14 ก.ย. 2023 เวลา 06:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ดาวหางนิชิมูระ

น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ชาวโลกจะได้เห็นดาวหางดวงนี้ (สำหรับในไทยคงยากยิ่งกว่า​ เอาภาพประวัติมาฝากแล้วกัน)​ 🌌🌠 ☀️
ดาวหางนิชิมูระ ถูกค้นพบเมื่อเดือนที่แล้วในวันที่
12 สิงหาคม 2566​ สามารถมองเห็นได้ในท้องฟ้ายามค่ำคืน ยังคงเป็นปริศนาอยู่บ้าง ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเห็นได้ในเย็นวันนี้เท่านั้น
🌠 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 หางยาวอันสวยงามของมันถูกทำลายโดยการปล่อยมวลโคโรนา (CME) จากดวงอาทิตย์ แต่ขณะนี้ได้ 'เติบโต' แล้ว เนื่องจากรังสีจากดวงอาทิตย์และลมสุริยะได้ผลักน้ำแข็ง ฝุ่น และสิ่งสกปรกออกไปด้านหลังดาวหาง
แม้ว่าดาวหาง C/2023 P1 นิชิมูระจะค่อนข้างสว่างสำหรับดาวหาง แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะตรวจพบเพราะมันจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดีบนท้องฟ้า
🌠 มีหน้าต่างสั้นๆ สำหรับการชมดาวหางนิชิมูระในตอนเย็น ซึ่งเป็นชั่วโมงหลังจากดวงอาทิตย์ตกดิน
ระหว่างวันที่ 13-17 กันยายน ในช่วงเย็น ดาวหาง
นิชิมูระจะเคลื่อนตัวต่ำบริเวณขอบฟ้า​ตะวันตก ก่อนที่จะจมลงใต้ขอบฟ้าในเวลาประมาณ 20.30 น. จะขึ้นอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 6.00 น. แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นเพียงครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็จะถูกบดบังด้วยแสงจ้าของดวงอาทิตย์ในตอนเช้า
ดาวหางเคลื่อนเข้าใกล้โลกมากที่สุดเมื่อวันที่ 12 กันยายน โดยผ่านห่างจากโลกไป 125 ล้านกิโลเมตร จากนั้นจะถึงจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ 17 กันยายน โดยผ่านระยะทาง 43 ล้านกิโลเมตร จากดวงอาทิตย์
มีวงโคจรประมาณ 430 ปี และโคจรใกล้โลกครั้งสุดท้ายในศตวรรษที่ 17 ครั้งต่อไปจะกลับมา
ในปี พ.ศ.​3001 ถ้าตอนนั้นยังไม่ถูกทำลาย
🌌 หลังจากที่ดาวหางเคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์
วันที่ 17 กันยายน ในที่สุด มันก็จะมุ่งหน้าไปทางใต้ของระบบสุริยะ จะมีเฉพาะผู้สังเกตการณ์ในซีกโลกใต้เท่านั้นที่มองเห็นมันได้ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็จะยังคงถูกซ่อนไว้โดยแสงจ้าของดวงอาทิตย์จนถึงเดือนตุลาคม เมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะจางหายไป​▪️▪️
📸@Tim Straub
320/2023​
จับภาพช่วงเวลาที่หางของดาวหาง สีเขียวถูกดวง
ดวงอาทิต​ย์บดบัง​ C/2022 E3 ส่วน
ดาวหาง ดาวเคราะห์น้อย และดาวตก
ต่างกันอย่างไร​ 🌌
โฆษณา