24 ก.ย. 2023 เวลา 11:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

MOVING | 8.4/10

เมื่อผมเริ่มต้นชีวิตคนเขียนหนังสือราว 35 ปีก่อน หนังซูเปอร์ฮีโรยังไม่เกลื่อนตลาดเหมือนเวลานี้ ตอนนั้นผมเริ่มโครงการหนึ่ง ตั้งใจเขียนเรื่องซูเปอร์ฮีโรเป็นวรรณกรรมที่มีความลุ่มลึก โดยที่รวมตัวละครเหนือมนุษย์ประเภทต่างๆ ซูเปอร์ฮีโรแต่ละคนมีความลึก มีความรู้สึก ความซับซ้อน มีด้านมืด ด้านสว่าง ตั้งใจรวมกันเป็นชุด ตั้งชื่อแล้วว่า เหนือมนุษย์ คล้ายๆ เรื่อง หลายชีวิต ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
1
ร่างงานไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ด้วยเหตุใดก็จำไม่ได้ มิได้สานต่อ ลากมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงที่ตลาดเกลื่อนไปด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร ก็ยุติโครงการ เพราะหนังซูเปอร์ฮีโรล้นตลาด
ขณะที่โลกเกลื่อนล้นด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร มากมายและซ้ำซากจนผมเบื่อหน่ายถึงจุดสุดขีด สัญญากับตัวเองว่าจะเลิกดูหนังพันธุ์นี้แล้ว ก็เผลอเดินสะดุดหนังชุดล่าสุด Moving (무빙)
ผมดูหนังชุด Moving โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร เพราะไม่เคยดูหนังตัวอย่างมานานแล้ว ผ่านตาไปหนึ่งตอนพบว่าหนังมีความสดใหม่น่าติดตาม
แต่ดูไปๆ สองสามตอน ก็เกือบจะเลิกดูต่อ เพราะหนังเคลื่อนช้ามาก ระดับเต่าชราบาดเจ็บเดิน
หนังแบบเต่าชราบาดเจ็บเดินอาจจะเป็น slow burn แต่ไม่ทุกเรื่อง slow burn เป็นเต่าชราบาดเจ็บ slow burn คือหนังที่ตั้งใจเคลื่อนช้า เพื่อผลทางศิลปะ แต่เต่าชราบาดเจ็บคือหนังที่ถ่ายทุกช็อต ทุกมุม ทุกจุด แล้วยัดลงให้หมดเหมือนกลัวเสียของ
ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการเล่าว่า ตัวละคร A ขับรถไปทำงาน แล้วเจ้านายบรี๊ฟงานใหญ่ให้ไปฆ่าคน ฉากนี้เราสามารถเสนอแค่เจ้านายคุยกับ A ได้เลย แต่หนังแบบเต่าชราบาดเจ็บจะจับภาพตัวละคร A ขับรถ จอดรถ ซดกาแฟ เดินออกจากรถไป ทิ้งถ้วยกาแฟลงถังขยะ เยื้องย่างไปขึ้นตึก กดปุ่มลิฟต์ ทักทายกับเพื่อนร่วมงานสองสามคำ ไปนั่งโต๊ะ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้านายเรียกไปบรี๊ฟงานฆ่าคน หมดไป 2-3 นาทีกว่าจะถึงฉากที่ขับเคลื่อนเรื่องจริงๆ
1
Moving ก็เดินเรื่องแบบนี้อยู่หลายบทหลายตอน มิน่าล่ะ ซีรีส์นี้ลากยาวไปถึง 20 ตอน ทั้งที่แค่ 10-12 ตอนก็เอาอยู่
ปัญหาของงานชุดนี้คือยาวเกินไป ตัวละครประกอบมากเกินไป และพยายามเล่ามากเรื่องเกินไป
โชคดีที่ Moving ไม่ได้เป็นเต่าชราบาดเจ็บทุกตอน บางตอนก็เป็นกระต่ายเปรียว วิ่งกระโจนปรู๊ดปร๊าดทั้งเรื่อง จนนึกว่าคงมีคนเขียนบทหลายคน แต่ปรากฏว่ามีคนเดียว ราวกับว่าคนเขียนบทบางวันเคลิ้มกัญชา จึงร่ายยาว บางวันปวดท้อง จึงรีบๆ เขียน
1
ดังฉะนี้ จะว่าเล่าเรื่องไม่เป็นก็ใช่ จะว่าเล่าเรื่องเก่งก็ใช่อีก
Moving เป็นหนังซูเปอร์ฮีโรที่ลงลึกกว่าหนังซูเปอร์ฮีโรตามมาตรฐานฮอลลีวูด จุดเด่นคือการไม่แยกความดีความเลวออกจากกันเด็ดขาด แต่เจาะลงลึกถึงตัวตนภายในของซูเปอร์ฮีโรแต่ละคน ทั้งด้านดีและไม่ดี ซูเปอร์ฮีโรฝ่ายดีก็มีเรื่องร้าย ซูเปอร์ฮีโรร้ายก็มีหัวใจดีได้ ทำให้เรื่องมีมิติขึ้น
การเล่าเรื่องผ่านมุมมอง (point of view) ของตัวละครแต่ละคน ถือเป็นจุดเด่น ทำให้เห็นด้านที่เรามองจากมุมอื่นไม่เห็น นี่เองทำให้เรื่องซับซ้อนทางอารมณ์ และน่าสนใจขึ้น
2
นอกจากเป็นหนังรวมซูเปอร์ฮีโร Moving ยังเป็นหนังรวมตระกูลด้วยคือ ผจญภัย ทริลเลอร์ สายลับ อาชญากรรม ประวัติศาสตร์ บู๊ รักโรแมนติก ดรามา ขับรถไล่ล่า ฟีลกู๊ด หนังรักวัยรุ่น ครบทุกรส ขาดแค่ผี กะเทย กับซอมบี้
2
โดยรวม Moving เป็นหนังสนุก ตื่นเต้น ฉากบู๊ทำได้ดี มีท่อนดีๆ มากมาย ฉาก emotion บางตอนทำได้ระดับดีเยี่ยม แต่ขณะเดียวกันก็มีท่อนรุงรังที่ไม่จำเป็นอีกมากมายเช่นกัน หลายตอนก็ไม่รู้ถ่ายทำไปทำไม เช่น ฉากขับรถเมล์หักโค้งไปมาแบบ Speed หรือ Fast and Furious อยู่หลายรอบ พนักงานขับรถก็มีพลังพิเศษจริงๆ คือขับรถชนพังไปกี่คัน ก็ไม่โดนเจ้านายไล่ออก นอกจากนี้ก็มีการแฟลชแบ็คที่มากเกินจำเป็น ดรามาเกินจำเป็น และ overacting เป็นช่วงๆ
แต่เหล่านี้เป็นจุดด้อยที่พอมองข้ามไปได้ เพราะในภาพรวมเป็นหนังสนุก คอนเส็ปต์มีความสด ดีกว่าหนังซูเปอร์ฮีโรจำนวนมากของฮอลลีวูด
อีกครั้ง มันพิสูจน์ว่าเกาหลีใต้ก็ยังคงยืนอยู่แถวหน้าของวงการภาพยนตร์โลก ทำหนังเซมเซมให้ไม่เซม
8.4/10
ฉายทาง Disney+
วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
โฆษณา