31 ต.ค. 2023 เวลา 09:42 • ประวัติศาสตร์

ย้อนตำนาน "ผีแม่นาก" จากเรื่องเล่าชาววังสู่ปริศนาหน้าผากนางนากที่หายไป

ย้อนตำนานประวัติศาสตร์ “ผีแม่นาก” หนึ่งในผีที่ป๊อปปูลาร์ที่สุดของไทย บ้างก็ว่ามาจากตำนาน บ้างก็ว่ามีเค้าโครงจริง และบ้างก็ว่าเป็นเรื่องเล่าที่ถูกเล่าขานต่อๆ กันมา ซึ่งสันนิษฐานว่าผีนางนากถูกเล่ากันในหมู่ชาวบ้านตั้งสมัยรัชกาลที่ 4 โดยเนื้อเรื่องในแต่ละยุคสมัยมีจุดที่เหมือนกันคือ ความผูกพันระหว่าง “นางนาก” สาวชาวบ้านแห่งท้องทุ่งพระโขนง กับ “พ่อมาก” ชายสยามที่ต้องไปเป็นทหารรับใช้ชาติ และต้องปล่อยให้นากเมียรักที่กำลังตั้งท้องต้องอยู่เรือนเพียงลำพัง
โศกนาฏกรรมความรักเริ่มต้นระหว่างที่พ่อมากกำลังออกรบ แม่นากก็ได้มาตายจากระหว่างการคลอดลูก กลายเป็น “ผีตายท้องกลม” ที่ยังคงวนเวียนมาเฝ้ารอพ่อมากที่ริมท่าน้ำในทุกพลบค่ำ ชาวท้องทุ่งพระโขนงต่างเล่าลือของความดุ ความเฮี้ยนของนางนาก ต่อเมื่อพ่อมากกลับมา เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่นากและลูกน้อยอยู่นานโดยไม่รู้ว่าตนอยู่ร่วมเรือนเดียวกับผี
เรื่องราวของแม่นากโยงไปถึง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในแผ่นดินรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 5 และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ตั้งแต่ในแผ่นดินรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5 และในตำนานก็กล่าวถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์ว่าเป็นผู้ที่เข้ามาโปรดและปราบนางนาก รวมทั้งเป็นผู้เจาะกระโหลกหน้าผากของนางนากเพื่อเปิดทางให้วิญญาณได้เดินทางไปสู่ภพภูมิใหม่ ซึ่งกระโหลกนางนากชิ้นนั้นยังคงเป็นปริศนาว่ามีจริงหรือไม่
ในหนังสือประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) เรียบเรียง โดย มหาอำมาตย์ตรี พระยาทิพโกษา (สอน โลหนันทน์) ได้เล่าเรื่องแม่นากพระโขนงไว้ว่า ลือกันว่าปิศาจนางนากหลังจากตายก็มาช่วยผัววิดน้ำเข้านาจนทำให้ชายผู้ผัวมีเมียใหม่ไม่ได้ อีกทั้งผู้คนก็ไม่สามารถเดินเรือในคลองพระโขนง แม้แต่พระสงฆ์ในวัดพระโขนงยังโดนหลอก แค่ได้เสียงก๊อกแก๊กก็เหมาว่าเป็นผีนางนากไปหมด
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) รู้เรื่องจึงลงไปค้างที่วัดมหาบุศย์ พระโขนง พอค่ำลงท่านก็ไปนั่งอยู่ปากหลุมแล้วเรียกนางนากขึ้นมาสนทนา พูดจาตกลงกันจนท้ายที่สุดท่านได้เจาะเอากระดูกหน้าผากนางนากมาด้วย แม้การกะเทาะเอากะโหลกหน้าผากศพฟังดูน่าสยองขวัญ แต่ตามคตินิยมของพราหมณ์ในยุคนั้นถือเป็นการเปิดทางให้วิญญาณที่ตายผิดธรรมชาติได้ไปเกิดในภพภูมิใหม่
ท่านได้นำกระดูกแผ่นนั้นมาขัดจนเป็นมัน ลงอักขระยันต์แล้วเจาะเป็นปั้นเหน่งคาดเอว ครั้นท่านชราภาพก็ได้มอบปั้นเหน่ง กระดูกหน้าผากนางนากไว้กับหม่อมเจ้าพระพุทธบาทปิลันทน์ และตกทอดมาถึงพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว. เจริญ อิศรางกูร) เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ต่อมาเชื่อกันว่ากระดูกหน้าผากนางนากได้ตกมาอยู่กับพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ม.ร.ว. อภิเดช อาภากร ได้บันทึกไว้ว่าหากเรื่องนี้เป็นจริง เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ น่าจะทรงได้กะโหลกแม่นากมาจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว. เจริญ) เพราะช่วงนั้นพระองค์ทรงทำงานที่กรมทหารเรือ และทรงเป็นครูสอนที่โรงเรียนนายเรือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดระฆังฯ แต่ทั้งหมดนี้เป็นข้อสันนิษฐาน ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด
ครั้งหนึ่งหม่อมเจ้าหญิงดวงทิพย์โชติแจ้งหล้า อาภากร และ ม.ร.ว.ทิพภากร อาภากร (ธิดาของพลเรือเอก หม่อมเจ้าครรชิตพลอาภากร) ยืนยันว่า กระดูกหน้าผากนางนากนี้ได้เคยเก็บอยู่ที่วังของท่านมาเป็นเวลานานต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ได้มาขอเพื่อทำพิธีบวงสรวงเมื่อคราวสร้างภาพยนตร์เรื่องแม่นากพระโขนง จากนั้นก็ไม่ได้รับกลับคืนมาอีก
โฆษณา