4 พ.ย. 2023 เวลา 03:00 • ท่องเที่ยว

ชวนส่อง Silicon Valley จากทุกมุมโลก มีที่ไหนบ้าง?

หากพูดถึงศูนย์กลางนวัตกรรมและไอทีของโลกก็คือ ซิลิคอนแวลลีย์ (Silicon Valley) มาจากคำว่า ‘Silicon’ หมายถึงชิป อันเป็นชิ้นส่วนสำคัญในระบบคอมพิวเตอร์ และ ‘Valley’ ที่มาจากหุบเขาในบริเวณนั้น โดยคนแรกที่บัญญัติคำนี้ขึ้นมาคือนายดอน โฮเฟลอร์ (Don Hoefler) นักข่าวชาวอเมริกัน
ไม่ใช่เพียงแต่อเมริกา มีหลายประเทศที่ถูกยกให้เป็น Silicon Valley เพราะความเจริญก้าวหน้าในทางนวัตกรรมไอทีและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย
📍ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา (San Francisco, USA)
หลายร้อยบริษัทชื่อดังระดับโลกอยู่ที่นี่ เช่น Adobe Systems, Apple Inc., Cisco Systems, Facebook, Google, Hewlett Packard, Intel, SanDisk, Oracle Corporation, Yahoo ซึ่งเป็นที่หมายปองของแรงงานที่จบด้านวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไม่น้อย เพราะความมั่นคง สวัสดิการดี นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายเพราะมีหลายเชื้อชาติทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก ของเอเชียก็จะมีจีน อินเดีย ไต้หวัน หรือแม้แต่ไทยเองก็ตาม
ช่วงแรกเริ่มนั้นถือเป็นแหล่งพัฒนาโทรเลข วิทยุ เทคโนโลยีพาณิชย์ทางด้านการทหาร เคยมีการส่งโทรเลขไร้สายจากเรือรบอเมริกันในอ่าวซานฟรานซิสโกเพื่อแจ้งเตือนชัยชนะของเรืออเมริกาในฟิลิปปินส์ช่วงสงครามสเปน - สหรัฐอเมริกาในปี 1898
1
ปัจจุบัน Silicon Valley เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญด้านไอทีและนวัตกรรมของโลก และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้สหรัฐอเมริกายังครองความเป็นมหาอำนาจโลก
📍บังคาลอร์ อินเดีย (Bangalore, India)
อินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ ‘แรงงาน’ ที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีสูง โดยมีการขนานนามให้เมืองแห่งนี้เป็น ซิลิคอนแวลลีย์แห่งอินเดียว เพราะมีหลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ (Robotics) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีด้านอาหาร (food tech) เทคโนโลยีทางการเงิน (fintech)
4
นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Samsung และมีบริษัทด้านไอทีรายใหญ่ของอินเดียอย่าง Infosys และ Wipro อีกด้วย
3
📍เทลอาวีฟ อิสราเอล (TEL Aviv, Israel)
เทลอาวีฟเป็นย่านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่สำคัญของอิสราเอลโดยมีประชากรเพียงแค่ 4 แสนคนเท่านั้นจึงถือเป็น Silicon Valley อีกแห่งหนึ่งของโลก บางทีก็เรียกอีกชื่อคือ Silicon Wadi
อิสราเอลถูกมองว่าเป็น ชาติแห่งสตาร์ทอัพด้วยการเป็นสถานที่ตั้งธุรกิจจำนวนมากกว่าประเทศอื่น ๆ และกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ไซเบอร์ ปัญญาประดิษฐ์ เกมออนไลน์ และเกษตรกรรมที่มีเทคโนโลยีสูง
2
📍เซินเจิ้น จีน (Shenzhen, China)
ปัจจุบัน จีนก้าวขึ้นมาเป็นคู่ต่อสู้กับสหรัฐฯ ในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ เทคโนโลยี นวัตกรรม เพราะจีนมีจำนวนบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงมากกว่า 14,000 แห่ง กล่าวได้ว่า สัดส่วน 40% ของ GDP เมืองเซินเจิ้นมาจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นสำคัญ โดยมียักษ์ใหญ่เทคโนโลยี ได้แก่ Tencent Holdings และ Huawei Technologies มีพนักงานรวมกัน 234,000 คน ปัจจุบัน เซินเจิ้นติด 1 ใน 5 เมืองชั้นนำของโลกที่มีที่อยู่อาศัยราคาแพงที่สุด
📍สตอกโฮล์ม สวีเดน (Stockholm, Sweden)
สตอกโฮล์ม เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ได้ฉายาว่า Superstar เทคโนโลยีเช่นเดียวกัน มีแรงงานจำนวนกว่า 18% ของเมืองเป็นนักเขียนโค้ด ภาคเทคโนโลยีในสตอกโฮล์มเพิ่งเกิดในปี 2009 ภายในเวลาเพียง 5 ปี มีจำนวนเงินลงทุนมากถึง 3 เท่าจำนวน 377 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีบริษัทมากกว่า 22,000 แห่ง และกำเนิดบริษัทระดับโลกอย่าง Spotify บริการสตรีมเพลง และ King บริษัทเกมส์
ผู้เรียบเรียง : ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว Political Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : บริษัท ก่อการดี จำกัด
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
Source:
โฆษณา