ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำทัพของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ยังคงโชว์ฟอร์มในฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากบุกไปเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ถึงบ้าน 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ชัยชนะเหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล สร้างสถิติไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกันถึง 16 เกม หากนับรวมกับซีซั่นที่แล้ว และตอนนี้พลพรรค “หงส์แดง” อาจเริ่มมองถึงความเป็นไปได้ในการ ลุ้น (แชมป์)พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล สโมสรดังใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก กลับมาเล่นด้วยความดุดัน
ในซีซัน 2023-2024 ลูกทีมของ คล็อปป์ ออกสตาร์ทได้อย่างแข็งแกร่งทั้งที่เจอกับปัญหามากมาย อาทิ การเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ถึง 2 เกม และการต้องออกไปเล่นนอกบ้านหลังจบพักเบรกทีมชาติ โดยหากย้อนกลับไปในซีซันที่แล้ว ลิเวอร์พูล อาจไม่ได้ทำผลงานได้ดีเท่านี้
อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว โดยบรรดาแข้งนักเตะ ลิเวอร์พูล ลงสนามเล่นด้วยความมุ่งมั่นเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะเรียกความเชื่อมั่นของนักเตะกลับมาได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้น คล็อปป์ แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่รวดเร็วอีกครั้งด้วยการเปลี่ยน อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ออกทันทีเมื่อจบครึ่งแรกหลังจาก กองกลางวัย 24 ปี ก็เพิ่งกลับจากการเล่นให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา
เมื่อไม่กี่วันก่อน แม็คอัลลิสเตอร์ ต้องใช้ออกซิเจนช่วยหายใจหลังจากไปเล่นให้กับบ้านเกิดในเกมพบกับ โบลิเวีย แต่ คล็อป์ ยังส่งลงสนามเป็น 11 คนแรก ในตำแหน่งหมายเลข 6 ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำคัญในการป้องป้องแผงแนวรับ
แม็คอัลลิสเตอร์ มีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์มากนัก และถึงบอลช้ากว่านักเตะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในหลายครั้ง รวมถึงยังโดนใบเหลืองตั้งแต่ 4 นาทีแรก อีกด้วย แต่ยังดีที่ คล็อปป์ คิดใจเร็วด้วยการเปลี่ยนตัวออกจน ลิเวอร์พูล ก็กลับมาสู่เกมได้
ขณะเดียวกัน จาเรลล์ ควอนซาห์ เซ็นเตอร์ดาวรุ่งก็แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวหลังจากได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกใน พรีเมียร์ลีก โดยดาวเตะวัย 20 ปี ก็ไม่ทำให้ คล็อปป์ ต้องผิดหวัง หลังทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่งในการรับมือแนวรุกเจ้าบ้าน
ควอนซาห์ ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยทำสถิติสกัดบอล 3 ครั้ง ปะทะสำเร็จ 2 ครั้ง เคลียร์บอล 5 ครั้ง และมีความแม่นยำในการผ่านบอลถึง 96.3 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงท้ายเกมหลังจากเป็นตะคริว
นอกจากนี้ คล็อปป์ ยังสร้างความแปลกใหม่ด้วยการเปลี่ยนบทบาท โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาเป็นเพลย์เมคเกอร์คอยสร้างสรรค์เกมจากนอกกรอบเขตโทษ โดยก่อนหน้านี้ ดาวเตะวัย 31 ปี เคยเป็นจอมถล่มประตูในกรอบเขตโทษ
ปีกซุเปอร์สตารชาวอิยิปต์ แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถเล่นในบทบาทใหม่ได้อย่างสุดยอด หลังจากโชว์ผลงานทำแอสซิสต์ไปแล้วถึง 4 ครั้ง ในช่วงออกสตาร์ทซีซันนี้ และยังมีเกมเหลืออีกถึง 33 นัด ให้ ซาลาห์ ได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง
มุมมอง และโอกาสที่เป็นไปได้ในการลุ้นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก
ในช่วงที่ผ่านมา คุณภาพขุมกำลังเชิงลึกของผู้เล่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ คล็อปป์ มักเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอในวงกว้าง โดยบรรดานักวิเคราะห์ และสาวก “เดอะ ค็อป” หลายคนแสดงความไม่พอใจอย่างหนักกับการทำธุรกิจของทีมเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ซีซันนี้ ลิเวอร์พูล ได้นักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม 4 ราย ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ทั้งสิ้น ประกอบด้วย แม็คอัลลิสเตอร์ จาก ไบรท์ตัน, โดมินิก โซบอสซ์ไล จาก แอร์เบ ไลป์ซิก, วาตารุ เอ็นโด จาก สตุ๊ตการ์ท และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช จาก บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งทำให้พวกเขาแผงกองกลางที่แข็งแกร่งมากขึ้น
ในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้น คล็อปป์ สามารถส่ง หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, อิบราฮิมา โคนาเต้ และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช ลงมาเล่นในครึ่งหลังได้ หลังจากที่นักเตะ 11 ตัวจริง ยังโชว์ฟอร์มไม่ออกในครึ่งแรก
ขณะที่ ผู้เล่นอย่าง ธิอาโก้ อัลคันทาร่า, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ไม่มีชื่อแม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง ซึ่งมองในภาพรวมแล้ว ทีมของ คล็อปป์ มาขุมกำลังที่ดีพอในการลุ้นแชมป์ไปจนจบฤดูกาล
🔶ดูข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์นี้ 👉 https://sytgn.com/latestnews
🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://th.sytesports.com/latest-sweepstakes/
🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends
#alexis mac allister #jurgen klopp #liverpool f.c. #mohamed salah
79 รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
    โฆษณา