27 ต.ค. 2023 เวลา 05:00 • บันเทิง

ตู้ซ่อนผี

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณภูมิค่ะ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นมันเริ่มต้นมาจาก วันที่คุณพ่อไปซื้อตู้เสื้อผ้าบานหนึ่งกลับมา..
ครอบครัวของคุณภูมิย้ายมาจากอุบลราชธานีเพื่อมาตั้งรกรากที่บุรีรัมย์แทน ในช่วงที่ย้ายเข้ามาใหม่ๆก็จะเป็นช่วงที่ซื้อของใช้เข้าบ้าน จนอยู่มาวันหนึ่งก็มีรถขนตู้เสื้อผ้าไม้สักใบใหญ่มาจอดหน้าบ้าน เเละได้ทราบว่าคุณพ่อของคุณภูมิเป็นคนซื้อตู้ไม้มาเอง จากร้านในระแวกนั้น
และด้วยเพราะบ้านของคุณภูมิจะเป็นเฟอร์ไม้ถึง80% นั้นเลยทำให้ตู้ใบนี้ กลมกลืนและเหมาะเจาะมากๆ
แต่ทว่าหลังจากที่ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี้ได้ไม่นาน คุณภูมิก็มักจะเจอเรื่องแปลกๆประจำ เช่นเวลาที่เขานอน หรือทำอะไรอยู่คนเดียว ก็มักจะได้ยินเสียงเด็กเล็กๆร้องไห้ และจากการคาดเดาก็น่าจะเป็นทารก เสียงมันดังก้องอยู่ในบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านก็มันจะเปิดปิดเอง เช่นประตูตู้กับข้าว ม่าน มู่ลี่ ที่ขยับเองทั้งๆที่ไม่มีลม พอนานวันเขา ก็มักจะมีเสียงกุกๆกักๆ ดังมาจากในตู้เสื้อผ้าบานนั้นเสมอ
ทุกๆ3ทุ่ม15 คุณภูมิมักจะได้กลิ่นเหม็น เหมือนมีอะไรเน่าตาย กลิ่นฟุ้งตลบห้องตลอด และกลิ่นนั้นก็ส่งมาจากตู้ใบนั้นที่คุณพ่อซื้อ คุณภูมิพยามหาต้นกลิ่นทุกคืน เพราะคิดว่าน่าจะเป็นหนูรึอะไรมาตาย แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
พอเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณพ่อ คุณพ่อก็ว่างมงาย หาว่าคุณภูมิเล่นยาจนหลอน นั้นเลยทำให้สองพ่อลูกมักจะมีปากเสียงกันตลอด
เมื่อต้องได้กลิ่นทุกวัน มันก็ทำให้สุขภาพจิต สุขภาพใจแย่ลง และยิ่งแย่ไปกว่านั้นก็คือ นานๆเขา นอกจากกลิ่น มันมีเสียงเขย่าประตูตู้ตามมาเบาๆ ก็มักจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกๆๆของผู้หญิง สลับกับเสียงร้องของเด็ก
คุณภูมิ ตัดสินใจ คุยกับคุณพ่ออีกครั้ง และคุณพ่อก็เห็นว่าคุณภูมิดูโทรมลงจริงๆ คุณภูมิเลยเสนอให้คุณพ่อมาลองนอนในห้องคุณภูมิดูสักคืนซึ่งคุณพ่อก็ตกลง
ในคืนนั้นเป็นถ้าคุณภูมิจำไม่ผิดน่าจะเป็นคืนวันโกนก่อนจะเข้าวันพระ คืนนี้คุณพ่อหอบผ้าหอบผ่อนมานอนที่ห้องด้วยเพื่อดูว่าจะมีอะไรจริงไหม
นอนไปสักเกือบ3ทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววความผิดปกติ ปากก็ยังบ่นลูกชายไม่เลิก แต่พอเริ่มเข้า4ทุ่ม ในขณะที่สองพ่อลูกกำลังจะเข้าห้วงนินทรา จู่ๆก็มีเสียงเหมือนคนเอาเล็บมาครูดที่ตู้ ประตูและกระจก ตู้ไม้ใบนั้นก็ค่อยๆขยับกึกๆกั้กๆ
สองพ่อลูกทีนี้หันมองหน้ากัน แต่ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรก็มีเสียงเด็กร้องไห้ ดังก้องไปหมด จนคุณพ่อต้องลุกขึ้นมาและเดินดูจนรอบ
แต่ก็ไม่มีวี่แววจะเจอต้นตอของเสียง และในขณะที่กำลังจะเดินกลับมานอน คุณพ่อก็ต้องเดินผ่านตู้ไม้ใบนี้อีกครั้ง แกก็ทำจมูกฟุตฟิตๆ และถามคุณภูมิว่า มีอะไรมาตายในห้องไหม หรือได้เอาของกินมากินจนหนูเข้ามาแล้วตายในนี้หรือเปล่า
แต่คุณภูมิก็ปฏิเสธ เพราะปกติเขาไม่พกของกินเข้ามาในห้องนอนอยู่แล้ว
ในขณะที่คุยกัน จู่ๆตู้เสื้อผ้าก็สั่นไหว อย่างรุนแรงเหมือนมีคนถูกขังและพยามที่จะพังมันออกมา คุณพ่อที่อยู่ใกล้ตู้ที่สุด ก็สะดุ้งโหยง โดดตัวปลิวมาอยู่ข้างลูกชายทันที
สองพ่อลูกมองตู้ใบนั้นด้วยความกลัว เพราะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเขย่าเลย ไหนจะกลิ่นเน่าที่เริ่มส่งกลิ่มแรงขึ้นเรื่อยๆอีก คุณพ่อนึกได้ว่าใต้หมอนมีพระ เพราะคุณพ่อพึ่งถอดไปซุกใต้หมอนก่อนนอน จึงไปควานหยิบสร้อยพระขึ้นมาแล้วยืนไปข้างหน้า หวังได้แรงบุญพระช่วยขับไล่สิ่งแย่ๆออกไป ซึ่งมันก็ได้ผล เหตุการณ์ทุกอย่างค่อยๆสงบลง
พอทุกอย่างสงบ สองพ่อลูกก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆตู้อย่างกล้าๆกลัวๆ ทั้งคู่ช่วยกันสำรวจตู้อีกครั้ง เปิดๆปิด หมุนออกมาดูด้านหลัง เอาเก้าอี้มาปีนดูด้านบนก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร
และในขณะที่คุณพ่อกับคุณภูมิกำลังช่วยกันโยกตู้เข้าที่เดิม มันก็มีเสียงเคาะมาจากฝาหลังตู้เสื้อผ้า เสียงมันกลวงๆแปลกๆชอบกล คุณพ่อลองเคาะที่ฝาด้านหลังก็แปลกจริงๆ จึงตัดสินใจรื้อเอาฝาหลังออก ก็พบว่าด้านใน มันมีช่องอีกข่องนึง (มีฝา2ชั้น) และที่สำคัญคุณพ่อก็เจอต้นเหตุของกลิ่นเน่าแล้วด้วย
สองพ่อลูกมองไปยังถุงพลาสติกใสต้นเหตุนั้นเป็นตาเดียว และสิ่งที่อยู่ภายในถุงพลาสติกใส นั้นก็คือศพเด็ก จากขนาดตัวน่าจะเป็นแรกเกิดด้วยซ้ำ ศพเด็กที่ว่านี้ถูกแลปด้วยพลาสติกเเล้วพันด้วยเทปใสอย่างเเน่นหนา ก่อนที่จะถูกใส่ในถุงพลาสติกใสอีกชั้น ส่วนสภาพศพ ตอนนี้อืดบวม เนื้อตัวเขียวคล้ำ
สองพ่อลูกเห็นแบบนั้นก็ต้องช็อค แต่ในขณะที่กำลังช็อคกับศพเด็กอยู่นั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าทั้งคู่ และตะโกนใส่สุดปรอท ว่า
"มึงจะเอาลูกกูไปไหน ฮี่ๆๆๆๆ"
ทั้งคู่ตกใจมาก และเมื่อสังเกตุดีๆก็พบว่ารอบคอของเธอมีเเต่รอยกรีดด้วยของมีคมจนเหวอะหวะ
ในจังหวะนรกนั้น ทั้งคู่พากันโกยอ้าวออกจากออก และเมื่อวิ่งออกมา ประตูห้องนอนก็ปิดไล่หลังดังปัง
สองพ่อลูกต้องออกมานั่งสติกันนอกบ้านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เพราะเกิดมาก็ไม่เคยเจอผี ในระหว่างที่รอตำรวจ ก็ได้ไปถามคนในระแวกก็ไม่มีใครยอมบอก สุดท้ายก็ต้องติดสินบนไป2000บาทเป็นค่าเปิดปาก
เลยได้ทราบเรื่องว่า ครอบครัวของร้านขายเฟอร์ไม้แถวนี้ ครอบครัวนี้เป็นช่างไม้มีฝีมือ งานเขาจะไม่เหมือนคนอื่น แต่ก็ดันมีลูกสาวเป็นคนสติไม่ดี ท้องเพราะถูกคนเมาล้วงละเมิด คลอดมาลูกก็ตาย เเต่ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็หาศพไม่เจอเเล้ว ถ้าใครก็ไม่มีใครเห็น หากันอยู่หลายวันก็ไม่เจอ จนผ่านไปอีกอาทิตย์นึง ตัวเเม่ก็สติไม่ดีอยู่แล้วก็ไปปาดคอตัวเองจนตาย
ทางครอบครัวเลยเอาของใช้ของนางเเละลูกมาขายทิ้งไป เพราะไม่อยากเก็บไว้ และทำใจไม่ได้
เเต่ไม่คิดว่าจะเป็นเส้นผมบังภูเขาเพราะศพเด็กดันอยู่ด้านในตู้
ครอบครัวเลยนำศพกลับไปบำเพ๊ญกุศล ส่วนครอบครัวคุณภูมิก็ถวายตู้ให้กับวัดเพราะกลัว
จากการคาดเดาคนเป็นแม่น่าจะเอาศพลูกมาซ่อนไว้ด้านหลังตู้
โฆษณา