17 ก.ย. 2023 เวลา 11:45 • กีฬา

บางครั้งการพ่ายแพ้ก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

มีบทหนึ่งในหนังสือชีวประวัติของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ให้มุมมองกับฟุตบอลได้เอาไว้ให้เราได้เก็บไปคิดไตร่ตรองกันถึงผลสกอร์หรือเกมการแข่งขันที่ไม่เป็นใจของทีมที่เรารักได้เป็นอย่างดี โดยเป็นคำพูดที่ออกมาจากเจ้าตัวโดยตรง ซึ่งมีใจความว่า
ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การลงเตะแล้วแพ้มันเป็นเรื่องสะเทือนใจมาก ผมไม่ใช่คนที่จะมัวนั่งคิดวนไปวนมาแล้วทำทุกอย่างต่อไปเหมือนเดิม การแพ้ในนัดชิงชนะเลิศเป็นเรื่องปวดร้าวใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทีมคุณยิงตรงกรอบ 23 ครั้ง ขณะที่คู่แข่งยิงตรงกรอบแค่ 2 ครั้ง หรือแพ้ด้วยการเตะลูกโทษ สิ่งแรกที่ผมคิดคือ “ต้องคิดออกให้เร็วว่าเราควรทำอะไรต่อไป”
สมองผมจะพุ่งตรงไปที่การปรับปรุงทีมและการฟื้นตัวจากการพ่ายแพ้ในทันที นี่เป็นคุณสมบัติที่ดีในตัวผมที่สามารถคิดอ่านได้รวดเร็ว ทั้งที่มันอาจจะง่ายกว่าถ้าผมเพียงแค่รู้สึกเสียใจเท่านั้น
บางครั้งการพ่ายแพ้ก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การรู้จักรับมือกับอุปสรรคเป็นคุณสมบัติที่ดี แม้ในช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุด คุณยังได้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง มีคำพูดที่ยิ่งใหญ่คำหนึ่งว่า “มันเป็นแค่อีกวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
พูดอีกอย่างว่า การคัมแบ็กเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นยูไนเต็ด ถ้าไม่ตื่นตัวแก้ไขเรื่องการพ่ายแพ้ รับรองว่าต้องแพ้อีกบ่อยครั้งแน่และเราจะทำแต้มหลุดมือไปเพราะฝ่ายตรงข้ามได้ประตูตีเสมอตอนท้ายเกมจากการตั้งเตะครั้งสุดท้าย และไปชนะต่ออีก 6 หรือ 7 เกมรวด เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
สำหรับแฟนบอล เป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างในวันจันทร์ ถ้าผลการแข่งขันในช่วงสุดสัปดาห์ไม่ได้อย่างใจ มีชายคนหนึ่งเขียนจดหมายมาถึงผมในเดือนมกราคม 2010 ว่า “ช่วยคืนเงิน 41 ปอนด์ที่ผมจ่ายเป็นค่าตั๋วบอลเมื่อวันอาทิตย์มาด้วย คุณสัญญาว่ามันจะเป็นเกมที่สนุก แต่ผมไม่สนุกกับมันเลย ขอเงิน 41 ปอนด์ คืนได้ไหม” เขาเป็นแฟนบอลของเรา ผมคิดอยากจะเขียนตอบกลับไปว่า “ช่วยหักเงิน 41 ปอนด์ที่ว่านั่นจากกำไรที่ผมทำไว้ตลอด 24 ปีที่ผ่านมาได้ไหม”
คุณเตะชนะทีมอย่างยูเวนตุส และเรอัล มาดริด แต่กลับมีคนมาขอเงินคืนหลังวันอาทิตย์ที่ผลการแข่งขันไม่ได้อย่างใจ ยังมีทีมฟุตบอลที่ไหนในโลกที่ทำให้หัวใจคุณหยุดเต้นได้มากกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีก ผมเคยนึกอยากเขียนในบันทึกเตรียมการแข่งขันเตือนแฟนบอลของเราว่า ถ้าทีมเราตามอยู่ 1-0 และยังเหลือเวลาอีก 20 นาที ผมแนะนำให้กลับบ้าน มิฉะนั้นคุณอาจถูกหามออกไปนอนที่โรงพยาบาลแมนเชสเตอร์ รอยัล อินเฟอร์มารีก็ได้ ผมหวังว่าคงไม่มีใครท้วงถ้าผมผมจะบอกว่า “ไม่มีใครผิดหวังแน่ เกมของเราไม่เคยจืดเลย”
ผมระลึกอยู่เสมอว่าฟุตบอลไม่ใช่แค่เรื่องชัยชนะและการแห่แหนบนรถเปิดหลังคาเท่านั้น ตอนที่เราแพ้เอฟเวอร์ตันในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพเมื่อปี 1995 ผมบอกว่า “พอกันที ถึงเวลาที่ผมต้องเปลี่ยนแปลงอะไรที่นี่เสียที” แล้วเราก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ เราผลัดดันนักเตะเยาวชนขึ้นมา ที่เรียกกันว่า Class of ’92 เราไม่อาจรั้งคนพวกนี้ได้ต่อไปและพวกเขาเป็นกลุ่มคนวัยหนุ่มที่พิเศษจริงๆ
ในท้ายที่สุดแล้วแม้ผลลัพธ์มันออกมาไม่เป็นดั่งหวังแต่ทุกๆครั้งที่เราลงมือทำอะไร เราก็มักจะได้บางสิ่งกลับมาเสมอ
#เพราะทุกๆสิ่งต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง
Source by : Alex Ferguson: My Autobiography
Pic by : Sean Pollack
โฆษณา