เทวา อาถรรพ์
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้รับฟังมาอีกทีนึงจากคุณลุงคมค่ะ ลุงคมเล่าว่าลุงอยู่ที่เชียงรายมาตั้งเเต่สมัยหนุ่มๆ พื้นเพลุงเป็นคนแม่ฮ่องสอนเเต่ได้ย้ายรกรากมาอยู่กับเมียที่เชียงรายเพื่อทำงานและสร้างครอบครัว ลุงคมกับป้าตุ้ย สองคนผัวเมีย จะมีที่ดินของตัวเองค่อยข้างกว้าง
ประจวบเหมาะกับบ้านลุงคมใกล้กับโรงงานแกจึงสร้างห้องเเถวไว้เพื่อเปิดให้เช่า และลูกค้าเกือบจะ100%ของห้องเเถวที่ลุงคมเปิดไว้ก็จะเป็นลูกจ้างของโรงงานแถวๆนั้น ที่มักจะเข้ามาจับจองห้องพัก
ราคาห้องเช่าของลุงคมก็ตกเดือนละ 1,500 ไม่รวมน้ำไฟ ซึ่งมันก็ทำเงินให้ลุงคมกับครอบครัวได้มากเพราะราคาค่าเช่าก็ไม่ได้แรง ไหนจะใกล้แหล่งชุมชนอีก เรียกว่าการซื้อข้าวของหรือหาอาหารไม่ยากเลยเพราะติดกับถนนใหญ่ด้วย
(ห้องเเถวที่ลุงคมสร้งจะเป็นแบบตึกแถว 2 ชั้น ชั้นละ10ห้อง จำนวน 2 ตึก)
ลุงคมเล่าว่าจริงๆแล้วลุงแกอยู่อย่างปกติสุขมาตลอด เเต่เรื่องทั้งหมดทั้งมวลมันก็ดันเกิดขึ้นเพราะว่าเทวรูปองค์หนึ่งที่จู่ๆมันก็มาตั้งอยู่หน้าบ้านขอลุงคม
ในวันที่ลุงคมกำลังจะออกไปตลาดกับป้าตุ้ย พอแกเปิดประตูบ้านมาก็เจอกับเทวรูปองค์หนึ่งที่หน้าตักน่าจะไม่เกิน5 นิ้วตั้งอยู่ตรงหน้าบ้านพอดีเด้ะๆ คือแกเปิดประตูมาก็เจอเลย
เทวรูปที่ว่านี้ ลุงคมเห็นก็พอจะเดาทางได้ว่าไม่น่าใช่ศิลปะของไทยน่าจะเป็นเทวรูปที่ถูกสร้างมาในรูปแบบของศิลปะขอมโบราณ
ลักษณะของเทวรูปนี้เป็นเทวรูปเนื้อทองเหลืองเก่าผิวสีสนิม จากเครื่องทรงของเทวรูปลุงคมเลยไม่มั่นใจว่าเป็นชายหรือหญิง เเต่ที่เเน่ๆ
เทวรูปที่ว่ามานี้ มี 8 เศียร 4 ขา และ มีถึง 16 กร ท้วงท่าของเทวรูปองค์นี้ดูดุร้าย เรียกว่ามองเเล้วไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก
แต่...ด้วยนิสัยของลุงคมที่ชอบของเก่าเป็นทุนเดิม จึงตั้งใจที่จะเก็บเข้ามาในบ้าน
ป้าตุ้ยเมียแกไม่เห็นด้วยเท่าไหร่เพราะว่าไม่รู้ที่มาที่ไปของเทวรูป นั้นเลยทำให้ลุงคมแกยอมตามใจเมีย คือเอาไว้นอกบ้านไปก่อน เเล้วว่างๆค่อยเอาไปให้กับวัดแถวบ้านแทน
ถึงเเม้นว่าจะรับปากป้าตุ้ยไว้ ทว่า...ลุงคมก็แอบเอาเทวรูปเข้าบ้านไปอยู่ดี โดยแกเอาเทวรูปที่ว่านี้ไปซุกๆไว้ในตู้เก็บของเก่าๆแถวหลังบ้านเเทนซึ่งตู้นี้จะเป็นตู้เดียวเท่านั้นที่ป้าตุ้ยไม่มารื้อเพราะมีเเต่อุปกรณ์ช่างของลุงคม
เรื่องแปลกๆก็ค่อยๆเริ่มเกิดขึ้น หลังจากที่เก็บเทวรูปไว้ได้ไม่นานนัก
ผ่านไปประมาณสองสัปดาห์ ลูกบ้านก็พากันค่อยๆล้มเจ็บกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ เดี๋ยวห้องนั้นป่วยเดี๋ยวห้องนี้ป่วย จนต้องเดือดร้อนสาธารณะสุขในเขตเข้ามาตรวจเพราะเกรงว่าจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค
ถัดไปอีกอาทิตย์ ผู้เช่าอาศัย รวมไปถึงลุงคมและป้าตุ้ยเองก็ประสบอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง ป้าตุ้ยลื่นล้มในห้องน้ำ โดยป้าตุ้ยบอกว่าเหมือนมีมือใครก็ไม่รู้มากระชากที่ข้อเท้าจนทำให้ป้าตุ้ยเสียหลักล้ม
เเต่ยังเดชะบุญที่ไม่ถึงขั้นหัวล้างข้างแตก ลุงคมเองก็รถมอเตอร์ไซต์ล้มลงคูข้างทาง ส่วนพวกลูกบ้านเองก็เจอไม่ต่างกัน คือรถล้ม ลื่นเหมือนมีใครมากระชากขา
ลุงคมยังคงคิดเเค่ว่าเหตุที่เกืดขึ้นเป็นเพียงความบังเอิญ เเต่ความโกลาหลก็ยังคงไม่จบเเค่นั้น เพราะไม่นานหลักจากที่พึ่งผ่านเหตุการณ์รถลงคูน้ำ ลุงคมแกก็ขาหัก
ลุงคมเล่าว่า วันนั้นเป็นวันที่แกใช้ชีวิตปกติในบ้าน ทว่าจู่ๆก็รู้สึกเจ็บแปร๊บขึ้นมาที่หน้าเเข้งและทรุดลงไปที่พื้นทันที แกพยามลุกแต่ก็ลุกไม่ขึ้น มันเจ็บมากจนน้ำตาเเทบไหล ลุงคมมั่นใจเลยว่าไม่ได้เดินชนหรือไปล้มที่ไหนอีก จู่ๆอาการนี้ก็เกิดขึ้นมาเอง ป้าตุ้ยเลยไปเรียกคนเเถวนั้นมาช่วยพาลุงคมขึ้นรถเพื่อไปหาหมอ เเละเมื่อตรวจเสร็จคุณหมอจึงเเจ้งให้ทราบว่า ขาลุงคมหัก
ป้าตุ้ยกับลุงคมต่างพากันงง มันจะไปหักได้ยังไง ทางคุณหมอจึงเอาฟีลม์เกสเรย์มาให้ดูก็เห็นว่ากระดูกขาหักจริงๆ ทางแพทย์พยามซักไซ้ถามลุงคมว่าได้ไปทำอะไรที่เกินเเรงหรือโดนใครตีมาหรือเปล่า เพราะหากถูกทำร้ายจะได้ออกใบรับรองแพทย์ให้ไปเเจ้งความ
เเต่ลุงคมก็ยืนยันเลยว่าตอนเกิดเหตุเขาเเค่เดินปกตินี้แหละเพื่อจะไปกินน้ำที่ตู้เย็นแล้จู่ๆก็รู้สึกเจ็บที่ขาเเล้วล้มลง ทางคุณหมอเองก็ทำถ้าฉงน เเต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อไปเพิ่ม ทางคุณหมอเลยให้ทำการจัดเยงกระดูกและให้ใส่เฝือกอ่อนไปก่อนซัก10-14วัน
ในช่วงที่ใส่เฝือกนั้นลุงคมแกจึงได้ยู่แต่บ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพื่อลดการใช้งานหนักๆของขา เต็มที่ก็แค่กระเพกๆไปเดินรดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น
แต่ยังไม่ทันจะพ้นสัปดาห์ดี ป้าเมย ป้าร้านขายของชำที่ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านก็เข้ามาคุยถามอาการของลุงคมแถมเล่าเรื่องแปลกๆให้ฟังว่า....
หลังจากที่ลุงคมไปรพ. วันถัดมา หลานชายของป้าเมยดันมารถล้มบริเวณหน้าบ้านลุงคมพอดี พอถามหลาน หลานก็บอกว่ามีคนแต่งชุดประหลาดๆวิ่งตัดหน้าเเล้ววิ่งเข้าไปในบริเวณบ้านลุงคม พอมองตามไปก็เห็นว่าเขายืนยิ้มอย่างสะใจก่อนที่จะวิ่งหายไปตรงท้ายบ้าน มีคนวิ่งตามหลังไปติดก็ไม่พบใครเลย เหมือเขาหายไปเฉยๆ
ลุงคมฟังก็ยังสงสัย เพราะจากรูปประพรรณสันฐานแล้วมันไม่ใช่ลูกบ้านของลุงคมเเน่นอน
ลุงคมจึงไปดูกล้องวงจรปิดย้อนหลังให้ ก็พบว่า..เห็นเป้นคนใส่ชุดโบราณๆวิ่งมาทางหลังบ้านจริงๆและเข้าวิ่งหายไปตรงบริเวณห้องเก็บของที่ลุงคมเอาไว้เก็บอุปกรณ์ช่าง...(และเก็บเทวรูปโบราณองค์นั้นไว้ด้วย)
ลุงคมเห็นแบบนั้นก็ตกใจมาก เพราะคนๆนั้นเขาวิ่งทะลุกำแพงและประตูเข้าไปเลย แต่ก่อนที่จะวิ่งเข้าไป ลุงคมก็เห็นว่า คนๆนั้นหันหน้ากลับมาเเล้วเงยขึ้นมามองที่กล้องวงจรปิด ก่อนที่จะค่อยๆเเสยะยิ้มชวนสยองออกมาเเล้วจึงวิ่งทะลุประจูเข้าไป
ตอนนั้นในหัวลึงคมแกเรียกว่าคอนข้างประมวลผลอย่างหนัก ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วไอ้ที่แกเห็นเมื่อตะกี้มันคืออะไรกันเเน่
ใจก็อยากบอกป้าตุ้ยให้ไปเป้นเพื่อนไปดูพร้อมกัน เเต่อีกใจนึง ก็กลัวเมียด่า นั่งคิดอยู่นานอันไหนตายช้าตายไวกว่ากัน สุดท้ายก็ยอมบอกป้าตุ้ยว่าให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย
พอป้าตุ้ยสักไซ้ถามเท่านั้นแหละ แกโดนด่าชุดใหญ่ เพราะป้าตุ้ยเคยเตือนเเล้วว่าไม่อยากให้เอาเทวรูปนั้นเข้าบ้าน แต่ลุงคมก็ยังแอบเก็บไว้
ป้าตุ้ยพาลุงคมไปหลังบ้านเพื่อไปเปิดห้องเก็บอุปกรณ์ดู เเต่ปากก็บ่นไม่เลิกอยู่ดี เพราะป้าตุ้ยมั่นใจเลยว่าเรื่องวุ่นวายที่เกิดในหลายวันมานี้ต้องมาจากเทวรูปองค์นี้เเน่ๆ
และในขณะที่กำลังจะเปิดประตูห้องเก็บอุปกรณ์นั้น
จู่ๆก็มีเสียงล้อเบรคดังเอี๊ยดดดดดด และตามมาด้วยเสียงโครมมมมมดังลั่นทุ่ง ไปหมด พอหันไปก็เห็นว่าควันโขม่งมาจากตรงบริเวณบ้านของลุงคมนั้นเอง และมีรถกระบะคันหนึ่งที่อยู่ในสภาพยับยู่ยี่จอดนิ่งอยู่
ใช่ค่ะ มีรถกระบะคันใหญ่ พุ่งเสียหลักเข้ามาชนตรงหน้าประตูบ้านของลุงคม ความแรงนั้นทำเอาประตูบ้านหลุด บริเวณนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตัวรถเองก็สภาพไม่ต่างกัน เเละคนขับก็เสียชีวิตคาที ชาวบ้านที่ได้ยินได้เห็นก็วิ่งวุ่นมาดูเพราะเกรงว่าไม่ลุงก็ป้าอาจจะมีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ทว่าที่ลุงคมกับป้าตุ้ยรอดมาได้นั้นก็เพราะเขาเดินมากันแถวๆท้ายบ้าน
ในระหว่างที่กำลังรอกู้ภัยและตำรวจ ลุงคมจึงตัดสินใจไปเปิดห้องเก็บอุปกรณ์ทันทีเพราะ ลุงคิดว่าแบบนี้ไม่น่าจะไหวเเล้ว
เเละเมื่อเปิดเข้าไปก็พบเทวรูปองค์เดิมนั้นแหละตั้งกระหงาดอยู่อยู่บนชั้นว่างของ เเต่ทว่าในเวลานี้ ริมฝีปากของเทวรูปบนพักตร์ทั้ง 8 ล้วนมาเลือดสีแดงไหลออกมา และกรทั้ง 16 กร เองก็เช่นกันที่ชุ่มไปด้วยเลือด
แถมส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่ว ทีเเรกไม่คิดกลัวเเต่ตอนนี้ความกลัวของลุงคมพุ่งขึ้นถึงขีดสุด จึงเร่งเเจ้งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับเทวรูปองค์นี้ไป แล้วหลังจากนั้นลุงคมก็ไม่เคยพบเจอเรื่องราวแปลกประหลาดอีกเลย ครอบครัวเเละลูกบ้านเองก็อยู่กันอย่างสงบสุข ทุกวันนี้ลุงก็ไม่รู้ว่าเทวรูปไปอยุ่ที่ไหนแล้วเพราะไม่ได้ตามข่าวคราวเลยและก็ไม่คิดอย่างรู้ด้วยเพราะขยาดเต็มทน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
