25 ก.ย. 2023 เวลา 14:27 • ไลฟ์สไตล์

หยุดหาข้ออ้างให้ตัวเองได้แล้ว เพราะคุณรู้ดีอยู่แก่ใจว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่!!

🔊 ฟังแบบเสียงอ่านบทความนี้
เคยมั๊ย ว่าจะทำอะไรซักอย่าง ก็ได้แต่เงื้อง่า ว่าจะ .. ว่าจะทำมาเป็นร้อยเป็นพันรอบ ขยับซ้ายก็คิดมาก ขยับขวาก็เจอปัญหา จะปรึกษาใครก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง แล้วก็อีกมากมายเรื่องราวที่ผุดเข้ามาในหัวระหว่างทางที่จะตัดสินใจลงมือทำอะไรซักอย่าง
ใจคุณเองก็อยากให้มันดี อยากประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่น แต่พอเอาเข้าจริง อันโน้นก็ยังไม่มี อันนี้ก็ยังไม่ดี อะไรๆ ก็ไม่ครบซักอย่าง นับวันไปไฟในการลงมือทำก็มอดดับลงเรื่อยๆ ทำไมปัญหามันถึงเยอะแยะ แก้ไม่ไหว ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนจริงๆ
ถ้าคุณรู้สึกแบบนี้ในตอนนี้ หรือเคยเป็นแบบนี้มาก่อน คำตอบง่ายๆ อยู่ในเรื่องราวตอนนี้ค่ะ มันมีเรื่องราวไม่กี่อย่าง ที่คุณไม่รู้ตัวว่า มันกำลังฉุดรั้งคุณไว้ไม่ให้สำเร็จเสียที เหล่าข้ออ้างเล็กๆ ที่สร้างความอึดอัดใจให้คุณตลอดมา เอาว่า มาจุดไฟในใจคุณอีกครั้งกันค่ะ มารับรู้ไปด้วยกันเลยค่ะ
1. ติดกับดักความสมบูรณ์แบบ
1
คนทุกคนบนโลกนี้ ชอบอะไรคล้ายๆ กันเรื่องหนึ่ง คือ เราชอบความพร้อมเพรียง ความสมบูรณ์แบบ มันสวยงามและทำยาก แต่ถ้าทำได้ มันจะยิ่งชวนให้เราภูมิใจอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้
และแน่นอน เราไม่สามารถหาทุกอย่าง หรือมีสิ่งที่ปรารถนาได้ทุกอย่างตามต้องการ ชีวิตเราก็ขาดๆ เกินๆ บ้างเป็นธรรมดา เรื่องการทำงานเองก็เถอะ หากคิดจะลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว ก็จงอย่าได้ลังเลใจ ถึงความพร้อมจะยังไม่เกิด ถึงมันจะยังไม่ครบตามที่ใจต้องการ
แต่การได้ลงมือทำกับการคอยไปก่อน เลื่อนไปเรื่อยๆ มันต่างกัน เหมือนคนที่ได้ส่งงานอาจารย์ทันเวลา ถึงงานจะยังไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ยังได้ส่ง คนส่งงานไม่ดีเท่าใจต้องการ อย่างน้อยๆ ก็ได้ 50 คะแนนเต็มร้อยไปแล้วแน่นอน เพราะได้ส่งงาน อาจารย์ยังได้เห็นถึงความตั้งใจของเขา ผิดกับอีกคน ไม่ส่งงานเลย ก็ต้องกินไข่ต้ม ได้ศูนย์คะแนนไปตามระเบียบ
เพราะฉะนั้น จงจำไว้ว่า ความครบถ้วนสมบูรณ์ บางครั้งก็ต้องปล่อยผ่านไป มองภาพรวมให้ออก คือ ต้องลงมือทำก่อน ขอให้ได้เริ่มไปก่อนเถอะ อะไรๆ ต่อไปก็ปรับแก้ไปได้แน่นอน
2. ยังขาดแรงบันดาลใจ
ข้ออ้างอีกข้อที่ติดอันดับในสังคมคนขี้แพ้ไม่เลิก คือ อ้างว่าไม่มีแพชชั่น ขาดแรงบันดาลใจ ขาดพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า และอะไรสารพัดที่จะหามาอ้างเกี่ยวกับเรื่องของจิตใจนี่นะ
อย่างแรกง่ายๆ เลย คุณต้องลงมือหาแรงบันดาลให้กับตัวเองบ้าง ลองก้าวออกจากโลกโซเชียลดู ลองมองออกมาที่ชีวิตจริงๆ บ้าง ลองออกจากเซฟโซนของคุณเองบ้าง ลองมองดูผู้คน มองดูปัญหารอบตัว สังเกตุเพื่อนฝูง อะไรที่จะช่วยให้ชีวิตพวกเขาราบรื่นขึ้น อะไรน่าขาย อะไรทำเงินได้ กิจกรรมอะไรน่าลงทุน อะไรเป็นเรื่องที่คุณสนใจ เรื่องที่คุณสนุกที่จะทำ
หรือหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็ยิ่งดีใหญ่ ไปเห็นอะไรที่แปลกตา พบเจอคนใหม่ๆ มันทำให้มุมมองของเรากว้างขึ้นได้ แล้วก็อย่าลืมเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจเหล่านั้น นำมาประยุกต์เข้ากับชีวิตการทำงานดู
จะไปรู้อะไร ไม่แน่ว่า คอนเนคชันใหม่ๆ ที่เราได้เจอ อาจเป็นเรื่องใหม่ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ จนทำให้เรามีไฟกลับมาสู้ใหม่ก็ได้ ไม่ลองไม่รู้นะ ว่ามั๊ย?
1
3. รอเวลาที่ปราศจากความเสี่ยง
บางคนมักจะติดอยู่กับความเคยชิน ทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ เพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวความเสี่ยง เสี่ยงจะตกงาน เสี่ยงจะโดนปฏิเสธ เสี่ยงที่จะขายหน้า จนสุดท้าย ต้องกลายเป็นการ Burn Out หรือหมด Passion ไปในที่สุด เพราะแค่ความกลัวตัวเดียวนี่ละ
เพราะฉะนั้น เวลาที่ปราศจากความเสี่ยงไม่มีอยู่จริง ทุกวันที่คุณตื่นขึ้นมามันก็เสี่ยงทั้งนั้น แค่ขับรถมาทำงาน ก็เสี่ยงรถชน กินอาหารกลางวันก็เสี่ยงอาหารติดคอขาดอากาศหายใจ หรือจะการทำงานเองก็เถอะ ทำงานมั่นคงอยู่ดีๆ ลูกค้าก็อาจโทรมายกเลิกคำสั่งซื้อล็อตใหญ่ไปก็ได้ ชีวิตไม่มีอะไรไม่เสี่ยงหรอกนะ
ทางที่ดี จงกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง แล้วลองทำอะไรที่ท้าทายความสามารถของตัวเอง อย่าหยุดความสามารถของตัวเองด้วยกรอบความคิดแคบๆ ความเชื่อแบบเดิมๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดหรือไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะบางครั้งการรวบรวมความกล้าทำอะไรใหม่ๆ ก็เป็นวิธีการเสริมความมั่นใจชั้นดีด้วยเช่นกัน แถมยังช่วยให้เราปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย จงสนุกกับความเสี่ยงที่ท้าทายความสามารถของคุณ จะกลัวไปทำไมในเมื่อคุณเลือกที่จะสนุกกับมันได้
4. รอใครสักคนที่จะมาค้นพบคุณ
ใครหลายคน ยังคงเฝ้ารอใครคนหนึ่งมาดึงมือเขาออกมาจากกลุ่มผู้คน ทำให้คุณได้มีโอกาสฉายแวว มีโอกาสแสดงความสามารถให้โลกรู้ เรื่องราวชวนฝันแบบนี้ มันมีไม่กี่คนที่จะได้พบเจอหรอกนะ
พวกเราส่วนมาก ต้องค้นหาโอกาสเอาเองทั้งนั้น ต้องพยายามดิ้นรนเพื่อจะออกมายืนแถวหน้าเหนือคนอื่น ต้องทำให้ตัวเองเป็นเพชรที่เจิดจรัสเองให้จงได้ ก่อนที่จะมีคนสังเกตุเห็นแล้วหยิบคุณขึ้นมาทำแหวนซักวง
สิ่งแรกเลย จงมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ จงค้นหาด้านดีของตัวเอง เริ่มที่มองดูตัวเอง ว่าด้านดีของเราคืออะไร จุดเด่น จุดแข็งอยู่ตรงไหน และเมื่อค้นพบแล้ว ก็ควรนำจุดนี้มาทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เป็นมืออาชีพในสายงานที่คุณถนัด ต้องรู้แจ้งเห็นจริงไม่น้อยหน้าใครให้ได้
ยิ่งคุณสนุกกับการทำงานที่คุณชอบมากเท่าไหร่ ตัวคุณก็ฉายแววความเก่งออกมามากเท่านั้น แค่นี้ก็ไม่ต้องรอใครมาเจอแล้ว พวกเขาต่างหากที่ต้องพยายามตามหาคุณไปทำงานด้วยถึงจะถูก
5. เพราะความเจ็บปวดที่เคยล้มเหลวมาก่อน
เรื่องของอดีต บอกเลยว่ามีผลเป็นอย่างมากกับปัจจุบัน คนที่ก้าวผ่านความล้มเหลวในอดีตมาได้ ไม่ใช่เขาไม่เจ็บ ไม่เสียใจ แต่เขามีวุฒิภาวะมากกว่าคนอีกเป็นล้านๆ คน ที่เขายอมรับความจริงว่า ความพ่ายแพ้ไม่ใช่จุดจบของชีวิต ยังไงซะ ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไปอยู่ดี
ทุกวันที่ต้องตื่นนอนขึ้นมาของทั้งคนที่ล้มเหลวหรือคนที่สำเร็จก็ตาม เราทุกคนก็ต้องหาเงินมากินข้าว มาจ่ายค่าบัตร ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าจิปาถะไม่ต่างกัน
1
ยิ่งถ้าคุณเคยล้มเหลวแล้วไม่ยอมลุกขึ้นมาสู้ต่อ ชีวิตคุณเองและครอบครัวนั่นละ ไม่ว่า จะพ่อแม่เอย ลูกเมียเอย หรือจะแค่แฟนก็ตาม พวกเขาจะพบเจอความลำบากขัดสนไม่จบไม่สิ้นไปกับคุณ อาจเลยเถิดไปถึงมีหนี้สินรุงรังเลยก็ได้นะ
1
เพราะงั้น จงเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน ด้วยการโฟกัสแต่เรื่องที่เป็นบวก อย่าสนใจในเรื่องแย่ๆ หรือเรื่องที่เป็นด้านลบให้มาก อะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันเป็นอดีต อดีตมีค่าเท่ากับบทเรียน ถึงมันอาจจะเป็นบทเรียนราคาแพงก็ตาม คิดเสียว่ามันช่วยเป็นบันไดขั้นแรกให้คุณ ให้มุ่งสู่ความสำเร็จก็แค่นั้นเอง
ที่สำคัญ ต้องพยายามพาตัวเองไปอยู่ในสังคมหรืออยู่ใกล้คนรอบข้างที่มีแต่คนคิดบวก คิดทางสร้างสรร เพราะสภาพสังคมแบบคิดบวกจะช่วยส่งผลให้จิตใจเราสดใส ทำให้เราอยากทำอะไรมากขึ้น จนก้าวผ่านความรู้สึกผิดหวังไปได้โดยง่าย
และนี่ละ เรื่องราวของข้ออ้างที่คนขี้แพ้ชอบนำมาใช้กัน เรื่องราวเล็กๆ ที่คนเยอะแยะก้าวข้ามผ่านมันไปไม่ได้ ในเมื่อคุณรู้ว่าคุณมีความสามารถ ทำไมถึงยังปล่อยให้ความคิดด้านลบ มาคอยรบกวนจิตใจคุณ
ก้าวออกมาจากเรื่องที่ฉุดรั้งคุณไว้ ก้าวผ่านมันไปให้ได้ พลิกมุมมองที่เคยมีเปลี่ยนเป็นมุมบวก ทำให้คุณสามารถลงมือทำสิ่งที่คุณต้องการเสียที อย่ารอคอย อย่ายึดติด อย่ากังวลจนเกินไป เรื่องพวกนี้มันไม่เคยสร้างผลดีให้กับอะไร หรือใครเลย "ทำทันที" ลงมือทำเลย!
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเมนต์มานะคะ
1
ติดตามเราตามช่องทางอื่นๆ
• Youtube (เสียงอ่านบทความ) https://youtube.com/channel/UCBddu-n2Z6GQg3N66F2FnSg
โฆษณา