4 ต.ค. 2023 เวลา 05:09 • กีฬา
ซัปโปะโระ

ทีมสโมสรท้องถิ่นเล็กๆของญี่ปุ่น ในชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2023

แล้วอยู่กลุ่มเดี่ยวกับ บุรีรัมย์ ทีมโคฟุ (Ventforet Kofu)
ที่มนี้มากจากไหนกัน?
สวัสดีครับ
ครั้งนี้ตั้งใจจะมาเล่าเรื่อง ทีมสโมสรท้องถิ่นเล็กๆทีมนึงในญี่ปุ่น ที่สวมวิญญาณนักสู้ ต่อกร ท้าทาย เขี่ยทีมใหญ่ใน J1 ตกรอบมาแล้วถึง5ทีม ในรายการฟุตบอลถ้วยจักรพรรดิ์ 2022 จนได้เป็นแชมป์ และได้สิทธิ์ลุย ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2023 และนั้นก็เป็นครั้งแรกของพวกเค้าที่ออกสู่เอเชีย
ทีมที่พูดถึงนี้ คือทีมฟุตบอล ที่มาจากเมืองโคฟุ ในจังหวัด ยามะนะชิ จังหวัดที่มีพื้นที่ครึ่งหนึ่งภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ ที่พูดแบบนี้เพราะภูเขาไฟฟูจินั้นตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยามะนะชิ และชิสุโอคะ จังหวัดยามะนะชิ คือจังหวัดมีทะเลสาบคาวะคุกิโกะ ที่คนนิยมไปเที่ยวชม ภูเขาไฟฟูจิ
พูดอย่างนี้น่าจะพอคุ้นหู ขึ้นมาบ้างกันบ้างแล้วนะครับ สำหรับใครที่เคยมาเที่ยวญี่ปุ่น
แต่หากเป็นชื่อเมืองโคฟุ ในจังหวัดยามะนะชิ อาจไม่เคยได้ยินชื่อนี้
ตัวเมืองโคฟุห่างจากโตเกียว ไปทางตะวันตก ราว 135 กม. จากศูนย์กลางของโตเกียว
มีทีมฟุตบอลท้องถิ่น ที่กำลังเป็นที่จับตามอง Ventforet Kofu
แม้ฤดูกาล2023 Ventforet Kofu กำลังเล่นอยู่ในระดับ J2 แต่ได้สิทธิ์ไปลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย โดยอยู่กลุ่มเดี่ยวกับทีมบุรีรัมย์จากไทย ด้วยผลงานในลีกJ2ฤดูกาล2023 ที่เป็นอยู่ ก็น่าทำให้ทีมมีลุ้นเลื่อนชั้นขึ้น J1 ก็เป็นได้
เพื่อให้เข้าใจทีม Ventforet Kofu ได้มากขึ้น จึงขอเล่าด้วยประวัติของทีมด้วยTime line ต่อไปนี้ครับ
ปี 1965
เริ่มต้นสโมสรโคฟุ โดยเกิดจากกลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียน มัธยมในโคฟุ มาร่วมทีมกัน ในเวลานั้นใช้ชื่อว่า ” Kofu Club”
เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ชิงแชมป์ฟุตบอลญี่ปุ่น ระดับประชาชนทั่วไป(คำแปลผู้เขียน)
ปี1971
ในการแข่งขันเชิงแชมป์ฟุตบอลญี่ปุ่น ระดับประชาชนทั่วไป ทีมโคฟุ ที่สมัยนั้นใช้ชื่อว่า โคฟุคลับ ได้เข้าไปถึงรอบ8ทีมสุดท้าย
จึงเลือนสิทธิ์เลือนชั้นขึ้นมา เแข่งในระดับที่สูงกว่า ที่ใช้ชื่อว่า JSL2 ในสมัยนั้น
ตรงนี้เล่าเสริมนะครับว่า
การชิงแชมป์ฟุตบอลญี่ปุ่น ระดับประชาชนทั่วไป
ในปัจจุบันยังคงมีอยู่ ที่ใช้เส้นทางแรกของทีมระดับสโมสร เข้ามาแข่งขัน เพื่อต่อยอดไปมาสู่ระดับ เจลีกอนาคต หลายทีมในเจลีกนั้น ต่างก็เริ่มต้นมาจากการชิงแชมป์ฟุตบอลญี่ปุ่น ระดับประชาชนทั่วไป
ตั้งแต่เริ่มทำทีมโคฟุมานั้น ต้องประสบปัญหาทั้งเรื่องสภาพคล่องการเงินอยู่บ่อยครั้ง
ด้วยจำนวนผู้เข้าชม และไม่มีผู้สนับสนุนทีม จนหลายๆครั้ง หาผู้เล่นร่วมทีมไม่ค่อยได้ สภาพทีมจึงอยู่สถานะที่ยากลำบากมาเรื่อยๆ
ปี1995
เปลี่ยนชื่อทีม มาเป็นชื่อ ที่ใช่อยู่ในปัจจุบัน Ventforet Kofu
ความหมายของชื่อ และตราสโมสร
ชื่อสโมสร มีที่มาจากคำกล่าวของขุนศึกสมัยโบราณชื่อดัง ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในเมืองโคฟุ
ท่าน Takeda Shingen ที่มีสโลแกน การทำศึกว่า
”รวดเร็วดุจสายลม เงียบดั่งขุนเขา”
จึงเป็นที่มาของชื่อว่า Ventforet มีที่มาจากคำในภาษาฝรั่งเศษสองคำมาผสมกัน
"Vent" หมายถึง สายลม "Foret" หมายถึง ป่าเขา กล่าวคือสายลมและป่าเขา
ที่มันตรงมาสโลแกนการรบของท่าน Takeda shingen
ดอกไม้ที่เห็นในตราสโมสร ดอกฟุจิซากุระ ที่มีอยู่ในจังหวัด ยามะนะชิ
คำย่อที่อักษรมาอังกฤษ " VFK " Vital Fighting Knights
ปี1997
เพื่อความเป็นสโมสรอาชีพที่สมบูรณ์ ทีมได้เริ่มจัดตั้งบริษัท
โดยใช้ชื่อว่า "Ventforet Yamanashi Sportclub"
(ヴァンフォーレ山梨スポーツクラブ)
ปี1998
ในเวลานั้น ทีมโคฟุที่ยังเล่นอยู่ในลีกที่ชื่อว่า JFL
ได้จบฤดูกาลที่อันดับ 4 ของตาราง ซึ่งเป็นผลให้ได้สิทธิ์เลือนชั้น
ขึ้นมาในระดับ J2 ในฤดูกาลถัดไป
ในปีเดี่ยวกัน ทีมที่ได้อันดับ2 JFL ปี1998 คือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นระดับ เจลีก เช่นกัน แต่ได้ขยับขึ้นไปเล่นใน J1 แล้วนั้น ก็เป็นปีเริ่มต้นเจลีกของ ทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เช่นกัน
ปี1999
หลังจากได้ขึ้นมาเล่นใน J2 ผลงานในลีกปีแรก จบอันดับสุดท้าย มี18คะแนนจาก 36นัด
ปี 2000
โคฟุทำสถิติแพ้ 19 นัดต่อเนื่อง ที่ยังเป็นสถิติที่ถูกบันทึกไว้จนปัจจุบัน ว่าเป็นการแพ้ต่อเนื่องมากที่สุดในระดับJ2
แล้วนั้นคือจุดเริ่มต้นวิกฤตในทีมโคฟุ จนมีโอกาศทำให้ทีมต้องหายไปจากJลีก ด้วยเหตุการณ์ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ขั้นรุ่นแรง เป็นหนี้ และไม่มีเงินจ่ายเงินเดือน
แต่ด้วยความที่ เวนโฟเรนโคฟุ คือทีมท้องถิ่นของเมืองโคฟุ ความพูกพันในชุมชม ที่มีให้กับทีม คนในเมืองโคฟุ จึงร่วมแรงรวมใจช่วยเหลือสโมสร ไว้ว่าจะบริจาคเงิน เช่นการตั้งจุดรับบริจาคที่สถานีรถไฟของเมืองหลายบริษัท ห้างร้าน ต่างยื่นความช่วงเหลือแก่สโมสรโคฟุ
เวลานั้นด้วยเงินประมาณ 4-5 หมื่นเยน หรือประมาณ 10,000 บาท ที่ให้แก่ทีมมันช่างมีค่ากับสโมสรเป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุให้เห็นป้ายโฆษณา อยู่เต็มพื้นที่สนามเหย้าของโคฟุ ในเวลานั้น จำนวนบริษัท ห้างร้านที่สนับสนุนทีมโคฟุเวลานั้น มีมากถึง 260 บริษัท
แม้กระทั้งร้านซักรีดแห่งหนึ่งในเมืองโคฟุ ที่ช่วยทีมด้วยการ ให้เอาชุดนักเตะไปซักที่ร้านได้โดยไม่คิดค่าบริการ ช่วงเหตุการณ์วิกฤตของทีมปี 2000
ด้วยความสัมพันธ์อันดีของคนในเมืองและทีม ทีมบริหารที่เข้ามาดูแลในช่วงเวลานั้น ทำให้ทีมโคฟุ ผ่านวิกฤต การถูกยกเลิกทีมมาได้
ปี 2005
ทีมโคฟุ ผลงานในลีก J2 มาดี สามารถจบอันดับ 3 ทำให้ได้สิทธิ์ เล่นรอบ Play-off เพื่อขึ้นสู่ J1 โดยไปพบกับ คาชิวะ เรย์โซล ที่เล่นอยู่ใน J1 ที่ทำผลงานจบในอันดับ 16 เป็นเหตุให้ต้องมาเล่น Play-off ชี้ชะตาการอยู่รอดในJ1
แล้วเป็นทีมโคฟุ ที่ส่ง ทีมคาชิวะ เรย์โซล ร่วงไปสู่J2 แล้วส่งตัวเองเลื่อนขึ้น J1 ได้ในฤดูกาลถัดไป ปี 2006 นับครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ที่ได้ก้าวขึ้นมาสู้ ลีกสูดสุดของญี่ปุ่น J1
แต่ว่าการที่ได้มาเล่นอยู่ ในJ1 ที่ต้องเจอกับทีมมาตราฐานสูง อดทด พยายามสู้ จนอยู่รอดในฤดูกาล 2006 จนมาถึงฤดูกาล 2007 จบอันดับ17 ร่วงตกไปอยู่ใน J2 อีกครั้ง
ปี2010
โคฟุ จบอันดับ2 ในฤดูกาล 2010 ของ J2 เป็นผลให้ขึ้นสู่ J1ได้ทันที ไม่ต้องไปลุ้นเล่นPlay-off
ปี2011
ผลงานใน J1 ไม่เป็นดังหวังอีกครั้ง จบอันดับ 16 เลยต้องร่วงกลับไปอยู่ J2 อีกครั้ง
ปี2012
ด้วยเป้าหมายที่กลับมา J1 ให้ได้เป็นครั้งที่ 3 ในฤดูกาล 2012 ทีมโคฟุ เล่นอย่างดุดัน จนสร้างสถิติไม่แพ้ใครต่อเนื่อง 24 นัด
ที่ปัจจุบันยังไม่มีทีมใด ล้มสถิตินี้ลงได้ระดับ J2
ปีนั้นทีมโคฟุ เป็นแชมป์ J2 ในฤดูกาล 2012 ได้กลับมาเล่น J1 ทันที่สมใจ และนั้นก็เป็นแชมป์ลีก ครั้งแรกของสโมสรด้วย
ได้แชมป์ J2 2012 แชมป์ลีกครั้งแรกของสโมสร
ปี2013
แม้กลับมาเล่นใน J1 ได้แล้ว แต่ด้วยมาตราฐานทีมของทีมในระดับ J1 ทำให้โคฟุ ต้องอดทน ต่อสู้อย่างหนักเพื่อการอยู่รอดในJ1 นั้นหนักมาก ซึ่งผลงานทีม ก็มักจะอยู่กลุ่มท้ายตาราง อยู่โซนหนีตกชั้น
ปี2017
ด้วยผลงานที่เป็นใจกับทีม จบฤดูกาล 2017 ทีมโคฟุ ต้องกลับไปเล่นใน J2 อีกครั้ง
ปี2018
เป้าหมายเช่นเดิมกับฤดูกาล 2012 คือการกลับมาเล่นใน J1 ให้ได้ใน1 ฤดูกาล
แต่ว่าในปีดังกล่าว จบที่อันดับ 9 ของJ2 คือไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเล่นรอบ Play off เพื่อเลื่อนชั้น เพราะต้องอันดับ 3-6 เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์
ปี2019
ความพยายามที่จะกลับมา J1 ยังคงไม่ลดล่ะ สามารถจบอันดับที่ 5 มีสิทธิ์เล่นรอบ Play-off ลุ้นเลื่อนชั้น แต่กลับพลาด จึงต้องไปพยายามกันใหม่ในฤดูกาลถัดไป
ปี2020
ปีที่ทั้งโลกเจอวิกฤต ไวรัสโคโรน่า ที่หลังจากเปิดฤดูกาลไปแล้วจำเป็นต้องพักการแข่ง แล้วกลับมาแข่งใหม่อีกครั้งในเดือนมิถุนายน จนจบฤดูกาล ทีมโคฟุจบที่อันดับ 4 ตามหลักการแล้วจะได้สิทธิ์เล่น Play off ลุ้นเลื่อนชั้นขึ้นJ1 แต่ด้วยสถานะการณ์ไวรัสโคโรน่า ทำให้J League ตัดสินใจว่า ไม่มีการเตะPlay off เลือนชั้น ในปีดังกล่าว ส่งผลให้ไม่มีการเลื่อนชั้นขึ้นลง ของทั้ง J1 และJ2
ปี2021
เป็นปีที่โชคไม่เป็นใจ กับความพยายามที่จะกลับไปเล่นในJ1 ที่แม้จะจบอันดับที่ 3 ที่ตามปกติจะได้สิทธิ์เล่นPlay off ลุ้นขึ้น J1 แต่ฤดูกาล 2021 ไม่มี Play-off มีเพียงให้ทีมที่จบอันดับ 1-2 ในJ2 เลื่อนชั้นสู่ J1 ได้ทันที
ปี2022
ดูเหมือนว่าฤดูกาลนี้ ความพยายามจะกลับไป J1 จะดูยิ่งห่างไกลออกไปอีก เพราะจบที่ 18 ในฤดูกาล2022
แม้ผลงานเกมส์ลีกค์ จะไม่เป็นดังใจหวัง แต่ในเกมส์บอลถ้วยจักรพรรณดิ์ กลับทำได้ดีเกินคาด เป็นม้านอกสายตา ที่จะจัดการทีมจากJ1 ให้ร่วงตกรอบไปได้ ฟุตบอลถ้วยจักรพรรณดิ์ฤดูกาล 2022 ไปถึง 5ทีม
ชนะ Hokkaido Conasadole Sapporo ได้ในรอบ32ทีม
ชนะ Sakan tosu ในรอบ 16 ทีม
ชนะ Avispa Fukuoka ในรอบ 8 ทีม
ชัยชนะที่สร้างความประหลาดใจที่สุด
คือการชนะ หนึ่งในยอดทีมใน J1 คาชิมะ แอนต์เลอส์ ในรอบรองชนะเลิศ
ที่นักเตะ ทีมงานสโมสรแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ กับชนะเหนือ คาชิมะ แอนต์เลอส์
ความประหลาดใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้น
รอบชิงชนะเลิศ โคฟุ พบกับ ซานเฟรชเช ฮิโรชิมะ
ที่เสมอกันในเวลาปกติ 1-1 จนต้องต่อเวลาและจบด้วยการยิงจุดโทษ เป็นทางโคฟุ
ที่ทำได้ดีกว่า ปิดเกมส์ เอาชนะซานเฟรชเช ฮิโรชิมะ
เป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยจักรพรรดิ์ฤดูกาล 2022 ได้สำเร็จ
ซึ่งเป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยนี้ครั้งแรกของสโมสรอีกด้วย
ผลของการเป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยจักรพรรดิ์ ทำให้ได้สิทธิ์ ไปลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ที่เป็นครั้งแรกของสโมสรอีกเช่นกัน
คว้าแชมฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระจักรพรรดิ ฤดูกาล 2022
เป็นเรื่องท้ายเป็นอย่างมากสำหรับสโมสรท้องถิ่นเล็กๆ ที่ต้องไปพบกับทีมใหญ่ๆระดับแชมป์ลีกของแต่ล่ะประเทศ ที่เข้าผ่านเข้ามาในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย
ในวันจับฉลากแบ่งกลุ่ม หากใครได้ดูถ่ายทอดสดในวันนั้น คนจับฉลากในงานยังพูดขึ้นมาเลยว่า "นี้คือที่ทีมท้องถิ่น ทีมเดียวในศึกสโมสรเอเชีย2023"
ต้องพูดกันตรงนะครับว่า ทีมโคฟุ แม้จะเป็นทีมท้องถิ่น ที่จุดเริ่มมาจากศึษย์เก่า ม.ปลาย ในโคฟุ มาร่วมตัวกัน ที่อาจไม่ได้มีเงินสนับสนุนมากมาย นักเตะค่าตัวที่ไม่ได้สูงเหมื่อนทีมอื่นๆ หรือแม้แต่ สนามซ้อมของทีมยังต้องเวียนไปหลายๆที่ในเมือง ใช้สนามฟุตบอลในสวนสาธารณะบ้าง สนามของมหาวิทยาลัยในเมืองโคฟุบ้าง
จากคำให้สัมภาษณ์ของนักเตะ ที่ความรู้สึกกังวล กับสภาพสนามที่ให้ซ้อมอยู่บางที่นั้น เมื่อฤดูหนาวมาเยือน พื้นสนามจะแข็งจนอาจส่งผลการบาดเจ็บของนักเตะ แต่ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้
ด้วยความเป็นทีมเล็ก แต่หัวใจใหญ่ อะไรใดจึงไม่ใช่ปัญหาที่จะมาหยุดทีมไว้ได้
จากการสัมภาษณ์ นักเตะในทีมโคฟุ ว่าการเป็นตัวแทนสโมสรญี่ปุ่น โดยมีธงชาติญี่ปุ่นติดเหนือตราสโมสรในชุดที่ต้องออกไปแข่งในศึกชิงแชมป์ฟุตบอลสโมสรเอเชีย มันทำให้นักเตะในทีม รู้สึกว่า ยิ่งต้องสู้เกินร้อย วิ่งสุดกำลัง ไม่มีถอย เพราะต้องแสดงให้เอเชียได้เห็น ศักยภาพของฟุตบอลญี่ปุ่น
มาดูกันครับว่าทีมระดับท้องถิ่น อย่างทีมโคฟุ จะเล่นกับทีมในระดับเอเชียแล้วจะไปได้ไกล ขนาดไหน จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทีมได้หรือไหม แต่แน่ๆพวกเค้าอยู่ กลุ่มเดี่ยวกับ บุรีรัมย์ ของไทยเราด้วย ในศึกชิงแชมป์ ฟุตบอลสโมสรเอเชีย
โฆษณา