30 ก.ย. 2023 เวลา 14:23

[รีวิวอัลบั้ม] Lingering Gloaming - YONLAPA >>> ม้ามืดฟรอมเชียงใหม่

🚨🚨FPFM’s Best New Album Alert 🚨🚨
-ช่วงนี้ผมแอบซื้อคอนเซ็ปท์แห่งการปล่อยอารมณ์ไปเรื่อย แว๊บความรู้สึกอะไรขึ้นมาในหัว จัดไปเลย ชวนนึกถึง process อัลบั้มชุดใหม่ของ Lana Del Rey ซึ่งเป็นเสน่ห์แห่งการไหลไปตามอารมณ์โดยที่ไม่ยึดติดอะไรมาก เป็นความสนุกที่สดใหม่ แต่ต้องเก่งจริงในการทำให้คล้อยตามด้วยนะ สำหรับเดบิวต์อัลบั้มเต็มรูปแบบของวงอัลเทอเนทีฟจากเชียงใหม่ YONLAPA (ที่มาคือชื่อจริงของ frontwoman “น้อยหน่า”) เป็นการปล่อยความรู้สึก “ไหลไปเรื่อย” ที่ไม่อ่อนปวกเปียก แต่กลับมีภาคดนตรีแข็งแรงจนพาเราคล้อยไปคลื่นอารมณ์นั้นได้เลย
-การฟังเพลงของชาวคณะยลภาแทบทุกครั้ง ผมไม่ค่อยสนความหมายหรือต้องขวนขวายในการแปลไทยเลยด้วยซ้ำ อาจจะด้วยความขี้เกียจส่วนตัวของผมด้วยส่วนนึงมั้ง แต่ก็มองว่าการเอื้อนเอ่ยสุด jazzy ของคุณน้อยหน่า บวกกับภาคดนตรีแน่นๆที่ตบได้ทั้งไซคลีเดลิคที่จี๊ดจ๊าด ชูเกสที่สากเกินคำบรรยาย และความเคลิ้บเคลิ้มที่แตะรสของบอสซ่าโนว่าก็ได้ด้วย ทั้งหมดเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของวงนี้เป็นที่เรียบร้อย
-อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผลงานที่เน้นขายประสบการณ์เลยก็ได้ จากการสังเกต vibe ของซิงเปิ้ลที่ปล่อยนำร่องก่อนหน้านี้อย่าง Insomnia ตอนปล่อยออกมาระยะแรก ผมยอมรับว่า “ไม่คุ้นชิน” ด้วยสไตล์เพลงที่ผ่านมาของวงไม่ได้มาแนว night vibe ซักเท่าไหร่ พอมาอยู่ในอัลบั้มนี้กลับกลายเป็นเพลงที่บ่งบอก vibe โดยรวมของอัลบั้มนี้ได้มากที่สุด มีทั้งผ่อนคลายและลึกลับระคนกัน มีแค่เพลง On my own ที่มาคนละตีมเลย เหมือนหลุดออกมาจากเดบิวต์อีพี First Trip แต่ก็ยังคงเสน่ห์แห่งความอินดี้ อยากเป็นตัวของตัวเองอยู่วันยังค่ำ
-ครึ่งแรกของอัลบั้มมาในเวย์ที่แอบคาดเดาอะไรไม่ได้เหมือนกัน จะแช่มช้าผ่อนคลายก็ไม่เชิง จะลึกลับก็ไม่ซะทีเดียว แต่รู้ว่ากำลังเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งพลบค่ำ ยกเว้น On my own ที่ผมดันรู้สึกถึงความเจิดจ้าเอง เปิดอัลบั้มด้วย i don’t recognize you มีความเย้าแหย่ แอบกวนบาทานิดนึง เป็นแทร็กเรียกน้ำย่อยเลยล่ะ
-Sunday Gloaming เป็นความหวานแหววสุด cozy ชวนยิ้มมุมปาก เอาไปเปิดในคาเฟ่ก็ย่อมได้ แต่ถ้าเพลงไหนที่ฟังแล้ว ภาพปกอัลบั้มลอยมามากที่สุดก็คงจะเป็นเพลง ONE WAY TICKET ที่แสนจะล่องลอยและกรึ่มได้ที่ ภาคดนตรีสุดดรายเหมือนได้กลิ่นบุหรี่ลอยมาจากภาพปกอัลบั้มมากสุดล่ะ แต่พอเข้าสู่ท่อนฮุกสไตล์บัลลาด-โซล อารมณ์ประหนึ่งสติสตางค์เริ่มกลับมาอีกครั้ง มีการ speed up ในท่อน bridge ด้วยนะ
-I’m Just Like That เพลงที่เพิ่งถูกตัดเป็นซิงเกิ้ลได้อย่างสมควรยิ่ง อัลเทอร์เนทีฟร็อคเต็มข้อที่โดดเด้งตึ๋งหนืด ปลุกวิญญาณเด็กอัลเทอร์ได้อย่าง alert หลังจากที่ผ่านความเนิบช้าอย่างต่อเนื่อง แลดูเป็นเพลงตัดพ้อตะโกนของคนที่ถูกมองเป็นของตาย พอจุดเครื่องติดปุ๊บ เพลงต่อๆมาไม่มีคำว่าประนีประนอมเลย พวกเขาก็ไม่รอช้าที่จะแหวกว่ายต่อใน Sail away, away เป็นความพุ่งแบบ mid-tempo ที่เริ่มแตะรสชูเกสได้อย่างไดนามิคไหลลื่นไม่โหลงเหลง
-Is that true? หนึ่งในซิงเกิ้ลนำร่องที่มีความเป็น original YONLAPA มากที่สุด และตบท้ายการปล่อยโฮใส่ noise ที่เกรี้ยวกราดเอาเรื่อง กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อเข้าสู่โหมด Shoegaze อันเป็นไม้ตายหลักที่หยั่งลึกถึงแก่นไปตามลำดับ
-เริ่มจาก Hers ที่เป็นเมนูชูเกสที่ปรุงชูรสด้วยไลน์กีตาร์ไฟฟ้าสุดเฟี้ยว คำร้องสุด melodic ที่พอถูกเอามาเฟดเสียงปุ๊บ เหมือนเราได้เห็นคุณน้อยหน่ากำลังฮัมเมโลดี้เสียมากกว่า เป็นการแปลงค่าการขับร้องด้วยมนุษย์ที่ได้ผลลัพธ์เป็นแมชชีนดนตรีชิ้นนึงในบางเวลาเลย (คิดได้ไงครับเนี่ย) อีกทั้ง Outro ของเพลงนี้โหมกระหน่ำนอยซ์ได้อย่าง chaos เหมือนอัดอั้นอ่ะ
-ต่อเนื่องด้วยชูเกสหลอนๆของจริงใน My Apologies ที่ลงล็อคกับ Outro ของเพลง Hers ได้อย่างแหล่มชัดในแบบที่หากฟัง shuffle คือพลาดมากๆ เพราะเพลงนี้เป็นการปะติดปะต่อเพลง Hers อีกทีนึง Intro ของเพลงคือการเฟดความ chaos จาก session เพลงก่อน แล้วค่อยเร่ง volume ไปสู่ลวดลายแห่งความขมุกขมัวได้อย่างน่าทึ่ง
ปกติผมชอบ shoegaze เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เจออินโทรเพลงนี้ผมถึงขั้นว้าวเลย ประหนึ่งโหยหาความตึงแบบนี้มานาน อีกทั้งมันเป็นความหม่นที่ชวนระลึกถึงการกระทำหว่องในที ถ้าใครดูหนังของหว่องกาไวจะนึกถึงแสงสีที่ไม่เจิดจ้า ขมุกขมัว motion ที่แกว่งแบบยืดๆ ถือว่าเป็นไคลแม็กซ์อยู่นะ
-ปิดท้ายในแบบชะล้างความขมุกขมัวไปเลยด้วย come back to mine ที่วกกลับเข้าสู่จุด nostalgia อันแสนอบอุ่น หลังจากที่โดนซัดอย่างหนักหน่วงในช่วงครึ่งหลัง เป็นความออดอ้อนที่ดูเป็นแสงรำไรของการรอคอยที่คาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะกลับมาไหม แต่ที่แน่ๆมันเป็นความผ่อนคลายชวนระลึกถึง Why Why Why แต่ให้บริบท B-Side เสียมากกว่า เพิ่มเติมด้วยขลุ่ยที่สร้างลวดลายแห่งการปลอบประโลมที่โล่งใจได้ระดับนึง
-นี่อาจจะเป็นรีวิวอัลบั้มที่ผมพูดถึงพาร์ทเนื้อหาเพลงน้อยมาก ไม่ครอบคลุมได้ทุกแง่มุมเท่ารีวิวอัลบั้มอื่นๆ แต่ด้วยรสชาติแห่งอิทธิพลอันหลากหลายของอัลเทอร์เนทีฟที่ชาวคณะยลภาเสิร์ฟมาให้กลับถูกจริตผม ไม่น่าเชื่อว่าวงจากเชียงใหม่เริ่มแอดวานซ์ในแง่ของการบาลานซ์ความผ่อนคลายและความตึงได้อย่างครบรส อ่อนหวานก็ได้ จัดจ้านก็ได้ หรือแม้กระทั่งความสากก็ทำให้ร้องอื้อหืออย่างถ้วนหน้า แทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามในการเค้นปรัชญาใส่ lyrics ให้ขบคิดอะไรให้มากมายเลยด้วยซ้ำ แถมยังเปิดโลกบางมุมที่คนฟังคาดไม่ถึงด้วย
-การเรียบเรียงคลื่นแห่งความรู้สึก พวกเขาก็คิดมาอย่างดีด้วยนะ ยกตัวอย่าง การไม่คิดที่จะรวมเพลง Stay (ใกล้ ใกล้) ซึ่งหลายคนชอบมากๆรวมถึงผมด้วย มาในสไตล์ Thai Shoegaze ที่น่าเอาไปรวมด้วยซ้ำ
-เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว พวกเขาไม่โลภที่จะเอาเข้าไปรวมเพื่อชูโรงขนาดนั้น ในเมื่อ 11 เพลงในลิสท์นั้นมันสุดทางความเป็นอินเตอร์มามากพอแล้ว การเอาเพลงไทยเข้าแทรกก็อาจจะแปร่งไปหน่อย เป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว ซึ่งทำให้รู้เลยว่าชาวคณะยลภาไม่ได้มาเล่นๆ พวกเขาพร้อมที่จะเล่นกับความรู้สึกคุณได้ทุกเมื่อ โดยไม่สูญเสียความบันเทิงไปแม้แต่นิดเดียว
อัลบั้มแห่งปีโดยไม่มีเงื่อนไข
Give 8.5/10
Thx 4 Readin’
See Y’all
โฆษณา