1 ต.ค. 2023 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

4 หุ้นสหรัฐ แห่งความทรงจำ

ดร. บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ
.
หากย้อนไปกว่า 20 ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปศึกษาที่สหรัฐ ผมจำได้ว่ามีผลิตภัณฑ์และบริการอยู่ 4 ชิ้นที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสใน 3 วันแรกของการไปศึกษาต่อที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐ โดยทั้งสี่ผลิตภัณฑ์ ยังเป็นหุ้นสหรัฐที่มีการซื้อขายในตอนนั้นจนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ และได้กลายเป็นหุ้นสหรัฐในความทรงจำของผมในสมัยเรียนที่โน่น ดังนี้
2
.
ขอเริ่มจากความสนใจส่วนตัวของผมในช่วงวัยเรียน นอกจากฟุตบอล แล้วก็เห็นจะเป็น Personal Finance โดยผมเล็งตั้งแต่ก่อนไปเรียนที่สหรัฐ ว่าจะไปใช้โปรแกรม Quicken ที่จัดการด้านการเงินส่วนบุคคลได้ดีเลิศ โดยแม้แต่โปรแกรม Microsoft Money ที่ตอนนั้น Microsoft Windows ถือว่ายิ่งใหญ่มาก ยังทำด้านการจัดการด้านการเงินได้ไม่ดีเท่า Quicken หากถามผมว่าทำไมถึงดูใช้งานดีกว่า ผมมองว่า Quicken เข้าใจความต้องการของคนที่สนใจ Personal Finance ได้ดีกว่า Microsoft Money และดูใช้ง่ายกว่ามาก
2
ผลิตโดยบริษัทที่ชื่อว่า Intuit ซึ่งหุ้น Intuit ก็ยังคงเป็นหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐจากวันนั้นถึงวันนี้
3
.
โดย Intuit เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ระดับชั้นนำด้านการบัญชีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ภายใต้โปรแกรมที่โด่งดังมากกว่า 30 ปีที่ชื่อว่า QuickBooks และโปรแกรมการเตรียมภาษีส่วนบุคคลชื่อดังที่ชื่อ TurboTax โดยช่วยให้ผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กมีความมั่งคั่งมากขึ้นผ่านบริการด้านการจัดการการเงินต่างๆ ทั้งนี้ Intuit สร้างรายได้จาก 3 เซกเมนต์ ได้แก่ ธุรกิจขนาดเล็กและ Self-employed รวมถึงผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ประมาณ 50% ของรายได้รวม
ประกอบด้วย QuickBooks ที่ช่วยบริหารการเงินส่วนบุคคล ธุรกิจ Consumer ราว 35% ของรายได้รวม ประกอบด้วย TurboTax ในการช่วยบริหารภาษีส่วนบุคคล และธุรกิจ Credit Karma ที่ 10% ของรายได้รวม ได้แก่ Platform ให้คำแนะนำด้านการเงินส่วนบุคคล
.
ต้องบอกว่าโปรแกรมต่างๆ ของIntuit ก็ยังได้รับความนิยมในสหรัฐอยู่จนถึงในปัจจุบัน โดยบริษัทที่ออกแนว Niche แบบนี้ ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้จนถึงวันนี้ ก็น่าจะถือว่าน่าพิศวงในระดับหนึ่ง
.
ครั้นเดินทางมาถึงเมืองฟิลลี่ สิ่งแรกที่ผมเจอในหอพักคือตู้เครื่องกดน้ำขวดและน้ำอัดลมที่ใช้เหรียญดอลลาร์หยอดซื้อ โดยผมตัดสินใจกดซื้อน้ำขวดที่เป็นชาผลไม้ยี่ห้อ Snapple แล้วจากนั้น ก็เป็นเครื่องดื่มที่ผมกินบ่อยที่สุดในสมัยเรียน โดยในปัจจุบัน Snapple ถูกซื้อไปโดยบริษัท Keurig Dr Pepper ซึ่งหุ้นในตลาดสหรัฐของบริษัทนี้ชื่อ KDP ซึ่งเป็นหุ้นที่เทรดกันจนถึงทุกวันนี้
โดยเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องชงกาแฟคุณภาพดีของสหรัฐ และเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ Dr Pepper รวมถึง Canada Dry, A&W และ Snapple รวมถึงน้ำส้ม Sunkist โดยมีร้านค้าปลีกในสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก รายได้ส่วนหลักมาจากในสหรัฐ มี 3 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่มบรรจุสำเร็จรูป ราว 45% ของยอดขายรวม โดยมีแบรนด์อาทิ 7UP และ Schweppes กลุ่มระบบการชงกาแฟ ประมาณ 35% ของรายได้รวม ได้แก่ K-Cup Pod ในสหรัฐและแคนาดา และ กลุ่มเครื่องดื่มแบบเข้มข้นหรือ Syrup ที่10% ของรายได้รวม
.
ผมคิดว่าหลายคนน่าจะได้ดื่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบางยี่ห้อของ KDP ก็คงต้องบอกว่าความใหญ่โตของ KDP เทียบชั้นกับ Coca-Cola หรือ PepsiCo ไม่ได้ แต่ด้วย Snapple ที่เป็นความทรงจำในหอพัก ณ เมืองฟิลลี่ในวันนั้นของผม ทำให้ผมแอบเชียร์อยู่ในใจ
.
มาถึงวันสุดสัปดาห์แรกที่สหรัฐในตอนนั้น รุ่นพี่ได้ชักชวนไปร้านที่ขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ที่ชื่อ Home Depot ปรากฏว่าไปครั้งแรกรู้สึกว่าใหญ่โตดี จริงๆ ใน Mall แถบนั้น ยังมีร้านขายของใช้อย่าง Target หรือร้านขาย Gadget อิเล็กทรอนิกส์อย่าง Best Buy แต่ผมก็ยังติดใจความใหญ่โตของ Home Depot ซึ่งเป็นหุ้นที่เทรดกันจนถึงทุกวันนี้
.
โดย Home Depot เป็นหนึ่งใน Retailer ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ทำธุรกิจในร้านค้า 2,320 แห่งทั้งในทวีปอเมริกาเหนือและผ่าน E-commerce กับ App โดยเจาะตลาด do-it-yourself (DIY) มีสินค้าให้เลือกสรร 4 หมื่นประเภท โดยตลาดสหรัฐคิดเป็น 90% ของยอดขายทั้งหมด โดยแบ่งเป็น กลุ่ม Building-Materials ทำรายได้กว่า 35% ของยอดขายรวม
ประกอบด้วย อุปกรณ์ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ที่ทำจากไม้ กลุ่ม Décor สร้างรายได้ 35% ของยอดขายรวม ประกอบด้วยอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน พื้น ครัวและห้องน้ำ และ Hardlines ทำรายได้ราว 30% ของยอดขาย ประกอบด้วย เครื่องมือฮาร์ดแวร์
.
โดยธุรกิจของ Home Depot ล้าหลังคู่แข่งมาพักใหญ่ จนเมื่อ 7-8 ปีก่อน มีการพัฒนา Application และกระบวนการด้าน IT ของบริษัท จนการขายสินค้าบน Online ทำได้ดี จนมียอดขายเติบโตสูงมาก จนกระทั่งกลับมาเป็นบริษัทที่หลายคนจับตากันอีกครั้ง
.
ขอตบท้ายด้วย FedEx บริษัทจัดส่งพัสดุและสินค้าอื่นๆ ระดับชั้นนำของสหรัฐ โดยหุ้นแนวขนส่งที่เป็นคู่แข่งของ FedEx คือ UPS ซึ่งผมชื่นชมมาจากการเป็นแฟนหนังสือของทอม ปีเตอร์ส เจ้าของผลงาน In Search of Excellence ซึ่งเขาเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทนี้
.
FedEx ดำเนินธุรกิจผ่าน subsidiaries โดยFedEx Express ที่ทำรายได้รวมราว 50% ของทั้งหมดให้บริการด้านการขนส่งแบบ express ได้ถึงกว่า 220 ประเทศ โดยมีเครือข่ายการขนส่งเป็นเครื่องบิน 700 ลำ และยานยนต์กว่า 8.2 หมื่นคัน นอกจากบริการแบบ Express แล้วยังมี FedEx Ground ซึ่งสร้างรายได้กว่า 35% ของรายได้รวมให้บริการจัดส่งของชิ้นเล็กๆ ในอเมริกาเหนือ รวมถึงบริการรถบรรทุกขนส่ง ผ่าน FedEx Freight ที่สร้าง 10% ของรายได้รวม บริการการขนส่งสินค้าชิ้นที่ใหญ่ขึ้นในอเมริกาเหนือและต้องการความเร็วในการจัดส่ง
.
โดยระบบ subsidiaries ของ FedEx นี้ ล่าสุดได้กลายเป็นจุดที่ผู้บริหารมองว่าอาจจะไม่ได้ใช้ Economies of Scale ของทรัพยากรได้ดีมากนัก เลยมีดำริว่าจะปรับมาเป็นระบบ Center รวมกันจะดีกว่า
.
โดยผมไม่ได้มีความมุ่งหมายแนะนำหุ้นทั้งสี่ในการซื้อขายแต่อย่างใด ทว่าผมเพียงจะแนะนำหุ้นในความทรงจำของผมทั้งสี่ตัวนี้ว่า ตั้งแต่ผมได้ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ก็ยังเป็นหุ้นสหรัฐที่ยังคงเทรดกันอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
.
#Microsoft #Intuit #KDP #FedEx #หุ้น #ข่าวหุ้น #ดรบุญธรรม
2
โฆษณา