12 ต.ค. 2023 เวลา 02:21 • หนังสือ

#1 สนามม้านางเลิ้ง

ท่ามกลางความร้อนของแสงแดดยามเช้าที่เริ่มเพิ่มขึ้นในตอนสายๆ ของวัน
แม้จะมีลมอ่อนๆ พัดมาช่วยลดความร้อนลงไปได้บ้าง แต่ในใจทุกคนต่างตื่นเต้น รอเวลาสำคัญ
เสียงสัญญานการออกวิ่งดังได้ยินทั่วสนาม พร้อมๆ กับเสียงกองเชียร์บนอัฒจันทน์ที่เริ่มส่งเสียงให้กำลังใจ
สิ่งที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าในสนามแห่งนี้ ในวันนี้ ไม่เหมือนที่เคยเป็น
สนามม้านางเลิ้ง เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไป ถ้าจะเรียกชื่อทางการต้องเรียก สนามราชตฤนมัยสมาคม โดยปกติเป็นสนามแข่งม้าในวันหยุด
แต่ในนี้ ทางวิ่งในสนามม้านางเลิ้งที่เคยเป็นทางวิ่งของม้า ได้กลายเป็นทางวิ่งตามล่าหาฝันสำหรับคน ๑,๕๐๐ กว่าคน ที่จะก้าวไปตามรอยเท้าราชสีห์
ปลายปี ๒๕๓๐
กลางปี พ.ศ.๒๕๓๐ กรมการปกครองได้เปิดสอบ “ปลัดอำเภอ” หลังจากที่เปิดสอบไปครั้งล่าสุดในปี พ.ศ.๒๕๒๗ แต่ในการสอบครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่เคยผ่านมา
การสอบในปี ๒๕๓๐ นอกจากให้มีการสอบปลัดอำเภอแล้ว ยังเปิดให้มีการสอบตำแหน่ง “ผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอ” ไปด้วยในคราวเดียวกันเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เข้าสอบมาทำงานในกรมการปกครองได้ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอ
เพราะในเวลานั้นตำแหน่งปลัดอำเภอซึ่งถูกกำหนดมาตั้งแต่อดีตยังคงให้ผู้ชายเท่านั้นที่เป็นได้ ก่อนที่อีกหลายปีต่อมาจะถูกแก้ไขให้ผู้หญิงก็เป็นปลัดอำเภอได้
การสอบปลัดอำเภอที่ผ่านๆมา ผู้เข้าสอบก็จะสอบภาค ก. หรือที่เรียกกันว่า สอบ ก.พ. สอบภาคความรู้เฉพาะตำแหน่งของปลัดอำเภอ และท้ายสุดคือการสอบสัมภาษณ์
ประวัติศาสตร์การสอบปลัดอำเภอ ได้ถูกบันทึกไว้ในการสอบในปี ๒๕๓๐ เพราะเป็นครั้งแรกที่ กรมการปกครองได้เริ่มต้นให้มีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้เข้าสอบ โดยให้มีการทดสอบการวิ่ง
สนามม้านางเลิ้ง
วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๓๑
เหล่าผู้ที่มีความฝันอยากเป็นปลัดอำเภอ และฝันต่อไปอยากเป็นนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ผ่านการสอบข้อเขียนมาแล้วต่างมาพร้อมหน้ากันตามเวลาที่ถูกกำหนด
หลายคนดูจะมีความพร้อม มีความมั่นใจอยู่ในใบหน้า ในขณะที่อีกหลายๆ คนดูจะวิตกกังวล บนอัฒจันทน์ที่เคยเป็นที่นั่งของผู้ชมดูการแข่งม้าในวันหยุด แต่ในวันนี้ปรับเป็นที่นั่งของคนในครอบครัวและคนที่รักที่ตั้งใจมาส่งกำลังใจไปให้คนที่ต้องลงวิ่งในทางวิ่งด้านล่าง
การวิ่งในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการวิ่งแข่งกับใคร แต่เป็นการวิ่งแข่งกับตัวเอง
การวิ่งในครั้งนี้ ไม่มีผู้แพ้หรือผู้ชนะ มีแต่ผู้ผ่านหรือไม่ผ่าน
การวิ่งในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการผู้ที่วิ่งเร็วที่สุด แต่ต้องการเพียงผู้ที่วิ่งผ่านตามกำหนดเวลา
การวิ่งในครั้งนี้ จะวิ่งช้าหรือวิ่งเร็วก็ไม่สำคัญ ขอเพียงให้ถึงเส้นชัยภายในเวลาที่กำหนด
การวิ่งในครั้งนี้ จะวิ่งบ้างเดินบ้างก็ไม่มีข้อห้าม
การวิ่งในครั้งนี้ มีเพียงกฎกติกาเดียวคือ ทุกคนจะต้องวิ่งให้ได้ ๒ กิโลเมตร ภายในเวลา ๑๑ นาที
เมื่อกรรมการเรียกผู้เข้าทดสอบในแต่ละรอบเข้าประจำที่
เมื่อเสียงสัญญาณให้เริ่มวิ่ง ผู้เข้าทดสอบเริ่มออกวิ่งไปตามลู่วิ่งของม้า
ทุกย่างก้าวที่วิ่งไปข้างหน้า สายตาต้องคอยชำเลืองมองดูพื้นไปด้วย เนื่องจากพื้นสนามหญ้าที่วิ่งไม่ได้ราบเรียบเหมือนลู่วิ่งกรีฑา บางจุดจะมีหลุมเล็กหลุมน้อยอยู่
เมื่อวิ่งไปได้สักระยะ ความเร็วในการวิ่งของแต่ละคนก็เริ่มลดลง ในขณะที่ความเหนื่อยเริ่มเพิ่มมากขึ้น เสียงลมหายใจของตัวเองและเพื่อนร่วมเส้นทางเริ่มแรงและถี่ขึ้น อยากจะให้จุดหมายอยู่ตรงหน้าใกล้ๆ
บางคนวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง บางคนเริ่มวิ่งช้าลง และบางคนเริ่มเดินสลับวิ่ง
ทุกก้าวที่วิ่งไป คือ ก้าวย่างเพื่อตามล่าฝัน ที่ไม่มีใครสักคนจะรู้ว่าในวันข้างหน้าจะเป็นความจริงหรือไม่
แต่ละคนต่างพยายาม อดทน กัดฟันวิ่งต่อไปข้างหน้า เพื่อไปให้ถึงเส้นชัยหน้าอัฒจันทน์ และเมื่อมาถึง “โค้งวัดเบญ” ซึ่งคนในยุคสมัยนั้นรู้กันดีว่า เวลาที่ม้าวิ่งแข่ง ตรงนี้จะเป็นทางโค้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้าทางตรง
พลังใจในการวิ่งกลับเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนได้ชาร์จแบตเตอรี่สำรอง เอาชนะความเหนื่อยล้า
หลายๆ คนข้างหน้าเริ่มวิ่งเข้าเส้นชัยแล้ว ในขณะที่มองไปข้างหลังยังมีคนวิ่งตามกันมาอีกพอสมควร
และในที่สุดความพยายามในการฝึกซ้อมวิ่งมาก่อน ก็ทำให้สามารถวิ่งมาถึงเส้นชัยได้ภายในเวลาที่กำหนด
ถ้านำภาพความทรงจำในวันนั้น มาใส่บทเพลงจากภาพยนตร์เรื่อง Chariots of Fire ประกอบลงไป บรรยากาศและความรู้สึกในการวิ่งในวันนั้นคงไม่แตกต่างกันกับนักวิ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้
ผู้ที่ผ่านการวิ่งที่สนามม้านางเลิ้งในวันนั้น อาจจะไม่ได้เป็นปลัดอำเภอทุกคน
แต่ก็คงไม่มีใครรู้ล่วงหน้าในอนาคตว่าในสนามม้านางเลิ้งในวันนั้นจะมีทั้ง รัฐมนตรี สมาขิกสภาผู้แทนราษฎร ปลัดกระทรวง ๓ กระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิการบดี ผู้พิพากษา อัยการ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ได้ลงไปวิ่งร่วมกันมา
คำที่กล่าวถึงปลัดอำเภอที่สอบในครั้งนี้ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป คือ “ปลัดอำเภอรุ่นสนามม้า”
เล่าเรื่องโดย นาย Bt
สิงหาคม ๒๕๖๕
หมายเหตุผู้เขียน
Chariots of Fire ภาพยนตร์จากอังกฤษ ในชื่อไทย เกียรติยศแห่งชัยชนะ ออกฉายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ (1981) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของนักกรีฑาชาวอังกฤษ ๒ คน ที่ลงแข่งขันวิ่งในกีฬาโอลิมปิคปี 1924 ในกรุงปารีส ที่ชื่อ ฮาโรลด์ อับราฮัมส์ และ เอริค ลิดเดล ซึ่งทั้งคู่สามารถคว้าเหรียญทองให้แก่สหราชอาณาจักรได้
ในเรื่อง ฮาโรลด์ อับราฮัมส์มีเชื้อสายยิว ทำให้รู้สึกเป็นคนนอก ถูกคนรอบข้างเฝ้ามองด้วยสายตาดูหมิ่นอยู่ตลอดเวลา เป้าหมายสูงสุดคือการได้เหรียญทองโอลิมปิก ซึ่งเป็นมากยิ่งกว่าการแข่งขันกีฬาตามปกติ ส่วนเอริค ลิดเดล เป็นชาวสก็อตแลนด์ เกิดในครอบครัวหมอสอนศาสนา มีจุดมุ่งหมายในชีวิตว่าจะอุทิศตนทุ่มเทเพื่อรับใช้พระเจ้า
แต่เขามีความสามารถพิเศษในการวิ่ง จุดหมายสูงสุดของเขา ไม่ได้วิ่งเพื่อเหรียญทองหรือชัยชนะใด ๆ แต่เป็นการวิ่งเพื่อนำเกียรติยศมาสู่พระเจ้าที่เขาศรัทธา ภาพยนตร์เล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างตัวเอกทั้ง ๒ คน โดยสะท้อนแง่มุมว่าด้วยการฝึกฝนอยางหนักเพื่อขัดเกลาเอาชนะใจตนเอง ความเป็นสุภาพบุรุษนักกีฬา และไคลแมกซ์ของเรื่องคือการพิชิตเหรียญทองในโอลิมปิก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี พ.ศ.๒๕๒๕ (1982) และเพลงประกอบภาพยนตร์มีความไพเราะกลมกลืนเข้ากับเนื้อเรื่องเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในตอนที่ทีมนักวิ่งกำลังซ้อมวิ่งไปตามชายหาด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา