รวมสถิติผลตอบแทน Dow Jones 100 ปี
หลังจากได้นำสถิติผลตอบแทนตลาดหุ้นสหรัฐ อย่างดัชนี S&P500 และ NASDAQ มาให้ดูกันแล้ว วันนี้ #เด็กการเงิน ขอนำสถิติผลตอบแทนดัชนี Dow Jones มาให้ดูกันบ้าง ซึ่งดัชนี Dow Jones นี้มีมากว่า 100 ปี แต่เราขอนำข้อมูลมาให้ดูแค่ 100 ปีย้อนหลัง (ปี 1923-2022)
ก่อนอื่นมารู้จักดัชนี Dow Jones กันก่อน
ย้อนกลับไปช่วงปี ค.ศ. 1896 Dow Jones Industrial Average (DJIA) หรือ Dow 30 หรือ Dow Jones 30 นั้น เป็นดัชนีที่ใช้เป็นตัวแทนหุ้นใหญ่ Blue chip 30 ตัว ตามหลังชื่อผู้คิดค้น Charles Dows และ Edward Jones ใช้วัดสุขภาพคร่าวๆ ของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของสหรัฐ
ตอนแรกมีหุ้น General Electrics และกิจการจำพวกถ่านหิน ผ้าฝ้าย ท่อแก็ส ซึ่งเป็นกิจการหลัก หรือ หุ้น Blue chip ของเศรษฐกิจในยุคนั้น จนเปลี่ยนผ่านหลายยุคหลายสมัยเป็น Dow Jones 30 อย่างที่เราเห็นกันอยู่นี้ ตัวที่เรารู้จักกันดี จากตลาดหุ้น NYSE และ NASDAQ เช่น Microsoft, McDonald, Walt's Disney และ Johnson and Johnson เป็นต้น
ดัชนี Dow Jones ยังคงถูกใช้ แม้จะมีดัชนี S&P500 รวมหุ้นใหญ่ 500 ตัวแรก (รวมมูลค่าบริษัทกว่า 80% ของตลาดหุ้น USA) และ NASDAQ Composite ขึ้นมาแล้วก็ตาม
ทั้งนี้การคำนวณดัชนีของดัชนี Dow Jones จะแตกต่างกับเพื่อน เพราะใช้ Price Weight ขณะที่ในปัจจุบัน เรามักจะเห็นว่าดัชนีส่วนใหญ่ใช้ Market Cap หรือมูลค่าของกิจการในการกำหนดสัดส่วนหุ้นของดัชนี้นั้น เช่น PTT มี Market Cap ที่ใหญ่ที่สุดในหุ้นไทย 50 ตัวแรก พอทำ Market Cap Weight (ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าของกิจการ) ออกมา จะมีสัดส่วน PTT มากที่สุดใน SET50 เป็นต้น
กลับมาที่ดัชนี Dow Jones จะเห็นว่าสัดส่วนของหุ้นที่มีมากที่สุดใน Dow Jones จะเป็นของหุ้นที่มีราคาสูงที่สุด เช่น United Health Group ที่มีราคาต่อหุ้นสูงที่สุดใน 30 ตัว รองลงมาคือ Goldman Sachs และ Microsoft สิ่งนี้เรียกว่า Price Weight (ถ่วงน้ำหนักตามราคาหุ้น ราคาต่อหุ้นสูง มีสัดส่วนในดัชนีสูง)
หุ้นในดัชนี Dow Jones มีการหมุนเวียนเปลี่ยนออก ไม่เป็นประจำทุกปี หรือทุกครึ่งปีแบบดัชนีอื่นๆทั่วโลก แต่เมื่อถึงเวลารีวิว ก็จะมีการประกาศตัวเข้า-ออกให้ทราบ และมีผลในอีก 1-2 เดือนถัดไป
คำถามสำคัญ > ทุกวันนี้ ดัชนี Dow Jones ยังสำคัญอยู่หรือไม่?
ด้วยความที่คำนวณมาจาก Price Weight และมีหุ้นเพียง 30 ตัว จึงมีคำถามเกี่ยวกับดัชนีนี้ว่ายังคงเป็นตัววัดที่ดีหรือไม่
ความเห็นก็แบ่งออกเป็นสองฝั่ง
ฝั่งแรกมองว่า Dow Jones ไม่สะท้อนตลาดหุ้นสหรัฐเลยเนื่องจากไม่ได้ใช้มูลค่ากิจการมาถ่วงน้ำหนัก แต่ใช้ Price Weight มาคิดแทน ซึ่งถ้าเป็นแบบ S&P500 (Market Cap Weight) นั้น หุ้นตัวใหญ่ควรจะมี Impact กับตลาดมากกว่าหุ้นที่มีราคาต่อหุ้นสูง และมีจำนวนหุ้นเพียง 30 ตัว คัดเลือกหุ้นเข้า-ออก โดยบริษัท Dow ในแต่ละช่วงเวลาไม่แน่นอนอีกด้วย
แต่อีกฝั่งหนึ่งก็มองว่า Dow Jones ยังคงสำคัญ เนื่องจากเป็นดัชนีที่ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งอย่างน้อย สามารถเปรียบเทียบกับตัวมันเองในอดีตได้ สะท้อนแนวโน้มของตลาดหุ้น และกลุ่ม Blue chip อย่างกว้างๆ นั่นเอง
ถึงตรงนี้แล้ว คุณคิดว่า Dow Jones ยังคงเป็นดัชนีที่ดีหรือไม่?
หลังจากรู้จักดัชนีนี้แล้ว มาดูกันว่าผลตอบแทน 100 ปีย้อนหลังเป็นอย่างไร
จากข้อมูลผลตอบแทนรายปี และความผันผวน จะเห็นว่าตลาดมีทั้งปีที่บวกหรือลบสลับๆ กันไป แอดมินได้ลองมาคิดดูว่าในช่วงเวลาการลงทุน 100 ปีที่ผ่านมา มีโอกาสที่จะเจอช่วงเวลาตลาด "บวก" และตลาด "ลบ" บ่อยขนาดไหนนะ?
หากเราอยู่ในตลาดเป็นเวลานาน 5 ปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงปีใดนับตั้งแต่ปี 1923 ถึงปี 2022 โดยเฉลี่ยจะเจอช่วงเวลาที่ตลาด"บวก" 3.4 ปี และ ตลาด"ลบ" 1.6 ปี ถึงแม้จะเจอทั้งช่วงเวลาที่บวกและลบ แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยก็อยู่ที่ 7.77% ต่อปี
หากเราอยู่ในตลาดเป็นเวลานาน 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงปีใดนับตั้งแต่ปี 1923 ถึงปี 2022 โดยเฉลี่ยจะเจอช่วงเวลาที่ตลาด"บวก" 6.8 ปี และ ตลาด"ลบ" 3.2 ปี ถึงแม้จะเจอทั้งช่วงเวลาที่บวกและลบ แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยก็อยู่ที่ 7.58% ต่อปี
ทั้งนี้การคิดแบบนี้เป็นการสมมติว่าเราลงทุนด้วยเงินก้อนเริ่มต้นตั้งแต่ต้นปีและถือยาวไปเป็นเวลา 5 และ 10 ปี ถ้าหากเป็นการ DCA ผลตอบแทนที่ได้จะแตกต่างกันออกไป เพราะช่วงเวลาที่เงินแต่ละก้อนได้ทำงานนั้นต่างกัน
หากดูสถิติช่วงเวลาที่ตลาดบวกและลบตลอด 100 ปี พูดคร่าวๆ ได้ว่าโดยเฉลี่ยเราจะเจอช่วงเวลาที่ตลาดบวก 68 ปี (คิดเป็น 68%) และตลาดลบ 32 ปี (คิดเป็น 32%) และผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.82% เคยสูงสุดถึง 66.69% ปี 1933 และเคยต่ำสุดถึง -52.67% ปี 1931 ซึ่งทั้งสองช่วงเวลาอยู่ในช่วง Great Depression ขณะที่ SD อยู่ที่ 19.09%
สำหรับข้อมูลรายปีดูได้ที่ > https://www.macrotrends.net/1319/dow-jones-100-year-historical-chart
หวังว่าข้อมูลที่นำมาในวันนี้จะช่วยให้ทุกคนได้เข้าใจตลาด และมีมุมมองระยะยาวมากขึ้น 😄 อย่างไรก็ตามโพสต์นี้ไม่ได้เป็นการแนะนำการลงทุน เพราะตัวอย่างที่นำมานี้เป็นเพียงแค่ตลาดเดียวเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการกระจายการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้
ข้อมูล ณ 15/9/2023
Facebook 👉 https://www.facebook.com/DekFinance101
Blockdit 👉 https://www.blockdit.com/dekfinance
LINETODAY 👉https://today.line.me/th/v2/publisher/10240
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
