5 ต.ค. 2023 เวลา 01:13 • ปรัชญา

๑๗. อุปมาแห่งชีวิต

ชีวิต ดูให้ดีๆ เถิด มันเหมือนกับแสงสว่าง เขายิ่งเรียนมากเท่าใด เขารู้สึกว่าเขารู้อะไรขึ้นมาก แต่ดูให้ดีๆ เขาจะแปลกหน้ากับตัวเอง เขาจะรู้จักตัวเองน้อยลงๆ แต่เขารู้จักโลก รู้จักสังคมมากขึ้นๆ
ในที่สุดชีวิตเขาเหลือแต่ซากของมัน ส่วนแก่นของมันนั้นเริ่มตายเสียแล้ว เหลือซากเหมือนกับบวบแห้งๆ เหมือนหนังตะลุงหรือเหมือนหุ่นกระบอกที่เชิดอยู่ โดยตัวมันเองแห้งแล้ง เพราะมันไม่มีชีวิต
ส่วน ชีวิตจริงนั้น ต้องหมายถึงอาการที่สลัดมารยาสาไถยทิ้งจากการเสแสร้งแกล้งทำ ไปอยู่กับความเป็นจริง หรือสัจจะของมัน,
ความรักระหว่างแม่และลูกนั้น จะดูแง่ที่ว่ามันเป็นความรักของอวิชชาก็มีอยู่ แม่พยายามยัดเยียดบางสิ่งที่แม่ปรารถนาให้ลูก และลูกพยายามที่จะช่วยแม่ให้ได้ดีมีหน้าตา ตามกิเลสแม่ปรารถนา ในที่สุด ทั้งคู่กอดกันแน่นในวัฏฏสงสาร ในวังวนของค่านิยมผิดๆ ของระบบสังคมแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อย่างดีที่สุด เราจะเรียกการตอบสนองคุณแม่เพื่อพอกพูนกิเลสนี้ได้ว่า ความกตัญญูของอวิชชา
และชีวิตแม่ลูกจบลงอย่างน่าเศร้าที่สุด ก็คือว่าทั้งคู่ตายอย่างสัตว์สามัญ ไม่หนีพ้นความตายไปได้ และแทนที่จะช่วยกันให้ออกไปจากวัฏฏะ กลับสร้างเสริมกันและกันให้ถูกขังอยู่ในคุกของความไร้อิสรภาพ
ชีวิตเช่นนั้นก็คือ ตายแล้วตั้งแต่แรกเกิด คือ ตายจากอิสรภาพ ห่างจากสันติ, ส่วนชีวิตที่แท้จริงนั้น ต้องตายจากชีวิตชีวาชนิดนั้นก่อน เมื่อนั้นแหละจึงจะเกิดความรักกตัญญูแท้
"อุปมาแห่งชีวิต" เป็น ๑ ใน ๖ เล่ม จากชุดปาฐกถา "พระธรรมกับชีวิต" โดยทุกเล่มบันทึกจากที่ท่านเขมานันทะ ปาฐกถาให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางเขน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ขณะนั้นท่านยังครองสมณเพศ
โฆษณา