Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วิเคราะห์บอลจริงจัง
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
31 ต.ค. 2023 เวลา 05:23 • กีฬา
ลีโอเนล เมสซี่ กับดราม่า บัลลงดอร์สมัยที่ 8
ลีโอเนล เมสซี่ ได้บัลลงดอร์สมัยที่ 8 ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะกระแสข่าว มันมีทิศทางแบบนี้มาเป็นเดือนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ออกมา ไม่ได้มีคนเห็นด้วยไปซะหมด เพราะมีเสียงจำนวนมาก ทั้งโลกออนไลน์ และ โลกจริงที่บอกว่า คนที่ควรได้บัลลงดอร์มากกว่า คือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ต่างหาก
คัลลัม วิลสัน กองหน้านิวคาสเซิล บอกว่า "ฮาแลนด์คว้าความสำเร็จทุกอย่าง จริงอยู่คุณไม่ควรมองข้ามเมสซี่ที่ได้แชมป์โลกครั้งแรก แต่อย่าลืมว่า ตอนนี้เขาย้ายไปเล่นลีกในสหรัฐอเมริกา ที่มีคุณภาพต่างจากฮาแลนด์ที่เล่นในพรีเมียร์ลีกมาก"
เช่นเดียวกับ มิคาอิล อันโตนิโอ กองหน้าเวสต์แฮมกล่าวว่า "ถ้าหากฮาแลนด์ไม่ได้บัลลงดอร์ในปี 2023 นี่จะเป็นเรื่องอื้อฉาวแน่"
2
ก่อนที่เราจะไปดูดราม่าในการประกาศรางวัล จำเป็นมาก ที่เราต้องรู้ผลงานส่วนตัวของทั้งคู่ และเงื่อนไขการโหวตปีนี้ เพื่อการเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
1- คนที่มีสิทธิ์โหวต คือนักข่าวจากชาติที่มีฟีฟ่าเวิลด์แรงค์กิ้ง อันดับ 1-100 ของโลกเท่านั้น ดังนั้นปีนี้ จึงไม่มีนักข่าวไทยที่โหวตได้ เพราะไทยอยู่อันดับ 112 ของโลก
3
2- การนับผลงาน จะนับระหว่างเดือน สิงหาคม 2022 ถึง มิถุนายน 2023 นับเป็นซีซั่น (2022-23) ไม่ได้นับเป็นปีปฏิทิน แปลว่าผลงานของเมสซี่ที่ได้แชมป์ลีกส์ คัพ กับอินเตอร์ ไมอามี่ ก็จะไม่ถูกนับรวมด้วย
3- ถ้านับจำนวนประตู ที่ยิงได้ในฤดูกาล 2022-23 เมสซี่ยิงได้ 41 ลูก ฮาแลนด์ยิงได้ 56 ลูก
4- เมเจอร์โทรฟี่ เมสซี่ได้แชมป์ฟุตบอลโลก และ แชมป์ลีกเอิง ส่วนเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ได้ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
1
5- ความสำเร็จส่วนตัว เมสซี่ได้เป็น MVP ในฟุตบอลโลก 2022 ส่วนฮาแลนด์ ได้ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก, นักเตะยอดเยี่ยมทุกสถาบันของฟุตบอลอังกฤษ, ดาวซัลโวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ รางวัลรองเท้าทองคำ
ว่ากันง่ายๆ คือเมสซี่ โดดเด่นมากในฟุตบอลโลก ส่วนกับสโมสรก็ธรรมดา ส่วนฮาแลนด์โดดเด่นมากในระดับสโมสร แต่ทีมชาติไม่เด่น เพราะนอร์เวย์ไม่ได้ไปฟุตบอลโลก
ทีนี้ กับคำถามว่า แล้วทำไมเมสซี่ได้รางวัลนี้ในปี 2023 คำตอบก็เห็นชัดอยู่แล้ว เพราะเขาคือ MVP ของฟุตบอลโลก และพาอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ถ้าเรามองในมุมว่าฟุตบอลโลกคือ "ที่สุด" ของโลกลูกหนัง บทสนทนานี้ก็ควรจะจบ ไม่ต้องพูดต่อกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม การถกเถียงก็ยังคงมีอยู่ถึงตรงนี้ ว่าเมสซี่ สมควรได้รับบัลลงดอร์ที่ 8 ขนาดไหน นั่นเพราะบรรทัดฐานของการโหวตรางวัลเปลี่ยนไปตลอด และก็บังเอิญที่แทบทุกครั้ง คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ คือเมสซี่
ข้อถกเถียงมีอะไรบ้างเราจะไปไล่เรียงกันแบบนี้ครับ
-------------------
[ 1- ประโยคว่า "แชมป์โลกควรได้บัลลงดอร์ด้วย" ]
มีหลายคนบอกว่า เมสซี่ได้แชมป์โลก ก็ควรได้บัลลงดอร์ทันที ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น
ถามว่าเราจะอ้างอิงจากหลักการนี้ได้ไหม? คือก็พอได้ แต่ถ้าเราย้อนไปดูบอลโลกสามครั้งที่ผ่านมาล่ะ
2010 สเปนแชมป์โลก - บัลลงดอร์ คือเมสซี่
2014 เยอรมันแชมป์โลก - บัลลงดอร์ คือคริสเตียโน่ โรนัลโด้
2018 ฝรั่งเศสแชมป์โลก - บัลลงดอร์ คือลูก้า โมดริช
จะเห็นได้ว่าบอลโลก 3 ครั้งที่ผ่านมา คนที่ได้บัลลงดอร์ ก็ไม่ใช่นักเตะจากทีมแชมป์โลกเสียหน่อย แล้วทำไมอยู่ๆ ในปี 2022 คนที่ได้แชมป์โลก ถึงจะได้บัลลงดอร์ขึ้นมาล่ะ?
1
-------------------
[2- ประโยคว่า "นักเตะ MVP บอลโลก ควรได้บัลลงดอร์ด้วย" ]
บางคนบอกว่า ถ้าคุณเล่นดีสุดๆ เป็น MVP ในบอลโลก มันก็ควรมอบบัลลงดอร์ให้แล้วมั้ย
ในจุดนี้ ถ้าเราย้อนไปดูในประวัติศาสตร์ จะพบกว่า น้อยครั้งมาก ที่นักเตะ MVP ในบอลโลกจะได้บัลลงดอร์ด้วย โดยเฉพาะถ้าคุณมีผลงานไม่เด่นจริงๆ ในระดับสโมสร
1998 MVP โรนัลโด้ - บัลลงดอร์ คือซีเนอดีน ซีดาน
2002 MVP โอลิเวอร์ คาห์น - บัลลงดอร์ คือโรนัลโด้
2006 MVP ซีเนอดีน ซีดาน - บัลลงดอร์ คือฟาบิโอ คันนาวาโร่
2010 MVP ดีเอโก้ ฟอร์ลัน - บัลลงดอร์ คือเมสซี่
2014 MVP เมสซี่ - บัลลงดอร์ คือคริสเตียโน่ โรนัลโด้
2018 MVP ลูก้า โมดริช - บัลลงดอร์ คือลูก้า โมดริช
จะเห็นว่าในรอบหลายสิบปี จะมีแค่ ลูก้า โมดริชคนเดียวเท่านั้นที่เป็น MVP ในฟุตบอลโลกด้วย แล้วก็ได้บัลลงดอร์ด้วย แต่ประเด็นคือโมดริชได้อานิสงส์ จาก MVP บอลโลก บวกกับการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ดังนั้นจึงเป็นแรงบวกให้คว้าบัลลงดอร์ได้
แต่เคสของเมสซี่ เขาได้ MVP แค่ในบอลโลกอย่างเดียว แต่บอลสโมสรไม่ได้เด่นขนาดนั้น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย คำถามคือทำไมคราวนี้ คนโหวตถึงเปลี่ยนแนวทางแล้วโหวตให้เมสซี่ล่ะ?
-------------------
[ 3- คำถามที่ข้องใจจากปี 2010 ]
ย้อนกลับไปในปี 2010 เมสซี่ได้บัลลงดอร์ ทั้งๆ ที่ได้แชมป์แค่ลาลีกา 1 โทรฟี่ และตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก โดยเหตุผลที่เมสซี่ได้รางวัลในคราวนั้นคือ ผลงานการยิงประตู 34 ลูก จาก 35 เกมในลาลีกา คนโหวตมองว่า คนยิงประตูเยอะสุด มีผลงานส่วนตัวเด่นสุด ก็ควรได้บัลลงดอร์สิ จะได้แชมป์โลกหรือไม่ ก็ไม่ได้สำคัญ
คนโหวตไม่เลือกชาบี และ อิเนียสต้า ที่ได้แชมป์โลก และไม่เลือกเวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ที่ได้ทริปเปิ้ลแชมป์กับอินเตอร์ มิลาน และ รองแชมป์โลกกับเนเธอร์แลนด์ (สไนจ์เดอร์ไม่ติดท็อปทรีด้วยซ้ำ) แต่พวกเขาไปเลือกเมสซี่แทน
ถ้าหากยึดกับหลักการนี้ คือคนยิงเยอะสุด ผลงานส่วนตัวเด่นสุด ก็ควรได้บัลลงดอร์ จะมีเหตุผลอะไรที่เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ จะไม่ได้รางวัลนี้ ในปี 2023 เพราะเขายิง 56 ลูกจาก 57 เกม เป็นดาวซัลโวทุกรายการ และคว้า 3 แชมป์ระดับสโมสร
1
สรุปคือในปี 2010 การโหวตเป็นใจให้เมสซี่ (คนยิงประตูเยอะ ควรได้บัลลงดอร์ บอลโลกไว้ทีหลัง) จากนั้นในปี 2023 การโหวตก็เป็นใจให้เมสซี่อีกครั้ง (ควรให้ความสำคัญกับบอลโลกมากกว่า ยิงเยอะไว้ทีหลัง) คือไม่ว่าจะทิศทางไหน คนที่ได้ประโยชน์ก็คือเมสซี่ทุกครั้ง
-------------------
[4- คำถามที่ข้องใจจากปี 2012 ]
ย้อนกลับไปในปี 2012 เมสซี่ได้บัลลงดอร์ จากผลงานยิงไป 91 ประตู ในปีปฏิทิน ผลงานส่วนตัวยอดเยี่ยม ปีนั้นเมสซี่ได้โกปา เดล เรย์ ถ้วยเดียว พลาดลาลีกา พลาดชปล.
ปีนั้น มีทัวร์นาเมนต์ทีมชาติ ยูโร 2012 ด้วย ซึ่งสเปนได้แชมป์ แต่ผู้โหวตก็ไม่ให้คุณค่ากับถ้วยยูโร พวกเขาระดมเลือกเมสซี่มาเป็นอันดับหนึ่ง
ตัดกลับมาปี 2021 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงประตู 54 ลูก จากการลงเล่น 45 นัด ทำลายสถิติยิงประตูในบุนเดสลีกามากที่สุดตลอดกาล และคว้าดาวซัลโวยุโรป ส่วนเมสซี่ สถิติยิงประตูน้อยกว่า แต่มีโทรฟี่ทีมชาติ "โคปาอเมริกา" แชมป์ระดับทวีปของฝั่งอเมริกาใต้ ซึ่งปรากฏว่า ผู้โหวตกลับเลือกจะให้คุณค่ากับแชมป์ทีมชาติของเมสซี่ มากกว่าจำนวนประตูของเลวานดอฟสกี้ ส่งผลให้ เมสซี่ชนะบัลลงดอร์อีกครั้งในปี 2021
ซึ่งก็เหมือนเดิม คือไม่ว่าจะทิศทางไหน จะปี 2012 (จำนวนประตู มาก่อนความสำเร็จในทีมชาติ) หรือ 2021 (ความสำเร็จในทีมชาติ มาก่อนจำนวนประตู) มันก็ลงเอยว่าคนที่ได้ประโยชน์ก็คือเมสซี่อีกแล้ว
-------------------
แน่นอน ดราม่ามีเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องให้ความเป็นธรรมกับเมสซี่ คือ "เขาจังหวะดี" ที่การประกาศรางวัลบัลลงดอร์ มีการปรับเปลี่ยนกฎพอดี
ตัวอย่างเช่น ในปี 2010 ตอนที่เขาได้รางวัล ตอนนั้นบัลลงดอร์ ถูกฟีฟ่าควบรวม และใช้ชื่อรางวัลว่า "ฟีฟ่า บัลลงดอร์" ในปีนั้น ฟีฟ่าเปลี่ยนกฎจากเดิม เช่น ปกติจะให้แค่นักข่าวฟุตบอลเป็นคนโหวต ฟีฟ่ามามุกใหม่ ให้กัปตันทีมชาติ, โค้ชทีมชาติ, นักข่าวทั่วโลก โหวตกันมั่วไปหมด
โทมัส แฟร์มาเล่น กัปตันเบลเยี่ยมโหวตให้ เชส ฟาเบรกาส, ไบรอัน ร็อบสัน เฮดโค้ชทีมชาติไทย โหวตให้ดาบิด บีญ่า, กัปตันหมู่เกาะโซโลม่อน โหวตให้บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์
ต่างคนต่างโหวตให้คนที่ตัวเองชอบ บางคนก็เป็นเพื่อนกัน โหวตให้กัน โดยไม่ได้ดูผลงานอะไรทั้งสั้น บางคนก็โหวตให้นักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดที่ตัวเองรู้จัก
เมื่อไม่ได้ยึดผลโหวตของนักข่าวอย่างเดียว (ถ้านับนักข่าวอย่างเดียว สไนจ์เดอร์ จะชนะบัลลงดอร์) พอมีคะแนนจากความนิยมมารวมแบบนั้น ทำให้เมสซี่ได้เปรียบเพราะมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด และได้บัลลงดอร์ในปี 2010
เราจะเห็นได้ว่า มันไม่ใช่ความผิดของเขา แต่มันลงเอยว่าเขาได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนกฎเกณฑ์พอดี
แล้วสำหรับเมสซี่ เขาจะทำยังไงได้ เมื่อสรุปแล้ว มีคนโหวตให้มากที่สุด เขาก็ต้องมารับรางวัลแค่นั้น
-------------------
บทสรุปของเรื่องนี้ ส่วนตัวผมคิดว่า การโหวตที่ไม่มีหลักการอะไร เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามอารมณ์ของผู้โหวตง่ายๆ แบบนี้ ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของบัลลงดอร์ถูกลดทอนมาเรื่อยๆ
ความเห็นหนึ่งจากที่มีคนกดไลค์มากที่สุดในเว็บไซต์ เลกิ๊ป คอมเมนต์ว่า "บัลลงดอร์ก็ดูด้อยค่ามากอยู่แล้วนะ แต่พอผลรางวัลออกมาแบบนี้ มันยิ่งไม่เหลือค่าอะไรอีกเลย"
จริงๆ ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่คุณค่ามันไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิม อันนี้ก็ต้องยอมรับ
เมสซี่ เป็นนักเตะที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์แน่นอน ไม่มีใครเถียงในเรื่องนี้ แต่เขาควรได้รับบัลลงดอร์ถึง 8 ครั้ง เลยหรือ? นี่คือคำถาม
โรนัลดินโญ่ ได้บัลลงดอร์ 1 ครั้ง เมสซี่ได้ 8 ครั้ง ช่องว่างของ 2 คนนี้ในระดับฝีเท้า ห่างกันขนาดนั้นเลยหรือ
เมสซี่คนเดียว ได้บัลลงดอร์มากกว่านักเตะเยอรมันทั้งประเทศรวมกัน (7 ครั้ง - ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ x2, คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ x2, เกิร์ด มุลเลอร์ x1, โลธาร์ มัทเทอุส x1, มัทเธียส ซามเมอร์ x1)
เมสซี่คนเดียว ได้บัลลงดอร์มากกว่านักเตะฝรั่งเศสทั้งประเทศรวมกัน (7 ครั้ง - มิเชล พลาตินี่ x3, เรย์มงด์ โกปาx1 , ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็งx1, ซีเนอดีน ซีดานx1 ,คาริม เบนเซม่า x1)
เมสซี่คนเดียว ได้บัลลงดอร์มากกว่านักเตะบราซิลทั้งประเทศรวมกัน (5 ครั้ง - โรนัลโด้ x2, ริวัลโด้ x1, โรนัลดินโญ่ x1, กาก้า x1)
พอมาไล่เรียงดูแล้ว มันเป็นตัวเลขที่เหลือเชื่อจริงๆ
สำหรับในปี 2023 โอเค คุณจะมอบรางวัลให้เมสซี่ก็ได้ แต่คราวต่อๆ ไป คนที่ได้ MVP บอลโลก ก็ต้องได้บัลลงดอร์ด้วยนะ ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีก ปีนี้เมสซี่ได้ประโยชน์ แต่คราวหน้าใช้กฎอื่น แบบนี้ก็ไม่ไหว
รางวัลอะไรก็ตาม ถ้าสูญเสียมาตรฐานไปแล้ว ก็จะถูกลดทอนคุณค่าแน่นอน ก็ได้แต่หวังว่าความขลังของบัลลงดอร์จะยังคงอยู่ ไม่เสื่อมสลายลงไปครับ
ปิดท้ายที่บทสัมภาษณ์ของซลาตัน อิบราฮิโมวิช ผู้สวนทุกกระแสบนโลกใบนี้ เขามองว่า นักเตะอย่าไปคิดมาก ว่าจะได้บัลลงดอร์หรือไม่ เอาจริงๆ มันไม่ได้มีความหมายอะไรขนาดนั้นต่ออาชีพนักเตะ
อิบราฮิโมวิชกล่าวว่า "บัลลงดอร์ก็เป็นรางวัลที่ดี แต่รู้อะไรไหม คนอย่างผม ไม่ต้องการรางวัลนั่น เพื่อพิสูจน์ว่าผมคือคนที่เก่งที่สุดหรอกนะ"
ซึ่งก็คล้ายกับที่เมสซี่ ให้สัมภาษณ์หลังจากได้รับรางวัล มีนักข่าวไปถามว่า การได้บัลลงดอร์หนนี้ ทำให้คุณคือนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลแล้วหรือไม่? เมสซี่ตอบว่า
"ผมไม่รู้ว่าผมเก่งที่สุดหรือเปล่า ผมไม่เคยถามตัวเองแบบนั้น และผมก็ไม่สนใจด้วย แต่การที่ผู้คนบอกว่า ผมเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดก็เป็นเกียรติมากแล้ว เพราะเด็กทุกคนเมื่อเล่นฟุตบอลก็ฝันว่าอยากจะอยู่จุดสูงสุดกันทั้งนั้น"
1
ยินดีกับผู้ชนะลีโอเนล เมสซี่ จากอินเตอร์ ไมอามี่ ที่ได้บัลลงดอร์ครั้งที่ 8 และเป็นนักเตะคนแรกที่เล่นอยู่กับสโมสรนอกยุโรปที่ได้รางวัลนี้
แต่แน่นอน มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ผู้คนต้องถกเถียงกันไปอีกนาน ว่าเขาควรได้บัลลงดอร์มากถึง 8 ครั้งจริงๆ หรือ
#8ballondor
1
12 บันทึก
61
2
21
12
61
2
21
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย