20 ก.ย. 2023 เวลา 07:16 • ท่องเที่ยว

ร้าน ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ .. ร้านของฝากที่เป็นตำนานของ ฉะเชิงเทรา

อาหารที่ใช้ในงานมงคลของจีนนั้นมักจะถูกเลือกอย่างพิถีพิถัน เพื่อความเป็นมงคลของงาน ส่วนใหญ่จะเลือกจากชื่อและลักษณะของอาหาร
ประเพณีการเลือกรับประทานขนมนี้เกิดจากความเชื่อที่มาจากชื่อและลักษณะของขนม และการแปลความหมายที่ออกเป็นความหมายที่ดี เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อและประเพณีด้วย เรียกว่า “ ตั้งแต่เกิดจนตายทุกวาระจะมีอาหารเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ ”
ชาวจีนจึงมีความเชื่อสืบทอดต่อกันมาอีกอย่างหนึ่งว่า ... ในปีหนึ่ง ๆ มักจะมีสิ่งเลวร้าย เรื่องไม่ดีไม่งาม เรื่องอัปมงคลมากระทบ หรือรบกวนการดำเนินชีวิตจนทำให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ ขึ้น เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วย เงินทองไม่คล่อง ทำอะไรก็พบแต่ความยุ่งยาก ทำให้รู้ได้ว่า “ ดวงชะตาชีวิต ” ไม่ดีนักจึงต้องมีการขวนขวายหาที่พึ่งจึงก่อให้เกิดการไหว้เจ้า การไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ การไหว้บรรพบุรุษและประเพณีอื่น ๆ ขึ้น บนโต๊ะเซ่นไหว้จะประกอบไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความหมายต่าง ๆ กัน
ขนมเปี๊ยะ (餅 bǐng) คนจีนเรียกว่า “ ผั่วเปี้ย ” แต่คนไทยเรียกว่า “ ขนมเปี๊ยะ ” .. เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ความปรารถนาดีต่อกัน ความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ ความสมหวัง และความสมัครสมานสามัคคี เป็นขนมที่มักใช้ประกอบในเทศกาลต่างๆของชาวจีน .. ขนมเปี๊ยะเป็นขนมที่คนจีนนิยมใช้ในงานมงคล ทั้ง งานหมั้น งานแต่งงาน หรือ เป็นของขวัญ รวมไปถึงการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
การทำขนมเปี๊ยะนั้นถูกเผยแพร่โดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทยเมื่อนานมาแล้ว แต่เดิมนั้นไส้จะมีส่วนประกอบ เป็น ถั่วและฝัก แต่เมื่อวัฒนธรรมไทยจีนเริ่มผสมผสานกลมกลืนกันจนเริ่มมีกลิ่นและมีรสชาติแบบไทยๆ ไส้จึงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ทุเรียน ไข่แดง เป็นต้น
ขนมเปี๊ยะจะมีอักษรมงคลสีแดงประทับอยู่กลางขนม แต่ในปัจจุบันนี้พฤติกรรมการซื้อขนมเปี๊ยะนั้นได้เปลี่ยนแปลงแล้ว ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อขนมเปี๊ยะเพียงเพื่อไหว้เจ้าเท่านั้น แต่ผู้บริโภคยังซื้อขนมเปี๊ยะเพื่อเป็นของฝากและเพื่อการบริโภคอีกด้วย
“ร้านตั้ง เซ่ง จั้ว” เป็นร้านของฝากชื่อดังประจำอำเภอบางคล้า เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เพราะเปิดทำการมาแล้วมากกว่า 80 ปี ของดีประจำ “ร้านตั้ง เซ่ง จั้ว” คือ “ขนมเปี๊ยะ” ซึ่งเป็นขนมเปี๊ยะที่รักษาระดับคุณภาพของการผลิตที่คงที่ และยังต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ไปเป็นขนมเปี๊ยะขนาดเล็ก และขนมในรูปแบบอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกัน เช่น ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “A-mei” (อาเม่ยหรืออาหมวย) ทำให้สินค้าที่วางจำหน่ายมีให้เลือกร้อยกว่าแบบ
ตั้งเซ่งจั้ว สาขาแสนภูดาษ … รีโนเวทใหม่ในสไตล์คล้ายกับอยู่ในพระราชวังเกาหลีที่สวยงามมากจริงๆ เป็นอีกหนึ่งมิติใหม่ของร้านขนมเปี๊ยะแบบเดิมๆ ที่เราเคยรู้จักกัน
เรียกได้ว่า ตอนนี้กำลังมาแรงสุดๆ ถนนทุกสายในฉะเชิงเทราต่างมุ่งหน้าไปถ่ายภาพเช็กอินกันที่นี่ ซึ่งนอกจากจะได้รูปสวยๆ ยังได้ช็อปปิ้งซื้อของฝาก ขนมอร่อยๆ ของทางร้านติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
อาคารคล้ายปราสาทที่ใหญ่โตอลังการมองเห็นโดดเด่นมาแต่ไกล โดยเฉพาะซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่เราถกกันว่านี่คือ สถาปัตยกรรมจีน หรือ เกาหลี กันแน่
“คุณ ปิยะพร ตันคงคารัตน์” ทายาทรุ่นที่ 3 ของ ‘ตั้ง เซ่ง จั้ว’ ร้านขายขนมเปี๊ยะชื่อดังแห่งบางคล้า .. เคยบอกกล่าวเอาไว้ว่า ..
สถาปัตยกรรมอาคารและรูปแบบที่เราเห็นนั้น ได้ถูกลดทอนรายละเอียดที่ทำให้ดูมีความโมเดิร์นขึ้น ส่วนใครจะมองว่าเป็นศิลปะจีน หรือ เกาหลี นั้นก็เปิดให้จินตนาการได้โดยอิสระ
คุณปิยะพร ยังเคยเล่าผ่านบทสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งว่า ... “ตั้ง เซ่ง จั้ว” แห่งแรกที่ พนมสารคาม อำเภอบางคล้านั้น เป็นฝีมือออกแบบ โดย “คุณชาตรี ลดาลลิตสกุล” ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ออกแบบ และได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยาม ปี 2547
.. เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น สาขาของร้านแห่งที่สองจึงถือกำเนิดขึ้น โดยเริ่มแรกในปี 2543 แค่คิดว่าจะทำขึ้นมาในงบประมาณราว 1 ล้านบาท และขอให้คุณชาตรีเป็นสถาปนิกเช่นเคย
.. แต่สถาปัตยกรรมของอาคารสาขาใหม่นั้น ถูกออกแบบมาอย่างอลังการมาก โดยสถาปนิกให้ข้อคิดว่า .. ถ้าจะเป็นร้านของฝาก มันจะต้องมีขนาดประมาณนี้ ถ้าเงินไม่พอก็ไม่เป็นไร ตอกเสาเข็มไปก่อน ค่อยๆ ทำทีหลัง แต่ถ้าจะทำให้สำเร็จ คนผ่านไปผ่านมาแล้วเห็น มันจะต้องทำใหญ่ขนาดนี้ .. สุดท้ายทำไป 18 ล้านบาท
คุณปิยะพร เล่าต่อไปว่า .. เป็นเงินที่เราไม่ได้เตรียมจะจ่ายเอาไว้ แต่สิ่งที่ทำให้ครอบครัวเราตัดสินใจที่จะทำ คือ คุณชาตรีบอกว่าไม่ได้อยากทำร้านขนมเปี๊ยะให้เรา แต่เขาอยากทำกล่องเก็บความภาคภูมิใจให้ครอบครัวคนทำขนมเปี๊ยะ และต้องมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ”
.. พลัง และความคิดก้าวไกลของการออกแบบ นอกจากจะสวย ยังขับเคลื่อนร้านให้ไปไกลได้มากกว่าที่ใครจะคาดคิด
“ร้านขนมเปี๊ยะ เป็นกลุ่มอาคารขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 4 ไร่ ตั้งใจให้เป็นจุดแวะพักของผู้ผ่านทางที่อบอุ่นและเป็นกันเอง มีโรงดื่มน้ำชา กาแฟ เล็กๆ ไว้บริการข้างๆ แต่เนื่องจากเขตทางกว้างมาก ทั้งยังอยู่กลางทุ่ง ไม่มีสัญญาณของจุดสนใจอื่นใด และรถขับผ่านด้วยความเร็วสูง
โจทย์แรกของผมคือ ความจำเป็นในการปรากฏตัวและเรียกร้องความสนใจ ทำให้ผมตัดสินใจให้อาคารมีลักษณะเชิงประติมากรรมเพื่อเป็นจุดที่สังเกตที่เด่นชัด เราต้องการให้กลุ่มอาคารนี้มีการจัดการที่ว่าง (Space) ที่บอกถึงคำยินดีต้อนรับ
การเลือกสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มีลักษณะเชื่อมโยงกับสถาปัตยกรรมจีน เป็นคำตอบที่พอดีของทุกคำถามที่นึกถึง ผมอยากให้อาคารสื่อสารกับผู้คนที่อยู่ต่อหน้ามัน กล่าวคำทักทาย(เป็นภาษาจีน) ที่เป็นมิตร เล่าถึงความภูมิใจและความเป็นมาของครอบครัวหนึ่ง และขนมเปี๊ยะของเขา ซึ่งมีตำนานข้ามน้ำข้ามทะเล และดำเนินกิจการมา 3 ชั่วอายุคน”
หลังจากกลุ่มอาคารชุดนี้สร้างแล้วเสร็จในปี 2546 ก็ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น เหรียญทอง ประเภทอาคารพาณิชยกรรม จากสมาคมสถาปนิกสยามในปีถัดมา
พลังของการออกแบบทำงานขับเคลื่อนให้ ตั้ง เซ่ง จั้ว เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ สื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ต่างให้ความสนใจในการนำเสนอข่าวสารกันอย่างแพร่หลาย
เมื่อมาถึงวันที่เราอยากทำร้าน ตั้ง เซ่ง จั้ว ที่ตำบลแสนภูดาษ คุณชาตรีบอกว่า อยากจะทำร้านที่จริงกว่าปกติ เมื่อก่อนเรางบน้อย เราใช้การทาสีแทนที่วัสดุจริง แต่ครั้งนี้จะใช้วัสดุที่เป็นของจริง เช่น ใช้ไม้จริง ปูนจริง
อยากสร้างพื้นที่ให้คนที่มาฉะเชิงเทราได้มีจุดแวะพัก นอกจากร้านขายของฝาก เรายังมีส่วนที่เป็นคาเฟ่ มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม เช่น เวิร์คช็อปการปั้นขนมเปี๊ยะ และมีพิพิธภัณฑ์ที่จำลองบ้านอากงในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับของเดิมจัดแสดงเรื่องราวของอากง ฮก แซ่ตั้ง เจ้าของตำนานขนมเปี๊ยะบางคล้าให้ชมกันด้วยครับ”
“ผมอยากให้อาคารสื่อสารกับผู้คนที่อยู่ต่อหน้า กล่าวคำทักทายที่เป็นมิตร เล่าถึงความภูมิใจและความเป็นมาของครอบครัวคนทำขนมเปี๊ยะ” ชาตรี ลลาลลิตสกุล สถาปนิกกล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบ
ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ บนพื้นที่ 4 ไร่ เท่ากับร้านที่ กม.13 ทางหลวงสายฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม เพิ่มเติมคือสัดส่วนของอาคารที่ใหญ่โตขึ้น ใช้วัสดุจริง ในขณะเดียวกันก็ลดทอนรายละเอียดของสถาปัตยกรรมจีนลงทำให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น
พลังของการออกแบบครั้งนี้จะส่งแรงกระเพื่อมให้ธุรกิจได้มากแค่ไหน โปรดจับตามองกันต่อไป แต่ที่แน่ๆร้านเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565
เพียงสองเดือนแรกของปี 2566 ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ เป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของฉะเชิงเทราไปแล้ว
**เกี่ยวกับขนมเปี๊ยะ ตั้ง เซ่ง จั้ว : สายน้ำแห่งความสำเร็จ คือ ความหมายของคำว่า 'ตั้ง เซ่ง จั้ว' ร้านขนมเปี๊ยะที่ถือกำเนิดโดย นายฮก แซ่ตั้ง เมื่อปี 2475 เดิมเรียกกันว่าขนมเปี๊ยะบางคล้า เพราะว่ามีอยู่ร้านเดียวในตลาดบางคล้า
ด้วยความที่นายฮกเคยเป็นลูกจ้างร้านขนมเปี๊ยะที่เมืองจีนมาก่อน เมื่อมาก่อร่างสร้างตัวในเมืองไทย ก็นำสูตรขนมเปี๊ยะเก่าแก่ของชุมชนแต้จิ๋วในเมืองจีน ซึ่งมีกรรมวิธีการทำที่ละเอียดประณีต มาเปิดร้านขาย
ทำให้รสชาติและคุณภาพของขนมเปี๊ยะมีเอกลักษณ์ เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าอย่างแพร่หลาย จนได้รับเชลล์ชวนชิม จาก ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ในปี 2524
ขนมเปี๊ยะ ตั้ง เซ่ง จั้ว มีการพัฒนาไส้ต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมาย ได้แก่ บัวหิมะ มะตูม มอคค่า ช็อกโกแลต หมูหยอง ฝอยทอง องุ่น ทุเรียน เป็นต้น
ทว่าไส้ที่ขายดีตลอดกาลยังคงเป็นไส้คลาสสิก คือ ไส้ฟักถั่ว ส่วนหีบห่อนั้นกล่าวได้ว่าสวยงามทันสมัยเป็นของฝากที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
ภายในอาคารร้านขายของฝาก ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ .. ชั้นล่างเป็นร้านขายขนมเปี๊ยะและของฝากจากฉะเชิงเทรา
ชั้นบนจัดเป็นพื้นที่สำหรับคาเฟ่ที่สามารถชมวิวได้อย่างชัดเจน
เรือนจำลองบ้านอากงที่จะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติความเป็นมาของครอบครัวคนทำขนมเปี๊ยะแห่งบางคล้า ภายในบริเวณร้าน ตั้ง เซ่ง จั้ว สาขาแสนภูดาษ
บรรยากาศของคาเฟ่ที่ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ
กาแฟร้อนกับเค้กกล้วยหอมแมคคาเดเมียลูกพลับจีน
ที่ตั้ง : ถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา ติดกับเทศบาลตำบลแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
เปิดบริการ : จันทร์ – พฤหัสฯ 08.00-17.30 น. ศุกร์ – อาทิตย์ 08.00 – 18.00 น.
ติดต่อ : โทร.09 5887 6103
**Ref :
โฆษณา