CANVAS HOUSE ผสานพื้นที่อยู่อาศัยในบ้านหลากฟังก์ชัน
ในย่านที่พลุกพล่านย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ อย่าง “ลาดพร้าว” ซึ่งมีสภาพแวดล้อมหนาแน่นไปด้วยอาคารสูงทั้งคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน แต่ด้วยความต้องการที่หลากหลายของการใช้พื้นที่ในบ้านหลังนี้ ที่แทบจะรวมทุกฟังก์ชันเอาไว้ด้วยกัน ทั้งการอยู่อาศัย และพื้นที่ทำงานให้เป็นหนึ่งเดียว สามารถออกแบบออกมาได้อย่างเป็นสัดส่วน และลำดับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม กับการใช้งานพื้นที่เพียง 900 ตารางเมตรให้ออกมาได้อย่างน่าสนใจ จนทำให้บ้านหลังนี้เป็นอีกตัวอย่างของการออกแบบบ้านในเมืองให้เต็มไปศักยภาพ
บ้านสีขาวสะดุดตาหลังนี้ รวมรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย เนื่องจากเจ้าของบ้านทำพื้นที่ให้เป็นสตูดิโอสำหรับทำงานแบรนด์เสื้อผ้าและสตูดิโอสำหรับซ้อมเต้น โดยพื้นที่สตูดิโอทั้งสองนี้จะเป็นโซนที่อนุญาตให้บุคคลภายนอกนั้นเข้ามาร่วมใช้สอยในพื้นที่ได้เช่นกัน ในขณะเดียวกันนั้นโซนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการพักผ่อน ห้องพักพนักงานนั้นก็มีการจัดสรรพื้นที่โดยจัดการลำดับความเป็นส่วนตัวได้ตามการใช้งาน
Unknown Surface Studio ผู้ออกแบบบ้านหลังนี้ได้ใช้ “ทางโจร” เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ที่แบ่งระหว่างผู้อยู่อาศัยกับบุคคลภายนอก ที่ถูกแยกออกแต่ยังเสมือนอยู่ในพื้นที่เดียวกันอยู่ โดยการออกแบบนั้นใช้ผนังซ่อน ประตูลับที่เนียนตา กลมกลืนไปกับผนัง ประตูเกือบทุกบานในบ้านก็จะไม่ใช้อุปกรณ์ติดตั้งอย่างลูกบิดประตู ความพิเศษนี้มีแต่คนที่อยู่อาศัยภายในบ้านจะรู้ทางเข้าออกว่าเชื่อมไปยังส่วนพื้นที่อื่น ๆ ของตัวบ้านได้
องค์ประกอบหลักของบ้านที่เป็นจุดเด่นคือ ผนังผืนใหญ่ทึบสีขาวสูง 4 ชั้นที่ออกแบบแบ่งความเป็นส่วนตัวจากสภาพแวดล้อมเพื่อนบ้าน โดยคิดถึงมุมมองภายในสู่ภายนอกให้ต่อเนื่องสัมพันธ์กัน มุมมองภายนอกที่เข้ามายังในบ้านจะสามารถเห็นคนขึ้นลงบันไดหรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่ส่วนสตูดิโอ แต่จะไม่สามารถมองเห็นส่วนพื้นที่ส่วนตัวส่วนอื่น ๆ ภายในบ้านได้ ผู้ออกแบบใช้ผนังยื่นเข้ามาช่วยเรื่องมุมมองที่ให้ความเป็นส่วนตัว และฟาซาดของอาคารที่สามารถเลือกเปิด-ปิดได้ในแต่ละมุมองภายในบ้าน
การจัดวางอาคารจะให้ชิดมุมฝั่งขวาเพื่อเหลือพื้นที่ดินในด้านฝั่งซ้ายสำหรับพื้นที่สีเขียว จัดสวน เพิ่มความสดชื่น และเปิดให้แสงลมธรรมชาติเข้ามาได้ อีกทั้งเลย์เอาท์ก็ถูกจัดวางอย่างเรียบง่ายตามการใช้งานโดยการแยกฟังก์ชันตามลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน พื้นที่บริเวณชั้น 1 ที่เป็นส่วนสตูดิโอสำหรับถ่ายงานนั้นออกแบบมาเป็นโถงสูง และดีไซน์ไฟพาแนลไลท์ให้เพียงพอสำหรับการทำงานในสตูดิโอ ส่วนด้านหลังที่เชื่อมต่อกันนั้นจะเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนและห้องครัว
บันไดภายนอกที่เชื่อมสู่ชั้นที่ 2 เป็นพื้นที่ของสตูดิโอซ้อมเต้น ออกแบบให้มีพื้นที่นั่งพักคอยขนาดกว้างขวาง โดยใช้ประโยชน์จากฟาซาดที่ช่วยปิดบังความไม่เรียบร้อยจากสายไฟฟ้าจากภายนอก สตูดิโอซ้อมเต้นยังสามารถเชื่อมต่อไปถึงพื้นที่ทำงานที่สามารถมองเห็นกิจกรรมเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ของพื้นที่ร่วมกันได้
บริเวณชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับเจ้าของบ้าน มีพื้นที่ห้องนั่งเล่นหลักมีใจกลางคอร์ตเป็นหินเกล็ดสีขาว และวางต้นไม้ใหญ่ที่สูงชะลูด คอร์ตนี้ช่วยให้แสงสว่างเข้าถึงและให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผ่อนคลายจากการทำงานในพื้นที่ชั้นล่างของบ้าน ชั้น 3 ยังเชื่อมไปสู่ชั้นที่ 4 ที่เป็นห้องนอนหลักของเจ้าของบ้านถูกออกแบบในสไตล์ Penthouse ที่สามารถมองเห็นวิวยอดต้นไม้จากคอร์ต อีกทั้งยังมีพื้นที่พักผ่อนอย่างสระว่ายน้ำที่เปิดรับวิวในเมืองในยามช่วงตะวันตกดิน
บ้านหลังนี้จึงเป็นการผสานพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงานได้อย่างลงตัว จากการแบ่งที่พื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนและเหมาะสมกับการใช้งานอย่างเรียบง่ายในทุก ๆ วันของผู้อยู่อาศัยที่สามารถใช้พื้นที่ในบ้านของตนเองได้อย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว
ออกแบบ: Unknown Surface Studio (https://www.facebook.com/unknownsurfacestudio)
เรียบเรียง: Lily J.
ภาพ: Rungkit Charoenwat
คลังสาระความรู้เรื่องบ้านและพรรณไม้ยังมีอีกมากมาย อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ www.baanlaesuan.com
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
