Bac Ha Market และ พระราชวัง Hoang A Toung ประเทศเวียดนาม
Bac Ha Market และ Hoang A Tuong Palace .. ประเทศเวียดนาม
บั๊กฮา .. ตั้งอยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 70 ในหุบเขาห่างจากเมืองซาปาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 45 กิโลเมตร บั๊กฮามีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,200 เมตร ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าไม่สวยงามเท่าซาปาที่ความสูง 1,600 เมตร ... แต่ทัศนียภาพแบบพาโนรามากลับมีความงดงามที่ยากจะต้านทานจากยอดเขาโค้งมนที่ปกคลุมไปด้วยหมอกบางๆ สถานที่แห่งนี้จึงยังให้ความรู้สึกของเมืองชนบททั่วไปอีกด้วย
บัคฮา .. เมืองเล็กๆท่ามกลางขุนเขา ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของชนเผ่ากลุ่มน้อย ที่ยังคงมีวิถีชีวิตดั้งเดิมที่เรียบง่าย โด่งดังในเรื่องของผ้าทอ การแต่งกายที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมของตนไว้ และได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งดอกไม้หลากสี (ซึ่งมาจากสีของชุดเครื่องแต่งกายนั่นเอง)
ตลาดนัดวันอาทิตย์บัคฮา โดดเด่นเป็นใหญ่ คึกคัก และมีชีวิตชีวาที่สุด ตั้งแต่วันอาทิตย์เช้าจนถึง 14.00 น. .. ชุมชน Tay, Dzao, Nung, Giay และ Hoa-Hmong จะมารวมตัวกันทุกวันอาทิตย์ ต่างแต่งกายด้วยชุดที่ประณีต ซึ่งเหมาะที่สุดในวันหยุดของสัปดาห์ พวกเขาเดินทางด้วยการเดินเท้า สกู๊ตเตอร์ ม้า หรือควาย เพื่อพบปะ กิน ดื่ม สูบบุหรี่ ตัดผม และตุนอาหารและเนื้อสัตว์ ฯลฯ
ชาวบ้านจำนวนมากจากชาวเขาโดยรอบเดินไปที่ตลาดเพื่อซื้อและแลกเปลี่ยนอาหาร สัตว์ เสื้อผ้า และของใช้ในครัวเรือน .. ที่นี่จึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ซื้อขายเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดพบปะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม พบปะสังสรรค์ และสร้างเครือข่ายกับสมาชิกคนอื่นๆ ในชุมชนอีกด้วย
ชาวเขาเดินทางมารวมตัวกันที่นี่เพื่อค้าขายผลิตภัณฑ์ของตนเอง .. ตั้งแต่ทุกอย่างที่ทำจากกระโปรงปักมือไปจนถึง สัตว์ 4 ขาทุกชนิด ซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่น มานานกว่าศตวรรษ .. นั่นเป็นสาเหตุที่ตลาดมักมีผู้คนพลุกพล่านและคึกคักมาก รวมถึงเป็นการค้าของท้องถิ่นที่มีสีสัน และเป็นจุดเด่นของการไปเยือนเวียดนามตอนเหนือ
ตลาดแห่งนี้ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีสีสันที่สุดในย่านนี้ โดยจะแบ่งออกเป็นโซนเล็กๆ แต่ละโซนมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยสินค้าการค้า ที่นี่นักท่องเที่ยวมักจะหลงทางในหลายพื้นที่ ได้แก่ ตลาดผ้า ตลาดอาหาร ตลาดม้า ตลาดสัตว์ปีก ตลาดนก…
.. เมื่อคุณมีโอกาสได้มาที่นี่ คุณจะเห็นผู้คนและม้าหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดตลอดเส้นทางและถนนบนภูเขา การนั่งเป็นกลุ่ม กินกระทะร้อน (ทังโก) และพูดคุยกัน ล้วนเป็นสิ่งที่คนท้องถิ่นมักทำเมื่อมาถึงบัคฮา
สำหรับนักท่องเที่ยว เสน่ห์ของตลาดบัคฮาจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย .. นักท่องเที่ยวแห่กันไปที่ตลาดบัคฮาเพื่อชมเสื้อผ้าอันงดงามและซื้อของที่ระลึก รวมถึงเป็นโอกาสที่จะได้เห็นวัฒนธรรมและการพาณิชย์บนที่ราบสูงทางตอนเหนือของเวียดนามอย่างใกล้ชิด
**น่าเสียดายที่คณะของเราเดินทางมาถึง บัคฮา หลังเวลา 14 น. ซึ่งตลาดวายไปแล้ว มีแม่ค้าจำนวนน้อยที่ยังคงนั่งขายผลไม้ ข้าวเม่า และสินค้าอื่นๆ
อาหารกลางวัน ก่อนจะเดินเที่ยวต่อค่ะ
Hoang A Tuong Palace ..
เมื่อมาถึงบัคฮา นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ถูกดึงดูดด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบาย ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเนื่องจากมีอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากมายอีกด้วย ที่โดดเด่นที่สุดคือคฤหาสน์ Hoang A Tuong
Hoang A Tuong Palace .. เป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และได้รับการยอมรับจากรัฐว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
ในปี 1999 ในปี 2550 วิลล่าได้รับการบูรณะและปรับปรุงใหม่ ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคบัคฮาโดยเฉพาะและจังหวัดเล่ากายโดยทั่วไป
คฤหาสน์ Hoang A Tuong จากด้านใน
คฤหาสน์ Hoang A Tuong เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของที่ราบสูงสีขาว เจ้าของเดิมคือนาย Hoang Yen Tchao และลูกชายของเขา Hoang A Tuong .. พ่อและลูกชายของเขา คือชาวเตย์และคณะของภูมิภาคบัคฮาในสมัยฝรั่งเศส คนในพื้นที่เคยเรียกเขาว่าราชาแห่งแม้ว
ที่ผ่านมาคนภาคนี้มากกว่า 70% เป็นคนม้ง นาย Hoang Yen Tchao ปกครองดินแดน Bac Ha มาตั้งแต่ประมาณปี 1905 และผูกขาดการขายเกลือและฝิ่นซึ่งเป็นเสบียงสำหรับคนในท้องถิ่น .. คฤหาสน์แห่งนี้ถูกสร้างด้วยด้วยทรัพยากรและเงินจากการค้าสิ่งเหล่านี้
เรื่องเล่าที่เป็นตำนานพื้นบ้านกล่าวว่า .. คฤหาสน์นี้เริ่มต้นในปี 1914 และแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 1921 ในการสร้างคฤหาสน์ของบิดาของเขา Hoang Yen Tchao ได้ขอให้ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยหาสถานที่ที่เหมาะสม และจ้างสถาปนิกชาวฝรั่งเศส 2 คน และคนจีนในการออกแบบ คฤหาสน์แห่งนี้จึงมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมยุโรปและเอเชียอย่างกลมกลืน
นอกจากนี้เขายังจ้างเฮลิคอปเตอร์เพื่อขนส่งเหล็กและซีเมนต์จากฮานอยอีกด้วย อิฐและกระเบื้องอบโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญในท้องถิ่น มีการคัดเลือกคนงาน ณ จุดก่อสร้าง และที่อื่นๆ อีกหลายแห่ที่งมีแรงงานที่มีทักษะในพื้นที่ลุ่ม
คฤหาสน์หลังนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นทั้งที่พักอาศัยและสถานที่ทำงาน ตลอดจนป้อมปราการ .. พื้นที่ที่อยู่อาศัยทั้งหมดในขณะนั้นคือ 10,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงดินหนา 80 ซม. และสูง 2.8 ม. ทหารสามารถลาดตระเวนได้
คฤหาสน์หลังเก่ามีประตู 3 ประตู รวมทั้งประตูหลัก 1 ประตู และประตูเสริม 2 ประตู เพื่อปกป้องคฤหาสน์ .. วิลล่ามีทั้งหมด 36 ห้อง อาคารหลักมีไว้เพื่อให้เจ้าของอยู่และทำงาน อาคารหลังเล็กสองหลังที่เล็กกว่าสำหรับทหารและคนรับใช้ นอกจากนี้ พระราชวังยังมีส่วนเสริม ได้แก่ คอกม้า โกดังอาหาร ... ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป กองทัพเข้าสู่บัคฮาในปี พ.ศ. 2493 ตระกูลฮว่างออกจากที่นี่ก่อนการปลดปล่อยบัคฮา .
ตั้งแต่นั้นมา เป็นเวลานานแล้วที่ความเปลี่ยนแปลงทางด้านประวัติศาสตร์ รวมถึงในบัคฮา .. คฤหาสน์นี้แคบลงเหลือเพียง 4,000 ตร.ม. แต่ยังคงรักษารูปลักษณ์ที่ลึกล้ำของวิลล่าโบราณที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมซึ่งเปี่ยมภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ ... ด้วยเหตุนี้ ที่นี่จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศนับพันให้มาเยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับคฤหาสน์แห่งนี้
คฤหาสน์ Hoang A Tuong ในที่ราบสูงสีขาวบัคฮา
อาคารหรูหราแห่งนี้สะท้อนถึงยุคทองของพ่อและลูกชาย ฮว่าง เยน เจียว และฮว่าง อา ตือง ยังสะท้อนถึงชีวิตที่ยากลำบากและเจ็บปวดของผู้คนที่ชายแดนห่างไกลในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20
ขนาดมหึมา ลักษณะทางสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ (ผสมผสานสไตล์ตะวันออกและตะวันตก) พร้อมด้วยเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับเจ้าของบ้าน ร่องรอยชีวิตมนุษย์บนพื้นที่ภูเขาบั๊กฮา (เล่ากาย) ในสมัยกึ่งศักดินาอาณานิคม โบราณสถาน พระราชวัง Hoang A Tuong กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดบนที่ราบสูงสีขาว
คฤหาสน์ที่หรูหราที่สุดในยุคนั้น
คฤหาสน์ Hoang A Tuong มีอายุมากกว่าหนึ่งศตวรรษดูเก่าแก่ สีของกาลเวลาถูกแต้มสีบนกระเบื้อง ทางเดิน เสาหลัก และผนังเก่าที่มีตะไคร่น้ำ ...
คฤหาสน์หลังนี้ นี้สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2457-2464 ที่นี่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำงานของ Hoang Yen Tchao และ Hoang A Tuong (กลุ่มชาติพันธุ์เตย์)
“ชาวไตมีธรรมเนียมในการตั้งชื่อบ้านตามชื่อลูกชายที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นโครงการนี้จึงเรียกว่าคฤหาสน์ Hoang A Tuong”
กระบวนการเตรียมการและการก่อสร้างโครงการนี้เกิดขึ้นอย่างพิถีพิถัน มีทำเลที่ตั้งดีเยี่ยมและสถาปัตยกรรมยังทำให้ผู้มาเยือนประหลาดใจอีกด้วย
“เป็นการผสมผสานที่ละเอียดอ่อนระหว่างรูปแบบสถาปัตยกรรมเอเชียและยุโรป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแทรกแซงทางวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตกอย่างชัดเจน งานนี้ได้รับการออกแบบและดูแลโดยสถาปนิกสองคนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ฝรั่งเศสและจีน”
เสาและระบบหลังคาปกคลุมไปด้วยลวดลายเถาวัลย์ ใบไม้ และลอเรล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความสุข ระบบประตูโค้งและบันไดรูปโค้งสร้างความประทับใจให้กับนวัตกรรมและความผิวเผินของโครงการ
วิลล่ามีรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าต่อเนื่องกัน มีทั้งหมด 36 ห้อง ด้านหลังมีระบบอุโมงค์หนีภัย
บ้านแห่งอำนาจ
“วัสดุ เช่น อิฐและกระเบื้องผลิตโดยช่างฝีมือที่เก่งที่สุดในภูมิภาคและจากจีนทันที นอกจากนี้ ยังมีการขนส่งเหล็ก เหล็ก และซีเมนต์จากที่ราบอีกด้วย
ดังนั้นความหรูหราของตัวอาคารจึงสะท้อนถึงยุคทองของพ่อและลูกชายของฮว่าง เยน เฉา และฮว่างอาเตือง นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงชีวิตที่ยากลำบาก เจ็บปวด และกดดันของผู้คนจำนวนมากในพื้นที่ชายแดน” ใครบางคนกล่าว
พระราชวังโบราณฮว่างอาเตืองเป็น "พยาน" ในประวัติศาสตร์ โดยรำลึกถึงชีวิตของผู้คนในที่ราบสูงสีขาวบัคฮาในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2542 กระทรวงวัฒนธรรมและสารสนเทศ (ปัจจุบันคือกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว) ได้ยกย่องพระราชวังโบราณฮว่างอาเตืองให้เป็นโบราณสถานของชาติ
ปัจจุบัน พระราชวังโบราณ Hoang A Tuong เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย กิจกรรมทางวัฒนธรรมและศิลปะมากมาย เช่น นิทรรศการภาพถ่าย และการแข่งขันทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่คฤหาสน์
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
