27 ก.ย. 2023 เวลา 04:12 • นิยาย เรื่องสั้น

ความสุข

เสียงดนตรีเพลงญี่ปุ่นฟังไม่ออกไม่รู้ความหมายแต่ก็ไพเราะฟังเพลิน ความรู้สึกหดหู่เข้าครอบคลุมทุกอณูของร่างกาย ลมหายใจถูกสูดเข้าไปลึกเท่าที่จะลึกได้และผ่อนออกมาอย่างช้าๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ขาทั้งสองยกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้อีกครั้งเบาะรองที่เหมือนฟองน้ำบางๆ รองไม้กระดานของเก้าอี้ช่วยให้รู้สึกว่าโลกใบนี้ยังคงมีความนุ่มนวลอยู่บ้าง ความหดหู่ทำให้ปลายนิ้วชะงักงันไม่มีตัวอักษรปรากฏชั่วครู่ก่อนจะกระดิกลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้ง สายตาจ้องมองบนหน้าจอแล้วถอนหายใจ “ความสุขคืออะไร?”
การที่จะบอกเล่าความสุขให้ใครฟังทั้งที่ตัวเองหดหู่ไม่ใช่เรื่องง่ายความเศร้า ความท้อแท้ สิ้นหวังถาโถมใส่ทุกแง่มุมความคิด ความสุขคืออะไร?
หลายครั้งที่ถามตัวเองว่าทำไมตัวเองไม่มีความสุขกับตัวเอง ในร่างกาย ในใจ ในความคิด ไม่มีคำตอบในที่ใด ร่างกาย จิตใจ ความคิด ไม่มีคำตอบสำหรับความสุข ข้อความไลน์ดังขึ้นผมหันไประบายความหดหู่ แล้วมาที่หน้ากระดาษเริ่มอ่านตั้งแต่ต้นอีกครั้งว่าเขียนอะไรไปบ้างก่อนจะเขียนต่อ
ความรู้สึกสะกิดอยู่ด้านหลัง “หันมองฉันบ้างสิ” ความรู้สึกพูดกับผม หันมามองหน้าความรู้สึก “ตอนนี้เธอรู้สึกยังไงมีความสุขไม๊” ผมถาม ความรู้สึกไม่ตอบเธอทำหน้านิ่งไม่พูดอะไรแล้วมานั่งลงข้างๆ แต่ก็ยังไม่พูดอะไร หันไปมองอีกครั้งแต่ไม่กล้าถามอะไรหน้านิ่งๆ ของความรู้สึกไม่บอกอะไรจนผมเปรยยิ้มให้ เธอยิ้มตอบแล้วหันหน้ากลับไปไม่พูดอะไรเช่นเคย เรานั่งข้างกันอยู่ตรงนั้น
ข้างๆ กันเธอกุมมือผมแล้วหันหน้ามาก่อนจะเอ่ยคำๆ นึงออกมา “เธอมีความสุขไม๊” ความรู้สึกถามผม กระอักกระอ่วนไม่มีคำตอบจะพูดออกไปได้แต่ยิ้มให้ ผม / ความรู้สึก / เรา / นั่งนิ่ง…..
“ความสุขคืออะไร” ผมเอ่ยแล้วหันหน้าไปมองหน้าผากโหนกนูนดวงตากลมโตเป็นประกายแก้มยุ้ยๆ ริมฝีปากที่เอิบอิ่มหยุดที่ริมตรงนั้น กลืนน้ำลายพลางจ้องมองริมฝีปากรอว่าเธอจะเอ่ยอะไรออกมามองอยู่อย่างนั้นพักนึงริมฝีปากที่เอิบอิ่มก็แง้มรอยยิ้มออกมาเห็นฟันสีขาวเรียงเป็นแถวพร้อมกับเสียงที่อ่อนนุ่ม “นายมีความสุขเมื่อไหร่” ความรู้สึกถามอีกครั้ง
กลับมาถามตัวเองอีกครั้งเมื่อไม่รู้ว่าความสุขคืออะไร เมื่อไหร่บ้างที่ตัวเองมีความสุขสิ่งแรกที่คิดออกเวลายิ้ม คงไม่มีคนมีความทุกข์หรือเศร้าใจยิ้มออกมาได้ ลุกไปหน้ากระจกแล้วยิ้มให้ตัวเอง 1ครั้ง 2ครั้ง 3ครั้ง 4ครั้ง 5ครั้ง ตาผมเล็กลงทุกครั้งที่ยิ้ม “สุขเล็กๆ ในใจ” เป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข และสุขในใจที่ได้เห็น “ความสุขหาง่ายขนาดนี้เลยเหรอ” ผมถาม เธอนิ่งไม่พูดอะไรแต่ก็ส่งยิ้มให้กลับมา รู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น
เรามัวตามหาความสุขอะไรอยู่เมื่อมันมีเพียงเท่านี้ความสุขอยู่กับเราตลอด แค่เพียงยิ้มใจก็เป็นสุข ไม่สิ ฉันต้องมี ต้องได้ เยอะๆ ให้มากๆ ความสุขต้องเป็นของฉัน คนเราต้องหาความสุขใส่ตัวสิ ผมค้านกับตัวเอง “ได้แล้วสุขจริงเหรอ” ความรู้สึกถาม “ฉันไม่ใช่ร่างกาย ไม่ต้องเสพ ไม่ต้องกิน ไม่ต้องสัมผัส ไม่ใช่จิตใจ จิตเป็นธาตุรู้เท่านั้น ที่รู้เพราะเป็นนาม ไม่ใช่ความคิด ที่จะคิดอะไร ฉันเป็นความรู้สึกที่รู้ถึงเวทนา สุข ทุกข์ เฉยๆ เท่านั้น”
ความสุขคืออะไรกันแน่ที่เราต้องการแล้วที่เราตามกันให้ขวักไขว่คืออะไร ทำไมเราทุกข์ทรมานแบบนี้ ทุกข์อยู่ตอนนี้จะสุขได้ยังไง สุขไม่ได้ตอนที่ทุกข์ แต่ไม่ถึงเสี้ยววินาทีที่ยิ้มให้ทุกข์ สุขเกิดทันที แต่จะยิ้มทั้งที่ทุกข์ไปได้ตลอดได้อย่างไรในเมื่ออยู่ อยู่กับทุกข์ก็ทุกข์ อยู่กับสุขก็สุข แล้วจะทำอย่างไรได้
เวลาทุกข์อยู่เราไม่ชอบอยากให้หายเลยยิ่งทุกข์ยิ่งทรมาน ลองสักครั้งยอมรับตัวเองว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ทุกสิ่งอย่างล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ทั้งสุขทุกข์สลับกันเกิดขึ้น ถามจริงเถอะว่าที่ทุกข์อยู่ทุกลมหายใจจริงรึป่าว อยู่กับลมหายใจได้ตลอดเวลาไหม จิตอยู่ที่ไหน อยู่ที่สุขทุกข์ ไม่ได้อยู่ที่ลมหายใจ เพราะถ้าอยู่ที่ลมหายใจใจจริงจะรู้สึกว่ากำลังหายใจ หายใจเข้า หายใจออก ความสุขทุกข์ ความคิด ความปรุงแต่ง ความรู้สึก เกิดต่อจากนั้น บางทีเรามากไปกับความรู้สึกของตัวเองอยู่กับความรู้สึกแบบฉาบฉวย
ถ้าเส้นตรงหนึ่งเส้นที่มีความยาวพอสมควรปลายด้านนึงเป็นความทุกข์ อีกด้านคือความสุข และมีด้านบนคือเส้นทแยงรูปสามเหลี่ยมที่ไม่มีฐาน เวลามีความทุกข์เราจะรู้สึกว่าความสุขช่างห่างไกลซ่ะเหลือเกินซึ่งก็ไกลมากถ้าตอนนี้ทุกข์อยู่ หากแต่ถ้าเปิดใจยอมรับว่าทุกข์อยู่ใจจะเบาเส้นจะลอยขึ้นไปหามุมสามเหลี่ยมเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก แล้วเมื่อลากเส้นตรงจากความทุกข์ไปหาความสุขระยะทางจะสั้นลงเรื่อยๆ
ยิ่งยอมรับใจยิ่งเบายอมรับมากก็ลอยขึ้นสูงขึ้นไปอีก ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ระยะทางจากความทุกข์ไปหาความสุขก็จะสั้นลงๆ ไปเรื่อยๆ จนที่สุดก็เจอความสุขอีกด้านที่ปลายยอดถึงตอนนั้นเราจะยังทุกข์แต่มีความสุขด้วย ขณะเดียวกันถ้าเราจมดิ่งกับความทุกข์มากๆ อยากหายจากความทุกข์ใจจะหนักและลอยต่ำลงห่างจากเส้นทแยงระยะทางของอีกด้านก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ยิ่งดิ่งมากอยากมากมากเท่าไหร่ความสุขยิ่งไกลออกไป ต้นตอความทุกข์ คือความอยาก และความสุขคือการยอมรับ เรายอมรับตัวเองได้แค่ไหนความสุขก็มากเท่านั้น
ยอมรับ = ความสุข “เธอยอมรับฉันรึยัง” เธอถามความรู้สึกเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง…..
……….ผมเห็นคุณความรู้สึก
โฆษณา