Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
21 ต.ค. 2023 เวลา 14:35 • ธุรกิจ
สมัยก่อนใครๆ ก็อยากเป็น Bill Gates
แต่สมัยนี้เด็กรุ่นใหม่ใครๆ ก็อยากเป็น "Mr. Beast" ยูทูบเบอร์ที่รวยที่สุดในโลก
1
มิสเตอร์บีสต์ยูทูบเบอร์คนแรกในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็น ‘มหาเศรษฐีพันล้าน’ จนทำให้เด็กหลายคนยกให้เขาเป็นไอดอลและอยากดำเนินรอยตามเขา
8
[[ #ทำไมมันจึงสำคัญ ]]
อาชีพยูทูบเบอร์กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกของคนรุ่นใหม่ หากย้อนกลับไปสัก 10-15 ปีก่อน เราอาจคาดไม่ถึงเลยว่าอาชีพตรงนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ เพียงแต่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเลียนแบบหรือทำตามส่ิงที่มิสเตอร์บีสต์ทำแล้วจะประสบความสำเร็จแบบเดียวกันได้
1
เรื่องราวของเขาที่เริ่มสร้างคอนเทนต์ตั้งแต่อายุ 13 แต่ก็ไม่โด่งดัง ก้มหน้าก้มตาทำอยู่หลายปีกว่าจะมีคนตามเพียงแค่หลักหมื่น ยอมลาออกจากมหาลัยฯ เพื่อมาทำคอนเทนต์เต็มตัวและโดนแม่ไล่ออกจากบ้านเพราะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจ ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจอย่างมากเลยทีเดียว
7
[[ #ภาพรวมความสำเร็จ ]]
‘If we manage to stay the largest YouTube channel in the world for the next 5 to 10 years, the opportunities are limitless.’
ถ้าเรายังเป็นช่องที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปอีก 5 - 10 ปี โอกาสที่เรามีก็ไม่มีจุดสิ้นสุด – James Donaldson กล่าวกับ นิตยาสาร Forbes
1
มิสเตอร์บีสต์ (Mr.Beast) หรือชื่อจริงของเขาคือ จิมมี ดอนัลด์สัน (James Stephen Donaldson) เกิดปี 1998 ยูทูบเบอร์คนแรกในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็น ‘มหาเศรษฐีพันล้าน’ ได้จากอาชีพยูทูบเบอร์ด้วยอายุเพียง 24 ปี หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือทำคลิปวิดีโอลง ช่อง ‘YouTube’ มิสเตอร์บีสต์จึงเป็นไอคอนของอาชีพ ‘ยูทูบเบอร์’ ที่ใครหลายคนในยุคนี้ใฝ่ฝัน
3
Forbes ได้มีการพูดถึงรายได้ของมิสเตอร์บีสต์ว่าในปี 2022 รายได้ของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือประมาณ 110 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นยูทูบเบอร์ที่มีรายได้มากที่สุด และในปี 2023 เขาก็ยังจะครองตำแหน่งยูทูบเบอร์ที่มีรายได้สูงสุดโดยรายได้สุทธิที่เขาจะได้จากยูทูบอยู่ที่ 54 ล้านดอลลาร์
10
ในขณะที่ Forbes คาดการณ์รายได้รวมเขาในปี 2023 จะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์โดยคำนวณรายได้จากหลายช่องทางทำเงิน เพราะนอกจากทำช่องยูทูบแล้วเขายังมีรายได้จากการเป็นเจ้าของธุรกิจอีกหลายอย่าง เช่น แบรนด์เสื้อผ้า ร้านอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆ (เช่น MrBeast Burger, MrBeast Chocolate) ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับเขาเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
3
[[ #เบื้องหลังที่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ]]
มิสเตอร์บีสต์ เริ่มโพสต์คลิปลงช่อง YouTube ของตัวเองครั้งแรกในปี 2012 ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุประมาณ 13-14 ปี โดยคอนเทนต์ที่เขาโพสต์ก็ค่อนข้างล่างหลายตั้งแต่การสตรีมเกมฮิต ๆ อย่าง Minecraft, Call of Duty สลับกับการทำ Vlog ไลฟ์สไตล์ ซึ่งในขณะนั้นเขาช่องของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่
6
และเริ่มมีผู้ติดตามมากขึ้นในปี 2015 และ 2016 จากการทำรายการ ‘Worst Intros’ ซึ่งเป็นคอนเทนต์แนววิพากษ์วิจารณ์การทำคลิปของยูทูบเบอร์ช่องอื่น ๆ จนมีผู้ติดตาม 30,000 ราย
4
[[ #เริ่มดังเพราะอะไร ]]
ความมุ่งมั่นที่จะเป็นยูทูบเบอร์ของเขาไม่มีอะไรมาหยุดมันได้ แม้กระทั่งช่วงเวลาในการเรียนมหาลัย มิสเตอร์บีสต์ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยในปี 2016 และมุ่งมั่นในการทำคลิปอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าแม่ของเขาไม่เห็นด้วยและถูกไล่ออกจากบ้าน มิสเตอร์บีสต์พยายามหาไอเดียลองผิดลองถูกเป็นปี
3
จนในที่สุดเขาก็จับทางได้ว่า บางทีไอเดียที่ดีอาจไม่ต้องคิดนานเพราะในระหว่างที่หมดไอเดียในการหาคอนเทนต์ เขาลองทำคอนเทนต์ที่คนคิดว่าง่าย (แต่ไม่มีใครคิดจะทำ) อย่างเช่นการอัดคลิป 44 ชั่วโมง เพื่อนั่งนับเลข 1 ถึง 100,000 (I Counted To 100,000! ลิงก์ในคอมเมนต์)
1
และในปี 2017 นั้นเอง คลิปนับเลขของเขาก็ถูกค้นพบ และได้รับความสนใจจนมีคนมารับชมและแชร์ต่อกันเป็นไวรัล จนชื่อของเขาเริ่มถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดีย
ความโด่งดังในครั้งนั้น ทำให้มิสเตอร์บีสต์เริ่มจับทางได้แล้วว่าหน้าปกคลิปวิดีโอ วิดีโอ และคีย์เวิร์ดลักษณะไหนที่น่าจะได้รับความนิยม และถูกอัลกอริทึมของ YouTube แนะนำในหน้าแรก พอแสงเริ่มส่องถึง ไอเดียก็บรรเจิด
7
มิสเตอร์บีสต์ไล่ทำคลิปทำนองนี้ออกมาอีกหลายไอเดีย ทั้งนั่งดู Music Video เพลงเดิมซ้ำๆ ไปกว่า 10 ชั่วโมง, อ่านคำทุกคำในดิกชันนารี, พูดชื่อคนดัง เช่น คุณ PewDiePie หรือ Logan Paul จำนวน 100,000 ครั้งจนในที่สุดล้านแรกของช่องก็มา
พอเริ่มมีชื่อเสียง รายได้จากค่าโฆษณาของ YouTube และจากเหล่าสปอนเซอร์ต่าง ๆ ก็มากขึ้นเขานำเงินที่ได้มาลงทุนในอุปกรณ์สำหรับถ่ายทำ และพัฒนารูปแบบคอนเทนต์ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
1
จนถึงในปัจจุบันนี้อาณาจักร YouTube ของคุณเขามีคนกดติดตามมากกว่า 180 ล้าน และมียอดวิวรวมทั้งหมดกว่า 3 หมื่นล้านครั้ง
1
[[ #แต่เราจะมาเป็นมิสเตอร์บีสต์เหมือนกันไม่ได้ ]]
ความสำเร็จของมิสเตอร์บีสต์มาจากหลากหลายปัจจัย และนี่คือ 1 ใน 5 ข้อที่เป็นสิ่งที่ผลักดันให้มิสเตอร์บีสต์ประสบความสำเร็จ
1. ความคิดสร้างสรรค์ที่ขายได้
1
มิสเตอร์บีสต์ได้รับการยกย่องให้เป็นตัวพ่อของการบุกเบิกคอนเทนต์สร้างวิดีโอเว่อร์ ๆ นับตั้งแต่เริ่มมีสปอนเซอร์เขาก็เริ่มยูทูบเบอร์อันดับแรกๆ ที่ทำคอนเทนต์แจกเงินจำนวนมาก
2
ช่องของเขาเป็นช่องที่ทำให้เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต้องมาศึกษาดูงาน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อคลิป การทำภาพปกไม่เว้นแม้กระทั่งเนื้อหา ยูทูบเบอร์หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์หลายคนก็ทำเลียนแบบเนื้อหาของเขาจนมีชื่อเสียง
2. กล้าที่จะทุ่ม แจกและฟุ่มเฟือย (เพื่อคนดู)
หลายคลิปของเขาที่เป็นกระแสไวรัลบน YouTube มักจะเกี่ยวข้องกับการทำลายสถิติโลกหรือการแสดงผาดโผนที่ท้าทายน่าดู น่าติดตาม
1
แต่เขาไม่ได้หยุดที่จะพัฒนาคลิปให้มีคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ทั้งการทำซับแปลภาษา หรือการทำเนื้อหาเพื่อขยายช่องทางเพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับคอนเทนต์ของเขา โดยมิสเตอร์บีสต์เองมีช่องย่อยแยกออกมาอีกอย่าง MrBeast Gaming, Beast Reacts, MrBeast Shorts, Beast Philanthropy, MrBeast 2 ซึ่งทุกช่องที่กล่าวมามีจำนวนผู้ติดตามหลักสิบล้านขึ้นไปทุกช่องทาง
1
สิ่งหนึ่งที่ทำให้มิสเตอร์บีสต์เหนือขั้นกว่าคือยูทูบเบอร์ในยุคเดียวกันก็คือการสร้างคอนเทนต์แบบ stunt philanthropy (ทำบุญแบบพ่อบุญทุ่ม มอบให้หมดสุดใจขาดดิ้น) อย่างการทำคลิปแจกเงินให้กับคนไร้บ้าน แจกอาหาร แจกรถฟรี เพื่อการกุศลการระดมทุนหรือสร้างความตระหนักรู้ให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ
หนึ่งในคอนเทนต์ที่ไวรัลไปทั่วและสร้างเสียงตอบรับในแง่บวกมาก ๆ ของเขาคือคอนเทนต์
1
“พาคนตาบอด 1,000 คน ไปรักษาให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง” (ลิ้งก์อยู่ในส่วนอ้างอิง) หลายคนคงจะทราบดีว่าการผ่าตัดเฉพาะทางแบบนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และสปอนเซอร์ไม่มีทางจ่ายให้ทั้งหมด แต่คอนเทนต์ที่จริงใจและช่วยเหลือสังคมแบบนี้เป็นไวรัลและยิ่งสร้างชื่อเสียงในทางบวกให้เขาเพิ่มขึ้น
5
3. ช่องของเขามีเนื้อหาที่สนุกและน่าค้นหา
1
หลายครั้งคนเราอาจจะชอบฟัง ชอบดูมากกว่าที่จะลงมือทำหรืออยากทำแต่ทำไม่ได้ด้วยตัวเองและเมื่อมีใครเสนอความทะเยอทะยานที่เรามีเป้าหมายร่วมเหล่านั้นออกมาก็ทำให้ใครหลายคนอดที่จะติดตามไม่ได้
2
อย่างเช่น $1 Vs $100,000,000 Car! คลิปเปรียบเทียบว่ารถราคาแค่หนึ่งเหรียญกับร้อยล้านเหรียญต่างกันแค่ไหน ถูกฝังดิน 50 ชั่วโมง พยายามอดอาหารเป็นเวลา 30 วันนั้น จะให้ผลลัพธ์ยังไง หลายคนคงอาจจะเคยอ่าน เคยได้ยิน แต่มิสเตอร์บีสต์ทำให้ดูในยูทูบไปเลย
2
4. เป็นนักธุรกิจท่ีเก่ง
นอกจากโฆษณาจากยูทูบและสปอนเซอร์แบรนด์ต่าง ๆ เขายังทำธุรกิจร้านอาหารที่ชื่อ MrBeast Burger ใช้โมเดลแบบ Virtual Kitchen หรือร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้าน ใช้ครัวของร้านอาหารพาร์ตเนอร์ และขายแบบดิลิเวอรีเท่านั้น การดำเนินธุรกิจเช่นนี้ทำให้ธุรกิจของเขาโตเร็ว รวมทั้งยังมีการใช้กลยุทธ์แจกฟรีในวันเปิดตัว จนกลายร้านของเขาเป็นไวรัลในโลกออนไลน์
2
ในช่วงสามเดือนแรกของการเปิด ขายเบอร์เกอร์ได้กว่าหนึ่งล้านชิ้น ซึ่งมันหมายความว่าขายได้เฉลี่ย 11,100 ออเดอร์ทุกวัน ตลอด 3 เดือน และทำรายได้ประมาณ 8,000,000 เหรียญสหรัฐฯ จากการขายเบอร์เกอร์เพียงอย่างเดียว ตอนนี้มีสาขาเกือบ 1,000 แห่งแล้ว
2
นอกจากนั้นยังมีไลน์เสื้อผ้าแฟชั่นของตัวเองตั้งแต่ หมวก, เสื้อกันหนาว, กางเกง, joggers, hoodies (Collection MrBeast Burger ก็มีนะ) เว็บไซต์ขายสินค้าได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม มียอดขายประมาณหนึ่งล้านคำสั่งซื้อต่อเดือนโดยส่วนใหญ่มาจากการเข้าชมโดยตรงจากช่อง YouTube ของเขา
2
5. Stunt Philanthropy ใช้คอนเทนต์ห่าม ๆ ขนาดใหญ่เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงขนาดยักษ์
2
มิสเตอร์บีสต์ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก เขาเคยกล่าวว่าต้องการใช้แพลตฟอร์มของตัวเองเพื่อสร้างความแตกต่างในชีวิตของผู้อื่น แม้ว่าหลายคอนเทนต์ที่ออกมาจะต้องเผชิญกับความขัดแย้งและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ตาม
การระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดของมิสเตอร์บีสต์คือ "Team Seas" ที่ได้เงินไปทั้งสิ้น 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 990 ล้านบาท) โดยเป็น ระดมทุนผ่านแคมเปญ "Save the Ocean" บนแพลตฟอร์ม GoFundMe เพื่อทำความสะอาดมหาสมุทรจากขยะพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2021 - 31 ธันวาคม 2021
1
การระดมทุนครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก มีผู้บริจาคเงินมากกว่า 3 ล้านคน เงินที่ได้ถูกนำไปใช้ในการจ้างเรือเพื่อเก็บขยะพลาสติกในมหาสมุทร ปลูกต้นไม้ชายฝั่งทะเล และรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกในทะเล
นอกจากครั้งนี้ มิสเตอร์บีสต์ยังได้ระดมทุนช่วยเหลือสังคมอีกมากมาย เช่น การระดมทุนเพื่อสร้างบ้านให้ไร้บ้าน การระดมทุนบริจาคอาหารให้คนยากจน การระดมทุนช่วยหาทุนการศึกษาให้นักเรียน เป็นต้น
2
นี่คือความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือสังคมและสร้างโลกที่ดีขึ้น
1
ในโลกที่มีผู้ยากไร้เต็มไปหมด ไม่แปลกเลยที่การแจกแบบนี้ทำให้ใคร ๆ ก็อยากจะเข้ามาห้อมล้อมเขา ในขณะเดียวกันผู้คนก็อยากจะร่วมทำกิจกรรมทางการกุศลกับเขา — คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยชอบเข้าวัดแต่บริจาคเงินเพื่อช่วยทางการกุศลออนไลน์กันเยอะ
1
ยิ่งมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์แบบมิสเตอร์บีสต์พวกเขาก็กระตือรือร้นที่จะสนับสนุน การที่เขาดูเป็นคนที่เข้าถึงง่ายและเข้าถึงได้ ทำให้มีสถานะทางออนไลน์ที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าออกคอนเทนต์อะไรมาก็จะมีผู้ติดตามหลายล้านคน แทบจะทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และการขยับของเขาก็เป็นไปเพื่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วย
1
เมื่อโลกเปลี่ยนไป ไอดอลของคนยุคใหม่ก็เปลี่ยนตาม จากเมื่อก่อนถ้าเราถามคนทั่วไป อาจจะมองบิล เกตส์ หรือ สตีฟ จ๊อบส์ เป็นเป้าหมาย แต่เชื่อว่าถ้าถามเด็กรุ่นใหม่ๆ ชื่อของมิสเตอร์บีสต์น่าจะขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ เช่นกัน
อ้างอิง :
https://www.youtube.com/watch?v=xWcldHxHFpo&themeRefresh=1
https://medium.com/.../social-media-stars-mr-beast-and
...
https://medium.com/.../how-mr-beast-is-making-over-150
...
https://www.forbes.com/.../the-highest-paid-youtube.../
...
https://www.google.com/search
...
https://impactwealth.org/mr-beasts-stunt-philanthropy.../
https://observer.com/.../mrbeasts-sponsors-can-reach-a.../
https://www.forbes.com/.../the-highest-paid-youtube.../
...
https://www.forbes.com/.../could-mrbeast-be-the-first.../
...
https://www.essentiallysports.com/esports-news-mrbeast.../
https://youtu.be/TJ2ifmkGGus?si=uW2vll_REs22Ja2L
#aomMONEY #MoneyStoytelling #MrBeast #YouTuber #อาชีพ #ไอดอล #ความสำเร็จ
93 บันทึก
102
1
166
93
102
1
166
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย