ย้อนรอยวิกฤตดอกทิวลิป และภาวะตลาด NFT ในปัจจุบัน
ภาวะตลาด NFTs และ Metaverse ในปัจจุบันถือว่าอยู่ในภาวะที่ตกต่ำอย่างมาก โดยในช่วงที่ผ่านมา NFTs ได้รับความสนใจส่งผลให้ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเก็งกำไรและการซื้อสะสม ยกตัวอย่างเช่น Cryptopunk #5822 ที่ถูกขายไปในราคาประมาณ 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8,000 ETH) เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2022
ทำไม NFT นี้ถึงราคาแพง?
ในปัจจุบัน "มูลค่าที่แท้จริง" (Intrinsic Value) ของคริปโตเคอร์เรนซี่หลายๆ ตัวยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างชัดเจน
ราคาของ NFT ในปัจจุบันก็เช่นกัน ยิ่งนำมาใช้ในการซื้อขายของสะสมดิจิทัลและงานศิลปะต่างๆ ราคาก็จะเป็นอะไรก็ได้แล้วแต่คนจะอยากกำหนด และไม่มีมูลค่าที่แท้จริงหากมองในมุมมองผลประโยชน์เชิงเศรษฐศาสตร์
ในปัจจุบันตลาด NFT ฟองสบู่แตก floor price ของตลาดโดยรวมลดลงไปมากกว่า 80% จากจุดสูงสุด และ 95% ของ NFT กลายเป็นของไร้ค่า
เมื่อย้อนรอยวิกฤตการณ์ทางการเงินในประวัติศาสตร์ มีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งอาจเรียกได้ว่าตลาด NFT เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเลย
Floor Price ของ NFT ชื่อดัง CryptoPunks และ Bored Ape Yacht Club (ที่มา : coingecko)
เหตุการณ์นี้คือ วิกฤตดอกทิวลิป หรือ Tulip Mania ในปี ค.ศ. 1636
เมื่อย้อนรอยกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1636 ฟองสบู่สินค้าโภคภัณฑ์แรกของโลกได้เกิดขึ้น และสร้างความเสียหายให้กับชาวดัตช์หลายราย สินค้าโภคภัณฑ์นั้นคือดอกทิวลิป
ณ เวลานั้นดอกทิวลิปเป็นสินค้าที่หายากในแถบยุโรป โดยเป็นสินค้านำเข้าจากตุรกี ด้วยความหายากจึงเป็นสินค้าที่มีราคาแพง เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่เห็นโอกาสจึงเข้าไปทำการเก็งกำไรส่งผลให้ราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น และถ้าหากว่าดอกทิวลิปมีจุดหรือสีที่แปลกก็จะยิ่งทำให้มันราคาสูงขึ้นไปอีก
ภาพวาด Tulip Mania โดย AI
การเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งนี้ทำให้ราคาของดอกทิวลิปสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งราคาของดอกทิวลิป 1 ดอก สูงกว่าราคาบ้าน 1 หลังและค่าแรงของคนงานทั้งปี 🤯
ในที่สุดฟองสบู่ก็แตกจากการขายเก็งกำไร และราคาของดอกทิวลิปก็กลับคืนสู่มูลค่าที่แท้จริงที่มันควรจะเป็น โดยเหตุการณ์นี้ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหลายรายต้องล้มละลายจากการขาดทุนในดอกทิวลิป ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจในวงกว้าง
เช่นเดียวกับตลาด NFT ความชอบส่วนตัวของนักสะสม และการเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งเช่นเดียวกับในวิกฤตดอกทิวลิปอาจนำไปสู่ ความเสียหายทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีการใช้งานของ NFT ที่เป็นรูปรรมจึงทำให้ราคามีความผันผวนที่สูงจากการเก็งกำไร แต่ในอนาคตอีกหลายปีอาจมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ก็อาจส่งผลให้มีมูลค่าที่ชัดเจนมากขึ้นและมีผันผวนที่ลดลง สำหรับคนที่อยู่ในวงการคริปโตฯ มานานอาจมองว่าการที่ราคาลง เป็นแค่วัฏจักร (Cycle) ของ NFT เฉยๆ
พิกัดหน้าจอคอมที่สายเทรดต้องมี สั่งซื้อเลย! จาก IT City: https://shope.ee/9pCWrhhOrO
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
