที่ตรัสรู้ชื่อว่า รัตนบัลลังก์ พระองค์ประทับตลอด ๗ วัน เพื่อพิจารณาปฏิจจสมุปบาทที่ทรงบรรลุแล้ว โดยสถานที่แห่งนี้จะมีสิ่งสำคัญคือ “ต้นโพธิ์ลังกา” สมมุติเป็นต้นมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้
สัปดาห์ที่ 2 "อนิมิสเจดีย์" ... ทรงยืนจ้องพระเนตรดูต้นมหาโพธิ์ โดยมิได้กะพริบพระเนตรตลอด 7 วัน มีลักษณะเป็นศิลปกรรมจีนที่เด่นชัด เป็นศิลาจีนสลักเป็นรูปปราสาท ตั้งอยู่บนฐานสูงมีบันไดทางขึ้น ประดิษฐานพระพุทธรูปปางถวายเนตร
รอบผนังฐานปั้นลายนูนต่ำรูปท้องฟ้า ก้อนเมฆ และเทวดารำล่องลอยอยู่บนฟ้า ด้านหน้าเก๋งจีนเป็นรูปปั้นช้าง รูปปั้นสิงโต และรูปจำลองพระอนิมิสเจดีย์ ศาลาที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำมาจากประเทศจีน
สัปดาห์ที่ 3 "รัตนจงกรมเจดีย์" .. ทรงนิมิตจงกรมขึ้น แล้วเสด็จจงกรมอยู่ที่นี้เป็นเวลา 7 วัน โดยมีแผ่นศิลาปูนบนฐานสี่เหลี่ยมสูง (สมมุติเป็นที่รัตนจงกรมเจดีย์)
สัปดาห์ที่ 4 "รัตนฆรเจดีย์" .. เสด็จไปทางทิศพายัพ แห่งต้นศรีมหาโพธิ์ ประทับนั่งขัดสมาธิในเรือนแก้วซึ่งเทวดานิรมิตถวาย ทรงพิจารณาพระอภิธรรมตลอด 7 วัน สถานที่นี้จึงเรียกว่า “รัตนฆรเจดีย์” หรือเจดีย์แห่งอาคารที่ประดับไปด้วยเพชรพลอย หรือเรือนแก้ว โดยมีศาลาศิลาทรงโรงแบบจีน (สมมุติเป็นเรือนแก้วหรือรัตนฆรเจดีย์)
สัปดาห์ที่ 5 "อชปาลนิโครธ" ... ประทับใต้ร่มไม้ไทร โดยมีชื่อว่า ซึ่งเป็นที่พักของคนเลี้ยงแกะ ทรงถูกธิดาทั้งสามของพญามารวัสตี คือ นางราคะ นางอรตี และนางตัณหา เข้าไปประโลมยั่วยุด้วยเสน่ห์กามคุณต่างๆ นานา
แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงเอาพระทัยใส่ โดยประกอบด้วยต้นไทรบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทับนั่งยกพระหัตถ์ขวาห้ามธิดาพญามาร (สมมุติเป็นต้นอชปาลนิโครธ)
สัปดาห์ที่ 6 "มุจลินท์" .. ประทับนั่งขัดสมาธิภายใต้ร่มไม้จิก ชื่อว่า มุจลินท์ ทางทิศอาคเนย์แห่งต้นมหาโพธิ์ ตอนนั้นเกิดฝนตกลงมาเป็นเวลา 7 วัน พญานาคตนหนึ่งมีนามว่า พญามุจลินท์นาคราช เกิดความเลื่อมใสจึงได้แผ่พังพานป้องพระพุทธเจ้าเป็นเวลา 7 วัน
สัปดาห์ที่ 7 "ราชายตนะ" .. เสด็จไปประทับภายใต้ร่มไม้เกดโดยมีชื่อว่า ราชายตนะ ประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข ในสัปดาห์นี้พระพุทธเจ้าฉันอาหารเป็นมื้อแรก และท้าวจตุโลกบาลถวายบาตรพระพุทธเจ้า
โดยมีต้นเกดบนฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรับผลสมอนั่งสมาธิ
นอกจากนั้น ยังมีประติมากรรมเล่าเรื่องการโปรดปัญจวัคคี (เบญจวัคคี) โดยเมื่อพระพุทธองค์ทรงออกจากประทับเสวยวิมุตติสุขแล้ว ได้เสด็จไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวันเพื่อโปรดเบญจวัคคี ซึ่งในตอนแรกไม่ยินยอมรับพระพุทธองค์ แสดงท่าทีต่างๆ นาๆ
แต่ในที่สุดพระพุทธองค์ทรงปฐมเทศนาให้เหล่าเบญวัคคีฟัง และท่านอัญญาโกณฑัญญะ ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์สาวกองค์แรก นับแต่นั้นพุทธศาสนาก็ครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
