Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิเคราะห์บอลจริงจัง
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
27 ก.ย. 2023 เวลา 12:38 • กีฬา
ทำไมเรอัล มาดริด ถึงคว้าตัววินิซิอุสแย่งบาร์ซ่าได้สำเร็จ เราจะย้อนอดีตไปด้วยกัน
เรอัล มาดริด อาจจะเป็นราชาแห่งยุโรปก็จริง แต่สิ่งที่ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร มีความต้องการมาตลอด คือหานักเตะสักคนที่เติบโตมากับทีมตั้งแต่วันแรก อยู่กับทีมไปนานๆ จนเป็น Legend
1
ถ้าให้เปรียบเทียบก็คือ เหมือนบาร์เซโลน่าไปเอาลีโอเนล เมสซี่ ดาวรุ่งจากอาร์เจนติน่า มาเข้าเรียนที่ลา มาเซีย ตั้งแต่เด็ก แล้วก็ปั้นกันมาเรื่อยๆ จนเมสซี่กลายเป็นนักเตะเบอร์หนึ่งของโลก นี่คือสิ่งที่เปเรซต้องการกับเรอัล มาดริดเช่นกัน
จริงอยู่ การซื้อนักเตะระดับโลกที่พร้อมใช้งานทันที แบบคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล มันก็โอเค แต่เปอร์เซ็นต์ที่จะล้มเหลวอย่างรุนแรงแบบเอแด็น อาซาร์ ก็มีเหมือนกัน
1
นักเตะที่ดังอยู่แล้ว หลายคนไม่ได้เข้าใจดีเอ็นเอของเรอัล มาดริด ดังนั้นก็น่าจะดี ถ้าสโมสรสร้างนักเตะสักคนจากจุดเริ่มต้น ตอนที่เป็นดาวรุ่งอายุน้อยๆ แล้วปลุกปั้นขึ้นมาจนกลายเป็นโลโก้ของสโมสรได้
2
เมื่อพูดถึง "ช้างเผือก" ในวงการฟุตบอลล่ะก็ คงไม่มีประเทศไหน จะมีนักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์มากไปกว่าบราซิลอีกแล้ว ไม่ว่าจะยุคไหน บราซิลผลิตนักเตะระดับเวิลด์คลาส คนแล้ว คนเล่า เข้ามาสู่โลกฟุตบอลได้ตลอดเวลา
แต่ปัญหาของเรอัล มาดริดในอดีต คือไม่มีบุคลากรที่เก่งพอ ในการโน้มน้าวนักเตะบราซิลระดับ Wonderkid ให้ย้ายมาอยู่ด้วยตั้งแต่เด็ก
กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ ในปี 2005 เรอัล มาดริด เชิญเนย์มาร์ ที่ ณ เวลานั้น มีอายุ 13 ปี เล่นอยู่กับทีมเยาวชนซานโตส มาเยี่ยมชมอะคาเดมี่ของสโมสร
เนย์มาร์ อยู่ที่มาดริด 3 สัปดาห์ ได้เจอทั้งโรนัลโด้ และ ซีเนอดีน ซีดาน ได้กินข้าวกับโรบินโญ่ ดูๆ แล้ว เหมือนนักเตะจะมีใจ และพร้อมย้ายมาร่วมทีมเรอัล มาดริดแบบไม่ยากนัก
แต่สุดท้ายเรอัล มาดริด ปิดดีลไม่ได้ เพราะโน้มน้าวแม่ของเนย์มาร์ไม่สำเร็จ ไม่สามารถหว่านล้อมได้ ว่าการย้ายไปยุโรปตอนอายุ 13 จะมีประโยชน์ยังไง แม่บอกว่า อยู่ต่อไปที่บราซิลให้โตกว่านี้หน่อยแล้วค่อยย้ายก็ได้
1
หลังจากนั้น เรอัล มาดริด ก็พยายามหลายครั้ง แต่ก็โน้มน้าวเนย์มาร์ไม่สำเร็จอยู่ดี จนเวลาผ่านไป 8 ปี เนย์มาร์อายุ 21 ปี พร้อมย้ายทีมแล้ว กลับโดนบาร์เซโลน่าที่มาทีหลัง เจรจาอย่างรวดเร็ว โป้งเดียวปิดเกม ได้ตัวเนย์มาร์เรียบร้อย ในเดือนพฤษภาคม 2013
นี่เป็นความเจ็บแค้นในใจของฟลอเรนติโน่ เปเรซอย่างมาก ที่เห็นเป้าหมายก่อนตั้งนาน แต่ทีมเจรจาไม่สามารถปิดดีลได้ และเสียเนย์มาร์ให้คู่ปรับสำคัญอย่างบาร์ซ่าด้วย
วันที่ 1 มกราคม 2014 หลังผ่านเหตุการณ์เนย์มาร์ราวครึ่งปี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ไปจ้างนักข่าวกีฬาชาวสเปน วัย 44 ปี ชื่อจูนี่ คาลาฟัต มาเป็นแมวมองของสโมสร
จูนี่ คาลาฟัต เป็นนักข่าวที่เชี่ยวชาญเรื่องฟุตบอลอเมริกาใต้อย่างมาก เขาพูดได้คล่องแคล่ว ทั้งภาษาสแปนิช และ ภาษาโปรตุกีส สามารถสื่อสารได้ดี กับทุกประเทศในเขตลาติน โดยภารกิจที่เปเรซมอบหมายให้คาลาฟัตก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ ที่จะเอาชนะทีมอื่น ในการดึงสตาร์ดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์เข้าสู่เรอัล มาดริด
คาลาฟัต เป็นคนที่มีเซนส์อย่างมาก ว่านักเตะคนไหนจะเป็นสตาร์ ในสมัยเป็นนักข่าว เขาเคยฟันธงว่า คาเซมิโร่ กองกลางวัย 18 ปี ที่เล่นอยู่กับเซาเปาโล มีฝีมือเป็นของจริง และสุดท้ายเรอัล มาดริดก็เชื่อ ซื้อตัวคาเซมิโร่มาใช้งาน ซึ่งผลลัพธ์ในภายหลังทุกคนก็คงรู้แล้วว่า คาเซมิโร่พัฒนาขึ้นจนเก่งกาจขนาดไหน
จูนี่ คาลาฟัต เป็นคนสเปนก็จริง แต่เขาไปโตที่เซาเปาโลตอนเป็นเด็ก ดังนั้นจึงเข้าใจวัฒนธรรมของบราซิลเป็นอย่างดี รู้ว่าพ่อแม่ของเด็กๆ คิดยังไง สโมสรต้องการอะไร
การแย่งชิงตัวดาวรุ่งบราซิลครั้งสำคัญของเรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า เกิดขึ้นอีกครั้ง ในปี 2017 กับดาวรุ่งของสโมสรฟลาเมงโก้ ที่ชื่อวินิซิอุส จูเนียร์ ที่ ณ เวลานั้น อายุ 16 ปี
วินิซิอุส เริ่มเล่นจากฟุตซอล ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นฟุตบอล จุดเด่นของเด็กคนนี้คือ เทคนิคดีและวิ่งเร็วมาก ถ้าเขาออกสตาร์ตแล้ว ไม่มีใครตามทันทั้งนั้น ทำให้วินิซิอุสติดทีมชาติชุด u-17 ก่อนจะได้ลงเล่นอาชีพเกมแรกด้วยซ้ำ
เฟเดริโก้ พีน่า เอเยนต์ส่วนตัวของวินิซิอุส อธิบายคุณสมบัติของนักเตะว่า "เขาเป็นเด็กที่ตั้งใจจริงมาก และไม่คิดเรื่องเงินเป็นที่ตั้ง เขาไม่สนว่าตัวเองจะได้เงินเท่าไหร่ สิ่งที่เขาสนใจคือ โทรศัพท์มือถือของตัวเอง รองเท้าผ้าใบ สตั๊ด และการเล่นฟุตบอลเพียงเท่านั้น"
สำหรับจูนี่ คาลาฟัต เขายอมรับเช่นกัน ว่าวินิซิอุส คือดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสุดแห่งยุค ดังนั้นเขาต้องคิดหาวิธีว่าทำอย่างไร จึงจะชักจูงวินิซิอุสให้ย้ายมาอยู่กับเรอัล มาดริดได้
ในเมื่อฝั่งบาร์เซโลน่า ดูจะโดดเด่นกว่า เรื่องการปั้นกองหน้าดาวรุ่ง ถ้าพูดถึง "ตัวรุกบราซิล" การไปอยู่บาร์ซ่าแทบจะการันตีความสำเร็จเลย
โรมาริโอ, โรนัลโด้, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, เนย์มาร์ นักเตะกองหน้าบราซิล ที่ไปอยู่บาร์ซ่า ล้วนโด่งดังก้องโลก บางคนคว้าบัลลงดอร์ได้มาแล้ว ดังนั้นไม่แปลกที่วินิซิอุส จะอยากไปยิ่งใหญ่ที่บาร์เซโลน่าเหมือนรุ่นพี่
แต่จูนี่ คาลาฟัตไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาใช้ความมุมานะเข้าสู้ นั่นคือการบินไปกลับสเปน-บราซิล 10 ครั้ง ในเวลา 14 เดือน เพื่อคุยกับครอบครัว คุยกับสโมสร คุยกับเอเยนต์ และคุยกับนักเตะ
เขาใช้เวลาอย่างอดทนมากๆ สร้างความเชื่อใจให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ว่าเรอัล มาดริด ไม่ใช่แค่มีเงิน แต่มีโปรเจ็กต์ชัดเจน
ตัวอย่างเช่น ในการคุยกับสโมสรฟลาเมงโก้นั้น จูนี่ คาลาฟัต ยืนยันว่าเรอัล มาดริด จะไม่รีบดึงนักเตะมาร่วมทีมทันที แต่จะปล่อยให้ฟลาเมงโก้ ใช้งานจนถึงอายุ 18 มีเวลาหาตัวแทนได้ นอกจากนั้น พร้อมจ่ายค่าฉีกสัญญาของนักเตะที่ 46 ล้านยูโร และจะทำให้เขาจะกลายเป็นเด็กอายุ 16 ปี ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เรอัล มาดริด จะไม่ต่อรองเรื่องตัวเลขราคา ยื่นโป้งเดียวให้จบไปเลย เพื่อให้ฟลาเมงโก้สบายใจที่สุดในการคุยกัน
หรือในการคุยกับเอเยนต์ของนักเตะ คาลาฟัตก็ใช้เวลาด้วยเยอะมาก เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่ มักจะเชื่อใจเอเยนต์ส่วนตัวที่สุด โดยคาลาฟัตใช้ความพยายามอธิบายแผนในอนาคตของเรอัล มาดริด และยืนยันว่าวินิซิอุสคือความหวังในยุคสมัยต่อไป ไม่ใช่แค่ซื้อไปเพื่อตัดหน้าทีมอื่น แต่ซื้อไปใช้งานจริงๆ
ขณะที่กับครอบครัวนั้น คาลาฟัตใช้เวลาทำความรู้จักกับครอบครัวของวินิซิอุส พ่อทำอะไร แม่ทำอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร คือคุณจะเอาลูกชายเขาไปอยู่ ไปดูแล ก็ต้องทำให้แน่ใจว่า สโมสรจะเทกแคร์อย่างดี
2
เหตุการณ์สำคัญที่เป็นจุดตัดสิน ว่าวินิซิอุสจะย้ายไปไหน เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2017 เมื่อวินิซิอุส และครอบครัว เดินทางไปที่เรอัล มาดริด เพื่อเข้าชมศูนย์ฝึกของสโมสร
1
พอครอบครัววินิซิอุส ลงมาถึงสนามบินบาราฆาส ในเมืองมาดริด ปรากฏว่า คุณแม่ของวินิซิอุส ทำกระเป๋าเดินทางหาย เป็นความผิดของสายการบินตอนเปลี่ยนเครื่อง สิ่งที่คาลาฟัตทำ คือพาทั้งครอบครัว ไปที่ห้างชื่อ เอล คอร์เต้ อินเกลส เพื่อซื้อเสื้อผ้ามาใช้แทนที่ของเดิมที่อยู่ในกระเป๋าที่หาย โดยสโมสรจ่ายเงินให้ทั้งหมด
6
รายละเอียดเล็กๆ แบบนี้ ทำให้ครอบครัวประทับใจ ดูแลกันเหมือนญาติมิตร จึงค่อยๆ เกิดความเชื่อมั่นว่า ถ้าย้ายไป สโมสรจะเทกแคร์ใส่ใจวินิซิอุสเป็นอย่างดี นั่นทำให้สุดท้าย ตัวนักเตะได้คำตอบชัดเจนว่า จะไปเรอัล มาดริด
1
วินิซิอุสกล่าวว่า "ผมได้รับข้อเสนอจากมาดริด และบาร์ซ่าพร้อมกัน พ่อของผม ให้ผมตัดสินใจเอง และผมเลือกไปตามหัวใจของผม"
1
การเซ็นสัญญาเกิดขึ้นในวันที่ 23 พฤษภาคม 2017 ทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญากันเรียบร้อยด้วยราคา 46 ล้านยูโร โดย ณ เวลานั้น วินิซิอุส อายุ 16 ปีกับอีก 10 เดือน ซึ่งเรอัล มาดริด ได้ปล่อยให้ฟลาเมงโก้ ใช้งานอีก 1 ปี 2 เดือน
พอวินิซิอุส อายุ 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2018 เรอัล มาดริด ก็ดึงตัวมาร่วมทัพด้วยทันที ตามกฎหมายของสเปน ที่นักเตะต่างชาติ จะเซ็นสัญญาอาชีพได้ ต้องมีอายุ 18 ปีเท่านั้น
ผลงานการคว้าตัววินิซิอุสได้สำเร็จ ถือเป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซ นั่นทำให้จูนี่ คาลาฟัต ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง จากแมวมองปกติ กลายเป็น หัวหน้าแมวมองของสโมสรเรอัล มาดริด และยังคงตำแหน่งนี้อยู่จนถึงปัจจุบัน
4
และเขาก็โชว์ผลงานต่อเนื่อง คว้าดาวรุ่งแห่งยุคของบราซิลมาอีกหลายต่อหลายคน เช่น โรดริโก้ (ซานโตส) ที่เล่นอยู่กับทีมตอนนี้ และ เอ็นดริค (พัลไมรัส) ที่จะย้ายมาในระยะเวลาอันใกล้
สำหรับวินิซิอุสนั้น ช่วงที่เขาย้ายมาแรกๆ ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ภาษาก็ยังพูดไม่คล่อง ส่วนอากาศที่มาดริดกับริโอ เด จาเนโร ก็ต่างกันมาก ที่นึงหนาว ที่นึงร้อน
บวกกับสถานการณ์ภายในของ เรอัล มาดริดเปลี่ยนเฮดโค้ชพอดี จากซีเนอดีน ซีดาน มาเป็นชูเลน โลเปเตกี รวมถึงสตาร์อันดับหนึ่งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ย้ายไปยูเวนตุส
ทุกๆ อย่างมันชุลมุนไปหมด ทำให้ วินิซิอุสเล่นไม่ออก ถูกส่งไปเล่นให้กับทีมกาสตีญ่า ที่เล่นอยู่ในระดับดิวิชั่น 3 สลับไป สลับมากับทีมชุดใหญ่
แต่จากนั้นมา วินิซิอุส ก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ซีซั่นแรก (2018-19) ยิง 3 แอสซิสต์ 8
ซีซั่นที่สอง (2019-20) ยิง 5 แอสซิสต์ 3
ซีซั่นที่สาม (2020-21) ยิง 6 แอสซิสต์ 4
วินิซิอุส มาผลิมาในซีซั่นที่สี่ (2021-22) เมื่อระเบิดฟอร์มสุดยอด ทำไป 22 ประตู กับ 16 แอสซิสต์ในปีเดียว เป็นคีย์แมนสำคัญที่ทำให้เรอัล มาดริด ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 14 ด้วย
ซีซั่นที่ห้า (2022-23) วินิซิอุส รักษาความสม่ำเสมอเอาไว้ได้ ลงเล่นตัวจริงต่อเนื่อง และเป็นคีย์แมนอย่างชัดเจน เขายิง 23 ประตู กับ 19 แอสซิสต์ ตัวเลขเพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีก
เขาเข้าใจการยืนตำแหน่ง ว่าต้องเล่นอย่างไร มีความเร็วแต่ไม่ต้องสปรินท์ทุกครั้ง และจบสกอร์ได้ดีมาก
วินิซิอุส เป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งในจังหวะตัวต่อตัวได้มากที่สุดในลีกใหญ่ของยุโรป และ เรียกฟาวล์ใส่คู่แข่งได้มากที่สุดเช่นกัน คือถ้าคุณเร็วจนจับไม่อยู่ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นจะหยุดได้นอกจากตัดฟาวล์
2
คาร์โล อันเชล็อตติกล่าวว่า "ในวันนี้ เขาคือนักเตะที่เฉียบขาดที่สุดในโลกฟุตบอล ไม่มีนักเตะคนไหนจะเล่นได้ระดับนี้ แต่มีความสม่ำเสมอมากเท่ากับเขาอีกแล้ว"
จนถึงปัจจุบัน วินิซิอุส เป็นคีย์แมนสำคัญของเรอัล มาดริด และ ทีมชาติบราซิล มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมถึง 41.9 ล้านคน
ถึงจะยังไม่ใช่วันนี้ แต่ก็แน่นอนว่า วินิซิอุส จะมีลุ้นคว้าบัลลงดอร์ในอนาคตข้างหน้า โดยต้องต่อสู้กับ คีลียัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ในช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษต่อจากนี้
และความหวังของฟลอเรนติโน่ เปเรซ ที่อยากได้สตาร์สักคน ที่เติบโตมากับสโมสร เหมือนที่บาร์ซ่า มีเมสซี่ ก็พอจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว วินิซิอุสนี่แหละ ที่สามารถเป็นแกนหลักของสโมสรได้อีกนานหลายปี
เราจะเห็นเลยว่า ในโลกฟุตบอลชั่วโมงนี้ คุณต้องแย่งชิงดาวรุ่งกันตั้งแต่เล็กๆ เพราะดาวรุ่งเหล่านี้แหละ อีกไม่นานก็จะถูกพัฒนากลายเป็นนักเตะท็อปคลาส
ในเมื่อใครๆ ก็อยากได้ จุดชี้ขาดแพ้ชนะในการซื้อตัว คือคุณมีทีมแมวมอง และนักเจรจาฝีมือดี กว่าคู่แข่งหรือไม่
ถ้าแค่เรื่องเงิน สโมสรไหนๆ ก็มีเงินทั้งนั้น แต่จุดที่จะทำให้คุณแตกต่างจากทีมอื่นได้ คือความใส่ใจ ความสม่ำเสมอ และการสร้างมิตรภาพที่ดีกับนักเตะเอาไว้
ที่สำคัญคือรู้จักครอบครัวของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี พ่อชอบอะไร แม่ชอบอะไร ต้องรู้ลึกกันระดับนั้นเลย
สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ เมื่อถูกรวมกัน จะหล่อหลอมความเชื่อใจ ระหว่างผู้เล่นกับสโมสร ให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนนำมาสู่การย้ายทีมในที่สุด
สกิลการเจรจา กับสร้างความสัมพันธ์ ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ ดังนั้นถ้าสโมสรไหนมีบุคลากรที่เก่งๆ แบบนี้อยู่กับทีม ก็จะทำให้ได้เปรียบอย่างมากในสงครามการแย่งชิงดาวรุ่งในยุคนี้ครับ
#VINICIUSDEAL
12 บันทึก
64
23
12
64
23
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย