"เครื่องรางต้องสาป"
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้รับฟังมาอีกทีค่ะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณนพ
คุณนพได้เล่าเรื่องๆหนึ่งที่เป็นเรื่องเล่าสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นในครอบครัวของเขาให้ฟัง เรื่องราวทั้งหมด มันเกิดขึ้นเพราะเครื่องรางชิ้นหนึ่ง ที่อยู่ในการดูแลของครอบครัวของคุณนพ คุณนพไม่เคยเชื่อเลยจนกระทั่งต้องเสียลูกชายคนโตไป
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณตาหรือคุณพ่อของคุณนพเล่าเรื่องเครื่องรางอาถรรพ์ชิ้นหนึ่งที่อยู่ในการดูแลของครอบครัวของคุณนพมาหลายร้อยชั่วอายุคนให้ฟัง
เครื่องรางชิ้นนี้เป็นเครื่องรางขนาดเล็ก มันคือลูกสะกดขนาดประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ ลูกสะกดลูกนี้เป็นสีดำสนิทที่ถูกพันด้วย สายสิญจน์สีขาว ตามตำนานเล่าต่อกันมาว่าครอบครัวของคุณนพนั้นเป็นผู้มีวิชาคุณไสย์เล่นคาถาอาคมมาตั้งแต่โบราณกาลและได้รับการสืบทอดให้ดูแลลูกสะกดที่สะกดลูกนี้ ภายในจะมีดวงวิญญาณ รวมไปถึงสิ่งไม่ดีต่างๆที่ถูกสะกดไม่ให้หลุดเล็ดลอดไปไหน เพราะอาจจะสร้างหายนะให้ครอบครัวหรือผู้เกี่ยวข้องได้
จากรุ่นสู่รุ่นมีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเหมือนกันนั่นก็คือการทำพิธีขึ้นเป็นผู้ดูแลลูกสะกดลูกนี้โดยผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้ดูแลได้นั่นก็คือลูกชายคนโตของบ้านหรือ หลานชายคนโตของรุ่นนั้นๆ
โดยในพิธีกรรมหลักของการดูแลลูกสะกดลูกนี้นั่นก็คือจะต้องครองพรหมจรรย์ ถือศีล8 อย่างเคร่งครัด และทำพิธีบางอย่างที่เป็นพิธีเฉพาะของคนในตระกูลเท่านั้นในทุกๆ ขึ้นและแรม15ค่ำเสมอๆ
การดำเนินชีวิตของครอบครัวคุณนพแบบนี้เป็นไปเรื่อยๆจนมาถึงรุ่นของคุณนพ เมื่อพี่ชายคุณนพได้ทำการสืบทอดการดูแลต่อ และคุณนพก็มีครอบครัว และมีลูกชายฝาแฝด2คนเกิดขึ้นในบ้าน คือ น้องนุ กับน้องนะ
และเมื่อพี่นน พี่ชายของคุณนพเสียชีวิตลง (ด้วยวัย50กว่าๆกับโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แน่นอนว่ามรดกของตระกูลก็ต้องมีผู้รับสืบทอดต่อทันที)
แต่ในตอนนั้น น้องนุ ลูกชายคนโตพึ่งอายุเพียง 19ปีเท่านั้น ซึ่งวัย19 เป็นวัยที่ค่อนข้างจะหัวเลี้ยวหัวต่อ และต่อต้านอยู่พอสมควร
เพราะน้องนุ ลูกคนโต นิสัยค่อยข้างแข็งๆ ดูก้าวร้าว และไม่เชื่อสิ่งที่มองไม่เห็น ผิดกับน้องนะ แฝดคนน้อง ที่เชื่ออย่างหมดใจและนิสัยคนละขั้วกับพี่ชาย
น้องนุ พูดกับครอบครัว ชนิดที่ว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่รับสืบทอดการดูแลเครื่องรางดังกล่าวต่อและมองว่ามันเป็นความงมงาย เพราะตั้งแต่เกิดมา น้องนุไม่เคยเจอเรื่องแปลกๆที่เกี่ยวข้องกับเครื่องรางนี้เลยสักครั้งซึ่งนั้นยิ่งทำให้น้องนุ เชื่ออย่างหมดใจเลยว่า...ที่ครอบครัวดูแลสืบต่อกันมานั้น เพ้อเจ้อ
คุณนพ พยามพูดเกลี้ยกล่อมให้ลูกคนโตรับสืบทอดต่อ แต่ก็ต้องทะเลาะกันทุกครั้ง
และตอนนี้ลูกสะกดก็ขาดผู้ดูแลมาประมาณอาทิตย์กว่าๆแล้ว
แต่ทว่า เมื่อยิ่งขาดผู้ดูแล เรื่องแปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นกับทางค่อบครัวของคุณนพ โดยทางคุณพ่อของคุณนพ รวมไปถึงคุณนพเอง และภรรยา ต่างพากันป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ เริ่มฝันร้าย เห็นดวงวิญญาณผช.ผิวสีดำร่างใหญ่ หน้าตาดุดัน จ้องจะอาละวาดและทำร้ายทุกคนที่ฝันถึงเสมอ
สลับกับการฝันเห็นพี่นน พี่ชายที่เสียไปแล้ว เข้ามาค่อยช่วยเหลือ และพูดย้ำกับทุกคนในฝันเป็นประโยคเดียวกันและเดิมๆทุกครั้งเลยว่า
"รีบให้ไอ้นุมารับเป็นผู้ดูแลลูกสะกดให้ไวที่สุดเพราะกูเองก็จะช่วยไม่ไหวแล้วเหมือนกัน"
และนอกจากที่ครอบครัวจะพากันฝันในเรื่องเดียวกัน ก็ยังเริ่มพบเจอกับ ปัญหาชีวิต และอุบัติเหตุเข้ามาอย่างมากมาย เรียกว่าซวยสุดๆ งานมีปัญหา เงินติดขัด อุบัติเหตุแบบคาดไม่ค่อยนึก เลือดตกยางออกมาบ่อยมากขึ้น
คุณนพรู้สึกว่าหากมันมากไปกว่านี้กลัวว่าในที่สุดจะต้องทีคนตาย หรือ อาจจะมีอะไรที่มากไปกว่านั้นก็เป็นได้จึงไปขอร้องลูกชายคนโตอีกครั้ง แต่ก็ยังได้ทำตอบเดิมๆเลยคือ เขาไม่ต้องการรับสืบทอด และเขาต้องการมีครอบครัว
วันนั้นเรียกได้ว่าคุณนพทะเลาะกับลูกชายคนโตเสียงดังสนั่น น้องนะลูกชายคนเล็กที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เงียบผิดปกติ แถมมีสีหน้าไม่สู้ดีมาตลอด
จนเมื่อสงครามสองพ่อลูกจบลง น้องนะก็มาคุยกับคุณนพด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และบอกว่า ตัวเองเห็นพี่นุไม่มีหัวมาสักพักแล้ว
และก็มักจะเห็นเงาดำของผู้ชายตัวใหญ่ หัวเราะชอบอกชอบใจอย่างข้างพี่ชายเสมอ ยิ่งคนในครอบครัวผิดใจกันมากเท่าไหร่ดวงวิญญาณดวงนั้นก็ยิ่งดูสนุกมากยิ่งขึ้น
จนเมื่อครู่ น้องนะเห็นวิญญาณของลุงนน มาบอกเขาว่า เขาไม่สามารถช่วยต่อไหวแล้ว และไม่สามารถยื้อเวลาให้น้องนุได้อีกแล้ว ถ้าไม่รับสืบทอด น้องนุต้องตาย
แน่นอนว่าคุณนพต้องไปทะเลาะกับลูกชายคนโตอีกรอบ เเต่ก็ไม่เป็นผลอยู่ดี คราวนี้ไม่มีท่าทีจะจบลงง่ายๆด้วยเพราะครั้งนี้น้องนุดูโมโหร้ายและอาละวาดเหมือนคนขาดสติ และในช่วงที่กำลังชุลมุนอยู่นั้นเอง อยู่ๆ ชั้นวางของติดผนังก็ถล่มคว่ำลงมาใส่น้องนุเต็มๆ และนั้นก็ทำให้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในอาการช้อค เพราะ ร่างของน้องนุนอนแน่นิ่งไปพร้อมกับเลือดที่ค่อยๆไหลนองพื้น
ทางครอบครัวพยามช่วยกันยื้อชีวิตน้องนุ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรั้งจากความตายได้
ในช่วงที่จัดงานศพของน้องนุ น้องนะลูกคนรองเลยมาคุยกับคุณนพและพูดว่า จะเป็นคนรับมรดกนี้ต่อเอง และจะรับไวที่สุดด้วย
ทางครอบครัวจึงจัดพิธีและบายศรีตามจำนวนก่อนที่จะให้น้องนะขึ้นพานไหว้บรรพบุรุษและถือครองตัวเป็นโสดตลอดมา
ในทุกๆขึ้นและแรม15ค่ำ น้องนะจะต้องเข้าไปที่ห้องพระเพื่อสวดมนต์และทำพิธีกรรมบางอย่างกับลูกสะกดลูกนี้ทั้งคืน(เลี้ยงด้วยเลือด)
แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่น่าแปลกคือ ตั้งแต่น้องนะรับสืบทอดลูกสะกดลูกนี้เรื่องราววุ่นวายทั้งหมดในครอบครัวก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
จวบจนทุกวันนี้ น้องนะก็ยังไม่รู้เลยว่า อะไรกันแน่คือสิ่งที่พรากพี่นุไป และสิ่งที่น้องนะทำอยู่นั้น...มันคือสิ่งดีหรือไม่ดีกันแน่ เพราะน้องรู้แค่อย่างเดียวคือ มันหยุดหายนะในบ้านได้ก็เท่านั้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
