Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าของเราเอง
•
ติดตาม
7 ต.ค. 2023 เวลา 11:43 • นิยาย เรื่องสั้น
ชีวิตบัดซบที่คิดว่าไม่มีจริง EP.9 วัยเบญจเพศ
ระหว่างกำลังทุบหัวฆ้อนเกิดหลุดออกจากด้าม ทำให้มือเราไปกระแทกเข้ากับเปลือกชิ้นงานด้านนอกที่มีความคมมาก เสียงนิ้วกระแทกกับเหล็กเสียงดัง “ฉึก” เรายกมือขึ้นความรู้สึกตอนนั้นมันชาไปทั้งมือ....
เรา
หลังจากการแต่งงานระหว่างเรากับนุชเสร็จสิ้นเราก็ตัดสินใจกลับไปเรียนต่ออีกครั้ง เราสมัครเรียนการศึกษานอกโรงเรียนหรือ กศน. โดยทางโรงเรียนให้เลือกเรียนวันใดวันหนึ่งระหว่างวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าบริษัทให้เราหยุดทุกวันพุธ เราเลยตัดสินใจเข้าไปคุยเรื่องการขอเปลี่ยนวันหยุดเป็นวันอาทิตย์กับหัวหน้าแผนกถึงทางหัวหน้าแผนกก็เข้าใจแต่ปัญหาอยู่ที่ฝ่ายบุคคลที่ค่อนข้างงี่เง่าอ้างปัญหาโน่นนี่นั่น
กว่าเราจะคุยขอความเมตตาได้ก็เล่นเอาหลายสัปดาห์ ทั้งเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วยหลายเดือนเข้าความล้าก็มาความเหนื่อยเริ่มถามหา แต่เราก็ต้องอดทน บอกตัวเองว่าต้องทำได้นี่แค่เริ่มต้นเองอย่าท้อซิ
พอนุชท้องได้ 7 เดือนท้องนุชเริ่มใหญ่อีก 2 เดือนลูกเราก็จะคลอดแล้ว เราทั้งตื่นเต้นและดีใจ แต่ทางพ่อแม่ของนุชเป็นห่วงกลัวว่านุชไม่มีคนดูแลหลังคลอดลูกเลยรับนุชไปดูแล เราจึงจำเป็นต้องอยู่คนเดียว ระหว่างที่ทำงานเราใจลอยคิดว่านุชจะเป็นยังไงบ้าง ลูกออกมาจะต้องยังไงต่อ ครอบครัวเราจะเป็นอย่างไร จนเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำงานขึ้น เลยทำให้เอ็นนนิ้วมือเราขาดจนทุกวันนี้
เรื่องมีอยู่ว่าช่วงที่เราทำงานประกอบชิ้นส่วนในเครื่องจักร เราต้องใช้ค้อนทุบปลอกลูกปืนให้เข้ากับตัวเปลือกเหล็กที่จะเอาไปประกอบกับเครื่องจักรใหญ่อีกทีหนึ่ง ระหว่างกำลังทุบหัวฆ้อนเกิดหลุดออกจากด้าม ทำให้มือเราไปกระแทกเข้ากับเปลือกชิ้นงานด้านนอกที่มีความคมมาก เสียงนิ้วกระแทกกับเหล็กเสียงดัง “ฉึก” เรายกมือขึ้นความรู้สึกตอนนั้นมันชาไปทั้งมือ
1
ทั้งเจ็บและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก พี่ๆที่เห็นเหตุการณ์รีบเอาผ้ามาพันมือไว้เพื่อห้ามเลือดแล้วรีบพาเราไปหาฝ่ายบุคคลเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที พอถึงโรงพยาบาลซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเรารีบเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เรานอนรอบนเตียงอยู่นานมากประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ (ใครเคยมีอารมณ์แบบนี้บ้างคงเข้าใจ) มันหงุดหงิดมาก
ตอนนั้นเราคิดในใจว่าอะไรว่ะคนเจ็บจะตายให้นอนอยู่ได้ ครึ่งชั่วโมงกว่าๆผ่านไปหมอก็เดินเข้ามาให้พยาบาลเช็ดเลือดจากบาดแผลเพื่อดูแผลแต่เลือดก็ยังไม่หยุดซึมออกมาเรื่อย ๆแต่ไม่มากเหมือนตอนแรก หมอให้เราไปเอ๊กเรย์ทันทีหลังจากกลับออกจากห้องเอ๊กเรย์มานอนรออีกครึ่งชั่วโมงเพื่อรอผลเอ๊กเรย์ หมอเดินเข้ามาแล้วบอกเราว่า ”เอ็นนิ้วกลางข้าขวาของคุณขาดนะครับ ต้องทำการเปิดปากแผลเพื่อเย็บเส้นเอ็นให้ติดกัน” เรารีบบอกหมอว่า “ครับรีบทำหน่อยครับตอนนี้ผมเจ็บจะแย่อยู่แล้วครับ”
หมอทำการเย็บเส้นเอ็นของเราแต่ตอนที่กำลังจะเย็บต้องพยายามดันปลายนิ้วกลางที่เส้นเอ็นขาดนั้นมาใกล้หลังมือให้มากที่สุดเพื่อจะดึงเอ็นที่ขาดมาเย็บติดกับ มันเจ็บมากตอนนั้นเหมือนคนกำลังโดนหักนิ้วนี่ขนาดฉีดยาชานะเรายังเจ็บขนาดนี้ถ้าไม่ฉีดขนาดไหน หมอทำการเย็บเส้นเอ็นอยู่ครึ่งชั่วโมงและยึดนิ้วมือข้างขาวของเราไว้พร้อมใส่เฝือกแข็งไว้ หมอบอกว่า “คุณห้ามใช้มือข้างขวาเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อให้เอ็นที่ขาดมันติดกัน หมอเย็บไหมละลายไว้ข้างในไม่เป็นอะไรเดี๋ยวมันละลายเองแต่ต้องมาตัดไหมที่เย็บด้านนอกนะครับ”
ขอบคุณภาพ : https://th.pikbest.com/png-images/first-aid-help-bag-for-emergency_9235148.html
หลังจากทำแผลเสร็จเรียบร้อยหมอก็ให้ใส่สลิงอาร์มเพื่อประคองแขนและให้กลับบ้านได้
เรากลับมาจากโรงพยาบาลมานั่งนึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่เพราะงานที่เราทำ เราทำถึงขั้นชำนาญก็ว่าได้ไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ซึ่งเรายังหาสาเหตุไม่ได้ เบื่องต้นหมอให้เราหยุดพัก 3 เดือนจนกว่าจะหาย การกลับมาอยู่บ้านคนเดียวทั้ง ๆ ที่บาดเจ็บขนาดนั้นมันเหงามาก แถมยังเป็นที่มือขวาข้างที่เราถนัดอีกด้วยยิ่งทำอะไรลำบาก เช่น การกินข้าว การซักผ้าและอื่นๆอีกมากมาย ทำให้เราต้องมาหัดใช้มือซ้ายในการช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง
ส่วนงานอื่น ๆ เราทำเท่าที่เราทำได้เช่น การซักผ้าเราก็โยนใส่กะละมังใส่ผงซักฟอกแล้วก็ใช้เท้าเหยียบๆเอาพอประมาณล้างน้ำเปล่าเราก็ใช้เท้าเหยียบ 3 น้ำพอให้มันสะอาดแล้วก็ตากทั้ง ๆที่ชุ่มน้ำแบบนั้นแหละเพราะว่าเราใช้มือบิดผ้าไม่ได้ ผ่านไปสามเดือนเราไปผ่าเฝือกออกแผลใกล้หายแล้ว ใจหนึ่งก็ดีใจที่ไม่ต้องเสียนิ้วแค่เอ็นขาด แต่เราก็ยังคิดถึงลูกเมีย
1
เย็นวันหนึ่ง ช่วงที่เรากำลังชักผ้าพ่อเราผ่านมาเห็นเข้าพอดีถามเราว่า “ทำอะไร” เราบอกว่าซักผ้าครับ” พ่อถามต่อว่า “ซักแบบนี้เลยเหรอ “เราตอบว่า “ทำยังไงได้ล่ะพ่อ” แต่คำที่พ่อพูดออกมาที่ทำให้เราจุกในอกอีกครั้งคือ “เออ..กูลืมไปว่ามึงเอ็นนิ้วขาดน่าจะเอาไปซักเครื่องซักผ้าที่ในบ้าน” เราจุกในอกมากขนาดอยู่บ้านติดกันยังไม่สนใจเราสักนิดแล้วจะพูดแบบนี้เพื่อ...? เราตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นรัยครับพ่อมันหายแล้ว”
และแล้ววันที่ชีวิตน้อย ๆได้ลืมตาดูโลกก็มาถึง ลูกเราคลอดออกมาแล้วเป็นเด็กผู้หญิงน่าตาน่ารัก สมัยนั้นยังไม่มีสมาทโฟนเพียงแต่คุยผ่านตู้โทรศัพท์คำบอกเล่าจากนุชที่เราโทรไปหา เราลางานนั่งรถประจำทางไปหานุชที่บ้านพ่อแม่นุช แว็ปแรกที่เราเห็นลูกมันเหมือนถูกตรึงด้วยความตื้นตันแบบบอกไม่ถูกและคิดถูกแล้วที่ไม่ให้นุชเอาออก
เราเคยเลี้ยงลูกพี่สาวมาก่อนแลยไม่ยากในการเลี้ยงลูกสาว เราทำทุกอย่างให้ลูกเราทั้งชงนมเปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ ทำความสะอาด รวมถึงเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ลูกเราทำได้หมดและไม่เคยให้ใครทำเพราะไม่ไว้ใจกลัวไม่สะอาด
ขอบคุณภาพ : https://th.pikbest.com/png-images/qiantu-infant-baby-sucking-pacifier-cartoon-drawing-illustration_2718354.html
หลังจากครบกำหนดลาหยุดเราพานุชกลับมาที่บ้านพักบริษัท เพื่อนๆร่วมงานเข้ามาแสดงความยินดีกับเราที่ได้ลูกสาว ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกหน้าตาดีเหมือนพ่อมัน 555 การที่เราทำงานในเวลากลางวันและกลับมาช่วยนุชเลี้ยงลูกในเวลากลางคืนนั้นบอกเลยว่าโคตรเหนื่อย เพราะนุชนั้นเลี้ยงในเวลากลางวันคนเดียวแล้วเราเข้าใจในความเหนื่อยเลยต้องช่วยผลัดกันเลี้ยง เราจะดูลูกในตอนกลางคืนเวลาลูกร้อง
เราต้องพาอุ้มเดินไปเรื่อย ๆจนกว่าลูกจะหลับ พอโตมาพอกินนมขวดได้ก็เรานี่แหละที่คอยชงนมให้ในตอนกลางคืนเวลาลูกร้อง ช่วงนั้นเราเหนื่อยมากเพราะไม่ค่อยได้นอน ช่วงเวลานั้นเราโคตรคิดถึงแม่เลยแม่คงเหนื่อยมากตอนที่เราเกิด ตอนนั้นทำให้เราเข้าใจ ความรู้สึกการเป็นพ่อแม่คน
เราต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยและต้องช่วยกันเลี้ยงลูกในเวลากลางคืนมันโคตรเหนื่อยเลยเพราะเราแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย แต่เราก็มีความสุขนะที่ได้ทำ เราก็ทำงานไปเรียนไปจนจบ ม.6 ได้สำเร็จ แล้วเราก็มาคิดต่อว่าเราหยุดเรียนไม่ได้ มันต้องดีกว่านี้มันต้องมีวุฒิมากกว่านี้ เราเลยตัดสินใจไปสมัครเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอยุธยา ในการเรียนต่อครั้งนี้เราสมัครเรียนในสาขาคอมพิวเตอร์ สาเหตุที่เราสมัครเรียนในสาขานี้ก็เพราะเวลานั้นคนจบสาขาคอมพิวเตอร์เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน
ถ้าเราจบสาขาคอมพิวเตอร์มาเราคงหางานไม่ยากและที่สำคัญรายได้ของคนที่จบในสาขาคอมพิวเตอร์เงินเดือนค่อนข้างสูง ถ้าเราเรียนจบออกไปสมัครงานใหม่ที่เกี่ยวกับสาขาที่เราเรียนมาคงจะทำให้เราสามารถเลี้ยงดูลูกให้ได้ดีและไม่ลำบาก แต่การเรียนที่มหาลัยนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เราต้องไปเรียนในตอนกลางคืนเพราะเราลงเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ไม่ได้อีกแล้วทางบริษัทไม่ยอมให้เราหยุดเลยต้องยอมมาลงเรียนภาคค่ำแทน
ขอบคุณภาพ : https://th.pikbest.com/png-images/drawing-cartoon-college-entrance-examination-doctoral-student-illustration_1277379.html
หลังเลิกงาน 17.00 น. เราต้องรีบอาบน้ำและรีบขับมอเตอร์ไซต์ไปเรียนให้ทันเวลาในเวลา 18.00 น.เทอมแรกของการเรียนเราไม่รู้อะไรเลยที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลย เปิดเครื่องยังไม่เป็นด้วยซ้ำเพราะเราไม่เคยใช้คอมฯเลย ส่วนวิชาอื่น ๆ ก็ยากสำหรับเรา โดยเฉพาะวิชาสถิติ และวิชาภาษาของคอมฯเช่น Pascal นี่เอ๋อไปเลย มันทำให้เราต้องพยายามมากและต้องไม่ท้อเพื่ออนาคตลูกของเรา
เราตั้งใจมากในการเรียนหากไม่รู้หรือไม่เข้าใจเราคอยถามน้อง ๆ แต่กว่าเราจะเข้าใจได้ต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่น แต่มันก็ผ่านไปได้อย่างกะท่อนกะแท่นในแต่ละเทอม ยิ่งช่วงทำโปรเจ็คส่งอาจารย์เราต้องใช้สมาธิกับการทำงานมากกว่าคนอื่นเพราะพื้นฐานเรายังสู้น้องๆไม่ได้เราต้องขยันและพยายามอย่างมาก ตอนนั้นเราทำโปรเจ็คเกี่ยวกับฐานข้อมูลในการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่สัมพันธ์กับการทำงานของโรงงานที่เราทำงาน
เราขอฝึกงานกับบริษัทที่เราทำงานอยู่ซึ่งทางบริษัทก็อนุญาตให้เราฝึกงาน ส่วนลูกกับนุชเราบอกเลยว่าอย่าเพิ่งกวนนะกำลังทำโปรเจ็คอยู่ ในที่สุดเราทำมันจนเสร็จและผ่านมาได้ เราเอาโปรเจ็คที่เราทำส่งอาจารย์นั้นมาประยุกใช้ในที่ทำงานและเราค่อยๆปรับปรุงโปรแกรมของเราไปเรื่อยๆจนเป็นโปรแกรมบำรุงรักษาเครื่องจักรที่ใช้ในบริษัทแห่งนั้นเป็นเวลานานพอสมควร จนในที่สุดเราจบและได้วุฒิอนุปริญญามาใช้เวลาปี 2 กว่าๆเราคิดที่จะลาออกจากบริษัทเพื่อตามหาสิ่งที่ดีกว่าเพื่ออนาคต...
จบ EP.9...
2
EP.10 การที่ตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ทำงานมา 11 ปีเงินเดือนแค่ 7,000 บาท เป็นการตัดสินใจที่คิดว่าดีที่สุดในขณะนั้น ใช่...มันดีแต่ก็ต้องแลกมากับการฟาดฟันกับคนมากมายหลายรูปแบบ
ชอบ = ไลน์
ใช่ = แชร์
เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน....ขอบคุณครับ
อ่านย้อนหลังได้ที่ :
https://www.blockdit.com/pages/64d243c6befcd15a8291d5fc
ขอบคุณภาพปก :
https://th.pikbest.com/templates/creative-poster-design-for-the-25th-anniversary-of-hong-kong%27s-return-to-motherland_6407974.html
เรื่องเล่า
บันทึก
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย