ข้อมูลดังล่าว อาจดูเหมือนว่า Active Fund จะให้ผลตอบแทนสูงกว่า Passive Fund เพราะมีผู้เชี่ยวชาญบริหารสินทรัพย์ แต่จริงๆ แล้ว ผลตอบแทนของกองทุน Active Fund จะอาศัยความสามารถของผู้จัดการกองทุน จึงมีโอกาสที่ผู้จัดการกองทุนจะสร้างผลตอบแทนชนะหรือแพ้ดัชนีก็ได้ และเมื่อกองทุนประเภทนี้มักมีการเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการในระดับสูง (บางกองอาจสูงกว่า 2%) ซึ่งยิ่งค่าธรรมเนียมสูงขึ้นเท่าไหร่ หมายความว่าผู้จัดการกองทุนต้องสร้างผลตอบแทนชนะดัชนีมากขึ้นเท่านั้น เพื่อชดเชยกับค่าธรรมเนียมที่อยู่ในระดับสูง
เริ่มต้นลงทุน 100,000 บาทในกองทุนหุ้น 2 กองทุนคือ Active Fund ที่มีค่าธรรมเนียมการจัดการปีละ 2.0% และ Passive Fund ที่มีค่าธรรมเนียม 0.5% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนให้ผลตอบแทน 7% ต่อปี เท่ากัน เมื่อผ่านไป 20 ปี จะมีมูลค่า ใน Active Fund 265,330 บาท แต่มูลค่าใน Passive Fund จะสูงถึง 352,365 บาท หรือมากกว่า active fund ถึง 33%
➡️ผลตอบแทนของ Passive Fund vs. Active Fund
นักลงทุนอาจคิดว่า Active Fund ให้ผลตอบแทนสูงกว่า Passive Fund เพราะมีการบริหารพอร์ตลงทุนแบบเชิงรุก แต่เมื่อดูข้อมูลในอดีต 10 ปีที่ผ่านมา กลับพบว่ากองทุนรวมส่วนใหญ่นั้นให้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาด
เมื่อนักลงทุนเข้าใจแล้วว่า Active Fund มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง หรือ ต่ำกว่าตลาดก็ได้ ดังนั้น ควรเลือก Active Fund ก็ต่อเมื่อมั่นใจในฝีมือผู้จัดการกองทุนว่าสามารถสร้างผลตอบแทนชนะตลาดได้จริงๆ หรือเชื่อในสไตล์การลงทุนของกองทุนนั้นว่าจะชนะตลาดได้ในสภาวะตลาดช่วงนั้น เช่น ลงทุนในกองทุนหุ้นคุณภาพ (Quality) ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เป็นต้น