Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โครงการเผยแพร่วิชานิติศาสตร์
•
ติดตาม
28 ก.ย. 2023 เวลา 10:29 • การศึกษา
การค้ำประกันให้ผู้อื่น เจ้าหนี้สามารถฟ้องบังคับคดีกับทรัพย์สินของบุตรได้หรือไม่
“นาย ก ได้ทำการค้ำประกันไว้ให้นาย ข ซึ่งในเวลาต่อมานาย ข ไม่สามาถส่งเงินได้ทำให้นาย ก ผู้ค้ำประกันทำหน้าที่ส่งเงินแทน นอกจากนี้นาย ก นั้นได้มีบ้านอยู่ 1 หลังและบ้านหลังนั้นเป็นชื่อของนาย ก และนาย ก ก็เล็งเห็นว่าหากตนเกษียณอายุแล้วจะไม่มีเงินส่งนาย ก จึงอยากโอนบ้านให้เป็นชื่อของบุตรนาย ก หากนาย ก โอนบ้านให้เป็นชื่อของบุตรนาย ก แล้ว ฝ่ายเจ้าหนี้จะสามารถบังคับคดีกับบ้านได้หรือไม่”
ควรทำอย่างไร?
สำหรับการให้คำปรึกษาของศูนย์นิติศาสตร์ มีดังนี้
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวมีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237
บัญญัติว่า เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนเสียได้ซึ่งนิติกรรมใด ๆ อันลูกหนี้ได้กระทําลงทั้งรู้อยู่ว่า จะเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ แต่ความข้อนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าปรากฏว่าในขณะที่ทํานิติกรรมนั้น บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้ ลาภงอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้นด้วย
แต่หากกรณีเป็นการทําให้โดย เสน่หา ท่านว่าเพียงแต่ลูกหนี้เป็นผู้รู้ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้วที่จะขอเพิกถอนได้
บทบัญญัติดังกล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ท่านมิให้ใช้บังคับแก่นิติกรรมใดอันมิได้มีวัตถุเป็นสิทธิในทรัพย์สิน
1.พิจารณาได้ดังนี้ ตามกฎหมายนั้น เจ้าหนี้สามารถนํายึดทรัพย์สินของลูกหนี้เพื่อบังคับคดีได้เฉพาะทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ลูกหนี้รวมถึงบรรดาสินสมรสที่ลูกหนี้มีสิทธิอยู่ด้วย แต่ไม่สามารถบังคับเอากับทรัพย์ที่เป็นชื่อบุคคลอื่น ๆ เช่นบิดา มารดา หรือบุตรได้
แต่การที่นาย ก นั้น จะโอนบ้านให้บุตรเป็นการกระทำในลักษณะที่ทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ เนื่องจากเป็นการจงใจไม่ให้เจ้าหนี้บังคับคดีกับทรัพย์สินที่ควรเป็นของนาย ก ได้ กรณีนี้จึงขึ้นอยู่กับการตรวจสอบหาทรัพย์สินของฝ่ายเจ้าหนี้ หากเจ้าหนี้นั้นรู้อยู่แล้วว่านาย ก มีบ้านและจงใจโอนให้บุตรนาย ก เจ้าหนี้ก็อาจดำเนินการฟ้องตามมาตรา 237ได้
2.หากผู้อ่านเป็นผู้พบเจอกับปัญหาที่คล้ายคลึงกับข้อเท็จจริงจะมีวิธีการแก้ไขดังนี้
หากเกิดเหตุการณ์ตามข้อเท็จจริงขึ้นผู้ค้ำนั้นไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เนื่องจากการที่เจ้าหนี้จะสามารถบังคับคดีกับทรัพย์สินที่ผู้ค้ำตั้งใจโอนให้ผู้อื่นโดยทำให้เจ้าหนี้เสียประโยชน์ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบหาทรัพย์สินของฝ่ายเจ้าหนี้
ซึ่งหากเจ้าหนี้มีความรอบคอบก็จะเจอกับทรัพย์สินนั้นและดำเนินการฟ้องตามาตรา 237 หากเจ้าหนี้นั้นไร้ความรอบคอบและตรวจสอบไม่เจอทรัพย์สินนั้นก็จะไม่มีการดำเนินการฟ้องตามาตรา 237
ทั้งนี้ หากผู้อ่านเป็นผู้พบเจอกับปัญหาที่คล้ายคลึงกับข้อเท็จจริงจะมีวิธีการป้องกันดังนี้ ก่อนที่จะค้ำประกันให้ผู้อื่นควรดู ฐานะ นิสัยใจคอ ความสนิทชิดเชื้อ และสิ่งต่างๆประกอบกันอย่างรอบคอบและมีสติ เพราะหากได้ทำการค้ำประกันไปแล้วจะมีผลทางกฎหมายต่างๆตามมาทันที ดังนั้นก่อนที่จะค้ำประกันให้ผู้อื่นควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย