"ผู้รับประโยชน์ไม่มีสิทธิในเงินครบสัญญาที่ฝากต่อกับบริษัทประกันชีวิตแต่ผู้มีสิทธิคือทายาทตามกฎหมาย"
หลายคนคงทราบว่าเงินจากการเสียชีวิตของผู้เอาประกันไม่ใช่กองมรดกตามความหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่เป็นเงินที่ส่งมอบให้ผู้รับประโยชน์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ของผู้เอาประกันซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก (หมายความว่าคู่สัญญาคือบริษัทประกันและผู้เอาประกัน แต่เงินเอาประกันส่งมอบต่อบุคคลที่ไม่ใช่คู่สัญญา)
ดังนั้นเงินเอาประกันชีวิตจึงส่งมอบให้ผู้รับประโยชน์ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางศาลที่ต้องตั้งผู้จัดการมรดกซึ่งอาจใช้เวลา ๒-๓ เดือนกว่าจะเบิกเงินจากธนาคารได้ เป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับครอบครัวเมื่อหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต
นอกจากนี้ผู้รับประโยชน์จะเป็นใครก็ได้ที่ผู้เอาประกันระบุไว้ไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทโดยธรรมตามกฎหมาย เช่นผู้เอาประกันมีบุตรก็สามารถยกเงินเอาประกันให้พี่น้องได้ในขณะที่หากเป็นทายาทโดยธรรมเมื่อเจ้ามรดกมีบุตร มรดกจะตกถึงแก่บุตรโดยไม่ตกไปถึงชั้นพี่น้อง เงินเอาประกันชีวิตยังไม่ต้องเสียภาษีมรดกด้วยแม้ว่าทุนประกันจะเกิน ๑๐๐ ล้านบาทก็ตาม
อย่างไรก็ตามในช่วง ๕-๖ ปีที่ผ่านมา ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์รุ่นเก่าทยอยครบสัญญา ทำให้เงินครบสัญญาได้สิทธิ์ฝากต่อกับบริษัทประกันเพื่อรับดอกเบี้ย ๖% โดยไม่เสียภาษี ทำให้มีผู้เอาประกันจำนวนมากใช้สิทธิ์นี้ ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่ใช่เงินเอาประกันชีวิตอีกต่อไปไม่ได้อยู่ในกฎหมายว่าด้วยเรื่องประกันชีวิตแต่เป็นกองมรดก
ดังนั้นหากผู้เอาประกันซึ่งเป็นผู้ฝากเงินเสียชีวิตในเวลาต่อมา เงินครบสัญญาที่ฝากต่อนี้จะตกแก่กองมรดกของผู้เอาประกัน ไม่ใช่ของผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์เดิม หมายความว่าหากผู้เอาประกันมีบุตร เงินครบสัญญาที่ฝากนี้จะตกเป็นของบุตรไม่ไปถึงชั้นพี่น้องแม้ว่าเดิมพี่น้องจะเป็นผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ก็ตาม แต่เนื่องจากเงินครบสัญญานี้เป็นกองมรดก หากผู้เอาประกันต้องการให้พี่น้องได้รับเงินจำนวนนี้ก็สามารถทำพินัยกรรมระบุชื่อให้ชัดเจนว่าให้พี่น้องคนใดเป็นจำนวนเงินเท่าใดก็มีผลตามกฎหมายเช่นกัน
ดังนั้นผู้เอาประกันที่เป็นผู้ฝากเงินควรทำบันทึกทรัพย์สินโดยระบุรายการเงินครบสัญญาที่ฝากต่อกับบริษัทประกันชีวิตเอาไว้ด้วย และควรปรับปรุงบัญชีธนาคารที่จะให้บริษัทโอนดอกเบี้ยเข้าให้ทันสมัยอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามบริษัทจะตรวจสอบการมีชีวิตอยู่ของเจ้าของเงินฝากที่เป็นเงินครบสัญญานี้อยู่เป็นระยะ ๆ หากพบว่าเสียชีวิตก็จะติดต่อไปยังทายาทโดยทายาทจะต้องนำคำสั่งศาลในการจัดตั้งผู้จัดการมรดกมายื่นกับบริษัทเพื่อบริษัทจะได้ทำการจ่ายเงินคงเหลือสุทธิที่คงไว้กับบริษัท (ถ้ามี) รวมทั้งดอกเบี้ยคำนวณถึงวันที่เสียชีวิตให้กับผู้จัดการมรดกต่อไป หากไม่มีการติดต่อรับเงินเกิน ๑๐ ปีจากวันที่เจ้าของเงินฝากเสียชีวิต บริษัทจะนำเงินดังกล่าวส่งมอบต่อกองทุนประกันชีวิตต่อไป
#FinanceAndLaw
#ทนายน้อยหน่า
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๖
ภาพ: เมื่อวันก่อนที่ออฟฟิศเอไอเอ นำเอกสารปรับปรุงบัญชีธนาคารของผู้เอาประกันที่ฝากเงินครบสัญญามาส่งเข้าบริษัท
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
