16 ต.ค. 2023 เวลา 02:48 • ท่องเที่ยว

Lang Hmong Pavin & Bamboo Forest

Lang Hmong Pavi
ภาพของเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ของชาวม้งที่อยู่บนประตูทางเข้า ดึงดูดเราให้เข้าไปใกล้ .. แล้วเราก็เราแวะพักผ่อน คลายความตึงของกล้ามเนื้อแขนขาที่ Lang Hmong Pavi
ชอบการออกแบบทางเข้า ที่มอบไปเห็นภูเขาเป็นฉากหลังที่งดงาม
ทางเดินเข้าสู่พื้นที่ด้านใน ก็สวยงาม
หัวหน้าเผ่าของเรา ชอบต้นไผ่มาก
ที่นี่เป็นโฮมสเตย์ของชาวม้ง .. มีร้านกาแฟบริการ
ทิวทัศน์สวยดีค่ะ
Bamboo Forest
ในช่วงเวลาที่เราเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เวียดนามตอนเหนือ พืชอย่างหนึ่งที่เราเจอว่ามีการปลูกครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก คือ ต้นไผ่ .. และจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนาม กล่าวว่า พื้นที่ปลูกไผ่ทั้งหมดทั่วประเทศเวียดนามสูงถึงเกือบ 1.6 ล้านเฮกตาร์ ผลผลิตรวมประมาณ 2.5 - 3 ล้านตัน .. เยอะมากๆ !!
ทำไมไม้ไผ่จึงป๊อปปูล่าขนาดนั้น?
ด้วยแนวโน้มที่ผู้คนตื่นตัวและตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการบริโภคอย่างยั่งยืน .. ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาด
ไม้ไผ่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไม้ไผ่มีการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตเร็วที่สุดในบรรดาต้นไม้ทั้งหมด โดยในเวลาเพียง 3 เดือน ไม้ไผ่สามารถสูงได้ถึง 15-20 เมตร จะเติบโตเต็มที่ในแกนกลางและมีอายุมากพอที่จะใช้เป็นวัตถุดิบได้ .. อย่างไรก็ตาม ต้นไผ่ตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวจะใช้เวลา 6-7 ปี และกว่าต้นไผ่จะโตเป็นพุ่มใหญ่พอที่จะใช้ประโยชน์ได้ปีละ 30% ต้องใช้เวลา 9-10 ปี
ไม้ไผ่สามารถงอกใหม่ได้โดยไม่ต้องปลูกใหม่หลังการเก็บเกี่ยว และไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลหรือใช้ยาฆ่าแมลงมากนักในการเจริญเติบโต
ไม้ไผ่ ยังเป็นพืชที่มีชื่อเสียงในด้านความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่มากขึ้น โดยเฉพาะ 1.5-2 เท่า และปล่อยออกซิเจนได้มากกว่าต้นไม้ชนิดอื่นถึง 35%
ไม้ไผ่ที่ปลูกในเวียดนามมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในโลกเนื่องจากสามารถเติบโตได้ในดินทุกประเภทในดินแดนนี้ นั่นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไผ่เวียดนามสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้นและผลิตออกซิเจนได้มากขึ้น
.. ทุกปีเวียดนามตัดไม้ได้ 500 - 600 ล้านต้น ส่งผลให้มี มูลค่าการส่งออกไม้ไผ่อยู่ที่ 300-400 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และ 25% ของผลผลิตส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ตลาดในสหภาพยุโรป เกาหลีและญี่ปุ่นยังเป็นผู้นำเข้าไม้ไผ่รายใหญ่ของเวียดนามอีกด้วย
.. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมูลค่าการส่งออกนั้น การส่งออกไม้ไผ่ถึง 65% เป็นวัตถุดิบที่ยังไม่ได้แปรรูป และยังมีการขาดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง
ไม้ไผ่เป็นวัสดุสร้างใหม่แห่งอนาคต .. ความต้องการในตลาดโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ
ตลาดไม้ไผ่โลกกำลังเติบโต .. ตลาดไม้ไผ่ทั่วโลกมีมูลค่า 57.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และคาดว่าจะสูงถึง 82.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571
เวียดนาม จึงถือเป็นโอกาสทองที่จะส่งเสริมให้มีการปลูกไม้ไผ่อย่างกว้างขวาง!!
ในวงจรชีวิตการเจริญเติบโตเดียว ไม้ไผ่ยังสามารถกลายเป็นวัตถุดิบสำหรับสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่สิ่งของทั่วไป เช่น สมุดบันทึก ขวดน้ำ เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายนอก ไปจนถึงส่วนผสมทางชีวภาพ เชื้อเพลิงชีวภาพ เครื่องสำอาง ยารักษาโรค รวมถึงอาหาร เช่น หน่อไม้ เบียร์ และไวน์
ในช่วงหลายปีที่ผ่าน บริษัทเอกชนของเวียดนาม คือ Sunstar Investment Joint Stock Company (SStar JSC) ได้ดำเนินการส่งเสริมการปลูกต้นไผ่ในเวียดนามภายใต้ “โครงการไม้ไผ่สองพันล้าน”
แผนการปลูกต้นไผ่ 2 พันล้านต้น จะครอบคลุมพื้นที่รวมสูงสุด 500,000 เฮกตาร์ พื้นที่เพาะปลูกจะกระจายจากจังหวัดที่มีภูเขาทางภาคเหนือไปจนถึงภาคกลางทั้งหมด จังหวัดเหล่านี้ถือว่ามีสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกไผ่
ช่วยชาวนาสร้างรายได้จากไม้ไผ่
การปลูกต้นไผ่ไม่เพียงแต่ช่วยให้เกษตรกรขจัดความหิวโหยและลดความยากจนเท่านั้น แต่ยังทำให้บ้านเกิดของพวกเขาดีขึ้น รวมถึงพื้นที่ที่ยากจนที่สุดและยากลำบากที่สุดของเวียดนามอีกด้วย
“เราให้การสนับสนุนครอบครัวที่กำลังร่วมมือกับโรงงานแปรรูปไม้ไผ่ใน Thanh Hoa ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำรายได้น้อยกว่า 100,000 ดองต่อวัน ตอนนี้ผู้คนที่นี่สามารถมีรายได้ 500,000 ดองเวียดนาม - 1 ล้านต่อวัน" ผู้บริหารของบริษัทกล่าว
ปัจจุบันบริษัทสามารถใช้ไม้ไผ่ได้ 2,000 ตันต่อวันเพื่อคนในท้องถิ่น ด้วยกำลังการบริโภคที่สูงเช่นนี้ SStar JSC จึงให้คำมั่นสัญญาว่า ไม่ว่าผู้คนจะปลูกไผ่ที่ใด บริษัทก็จะตั้งโรงงานที่นั่นเพื่อซื้อและรับประกันไม้ไผ่ 100% ให้กับพวกเขา
โครงการดีๆในเวียดนาม .. ประเทศไทยเคยมี Feasibility Study เกี่ยวกับการปลูกต้นไผ่ในบ้านเราบ้างมั๊ยนะ? หรือศึกษาแล้ว Not Feasible!!
โฆษณา