22 ต.ค. 2023 เวลา 15:23 • กีฬา

"เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน" ตำนานคนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ข้อความทั้งหมดที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ คือหลักฐานที่บ่งบอกว่าไม่มีนักเตะคนไหนในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะแสดงออกถึงคุณค่าของสโมสรได้ดีไปกว่า เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน อีกแล้ว
- โชว์ฟอร์มเข้าตาแมวมองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 15 ปี ระหว่างการเล่นให้ทีมโรงเรียน อีสต์ นอร์ทธัมเบอร์แลนด์ บนสนามที่เกาะไปด้วยหิมะ ก่อนได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมเยาวชนปีศาจแดงในวันขึ้นปีใหม่ของปี 1953 และได้สัญญานักเตะอาชีพฉบับแรกในเดือนตุลาคม 1954
- เป็นกำลังสำคัญของสโมสรตั้งแต่ทีมระดับเยาวชน เมื่อพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ได้ 3 สมัยซ้อนในซีซั่น 1953-54, 1954-55 และ 1955-56
- ยิงคนเดียว 2 ประตูตั้งแต่การลงเล่นเกมลีกสูงสุดให้ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก พาทีมเอาชนะ ชาร์ลตัน แอธเลติก 4-2 ในวันที่ 6 ตุลาคม 1956
เกมนั้นชาร์ลตันมีอาการบาดเจ็บข้อเท้าแพลงด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ต้องการพลาดโอกาสทองที่จะได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ จึงโกหก เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ ไปว่าเขาพร้อมลงเล่นตามปกติ
- จากนั้นเขากลายเป็นดาวรุ่งตัวทีเด็ดในช่วงท้ายฤดูกาล 1956-57 ที่ยิงไป 10 ประตูจากการลงเล่นเกมดิวิชั่น 1 เดิม 14 นัด พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครองได้
- อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่ถึง 1 ปีถัดมา เขาต้องพบกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1958 หรือ 1 วันให้หลังจากที่ชาร์ลตันเพิ่งยิง 2 ประตูพาทีมปีศาจแดงบุกเสมอ เร้ด สตาร์ เบลเกรด 3-3 ทำให้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ปีนั้นได้ด้วยสกอร์รวม 5-4
เครื่องบินขากลับจากเบลเกรดสู่แมนเชสเตอร์ได้แวะเติมเชื้อเพลิงที่เมืองมิวนิค และเกิดอุบัติเหตุระหว่างความพยายามนำเครื่องบินขึ้นเดินทางต่ออีกครั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 23 คน ในจำนวนนั้นเป็นเพื่อนร่วมทีมของชาร์ลตัน 8 คน (ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนอีก 7 คนเสียชีวิตในสถานที่เกิดเหตุ)
เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน คือหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนที่รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนั้น และหลังจากที่เขาจากโลกนี้ไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2023 ทำให้ ณ ปัจจุบัน บนโลกนี้ไม่เหลือใครที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นอีกแล้ว
- การสูญเสียครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องใช้เวลาพอสมควรในการสร้างทีมใหม่ และ เซอร์ บ็อบบี้ ก็คือกำลังสำคัญในกระบวนการนั้น จากนักเตะอายุ 20 ปีเมื่อปี 1958 กลายมาเป็นกัปตันทีมวัย 30 ปีที่ยิงคนเดียว 2 ประตูในนัดชิง ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1968 พาทีมต่อเวลาเอาชนะเบนฟิก้า 4-1 และทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คือสโมสรแรกของอังกฤษที่คว้าแชมป์ยุโรปมาครอง
ซึ่งก่อนจะพา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ยุโรปได้เป็นสมัยแรก ชาร์ลตันคือกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกและสมัยเดียวในปี 1966 มาครอง จนทำให้คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ปีนั้นมาครองได้อีกด้วย รวมถึงช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้อีกในปี 1965 และ 1967 รวมถึงแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 1963
- สถิติการลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากที่สุดของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (753 นัด) อาจจะโดน ไรอัน กิ๊กส์ ทำลายในปี 2008 ขณะที่ตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร (249 ประตู) ที่อยู่ยงคงกระพันอย่างยาวนานก็โดน เวย์น รูนี่ย์ แซงได้ในปี 2017 แต่ชื่อของชาร์ลตันยังคงถูกยกให้เป็นตำนานนักเตะอันดับหนึ่งตลอดกาลของสโมสรเสมอ
- หลังจากแขวนสตั๊ดได้หลายปี สโมสรเชิญ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน กลับมาทำงานเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารในปี 1984 และเขาคือส่วนสำคัญในการตัดสินใจให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาเป็นผู้จัดการทีมเมื่อปี 1986 ก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลายเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรีเมียร์ลีกในช่วง 2 ทศวรรษ 1993-2013
- ฉายา "โรงละครแห่งความฝัน" อันลือลั่นของสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คนที่นิยามคำนี้ให้ก็คือ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และอัฒจันทร์ฝั่งทิศใต้ของสนามถูกตั้งให้เป็นชื่อของเขา ส่วนหน้าสนามก็มีรูปปั้นของชาร์ลตันยืนตระหง่านร่วมกับ จอร์จ เบสต์ และ เดนิส ลอว์ ซึ่งต่างเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดรุ่งเรืองของทศวรรษที่ 60s
- เขาใช้เวลาว่างไปชมเกมการแข่งขันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นประจำ เป็นส่วนหนึ่งในสักขีพยานของการเป็นแชมป์ยุโรปหนสุดท้ายของสโมสรที่กรุงมอสโกในปี 2008 และอยู่ในขบวนรถแห่แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 13 (แชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 20) เมื่อปี 2013 ร่วมกับนักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ชของทีม
- หลังจากโผล่ไปให้กำลังใจนักเตะรุ่นน้อง, รุ่นลูก และรุ่นหลานอย่างยาวนาน ในปี 2020 เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคสมองเสื่อม และหายหน้าจากการปรากฏตัวต่อหน้าฝูงชนไปตั้งแต่นั้น ก่อนจากโลกนี้อย่างสงบไปเมื่อวานนี้
คงแทบไม่มีแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนไหนในยุคนี้ที่ทันเห็น เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ลงเล่น แต่เรื่องราวและตำนานที่เล่าขานทั้งหมดนั้น จะอยู่ในความทรงจำของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทีมปีศาจแดงไปตลอดไปอย่างแน่นอน
#เสียบสามเหลี่ยม #ชาร์ลตัน #เซอร์บ็อบบี้ชาร์ลตัน #บ็อบบี้ชาร์ลตัน #แมนฯยูไนเต็ด #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
โฆษณา