Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักฟุตบอล นอกกระแส
•
ติดตาม
9 พ.ย. 2023 เวลา 16:35 • กีฬา
EP.5 ธีโอโดรอส ซาโกรากิส - กัปตันเทพนิยายกรีซ
- ศึกฟุตบอลยูโร 2004 ที่ประเทศโปรตุเกส ได้เกิดการสร้างตำนานเทพนิยายขึ้นซึ่งจะคล้ายกับตอนศึกยูโร 1992 ที่เดนมาร์กสร้างตำนานเทพนิยายเดนส์ผงาดคว้าแชมป์ได้สำเร็จ แต่ในศึกยูโร 2004 มันมีอะไรที่พิเศษยิ่งกว่านั้น เพราะทีมที่คว้าแชมป์เป็นทีมที่อยู่นอกสายตาจากเซียนทุกสำนักซึ่งทีมแชมป์ยูโร 2004 ก็คือ ทีมชาติกรีซ
- กรีซ ในปีนั้นมายิ่งกว่าม้ามืด ก่อนหน้านั้นพวกเขามีประสบการณ์ในฟุตบอลระดับทัวร์นาเมนต์น้อยมากซึ่งการเข้ารอบสุดท้ายในศึกยูโร 2004 กรีซก็ถูกหมายหัวไว้ว่ายังไงก็ต้องตกรอบแรกอย่างแน่นอน แต่พวกเขากลับปาฏิหารย์อย่างยิ่งใหญ่และผงาดคว้าแชมป์แบบสุดพลิกความคาดหมายจนเป็นที่มาของคำว่า เทพนิยายกรีซ
- โดยขุนพลของกรีซชุดนั้นส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิดซึ่งมีบางคนที่ค้าแข้งในต่างแดน แต่ชื่อของนักเตะชุดนั้นนั้นก็ไม่ได้เป็นที่คุ้นหูของแฟนบอลมากเท่าไหร่นัก
- สำหรับขุนพลของทีมชาติกรีซในศึกยูโร 2004 มี อันเจลอส ชาริสเตอัส เป็นหัวหอกความหวังในการทำประตู แดนกลางมี สเตลิออส ยานนาโคปูลอส ซึ่งค้าแข้งอยู่กับโบลตัน วันเดอเรอร์ส ส่วนกัปตันทีมของพวกเขาคือกองกลางตัวเก๋าที่มีนามว่า ธีโอโดรอส ซาโกรากิส
- ธีโอโดรอส ซาโกรากิส เกิดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 1971 ที่เมืองคาวาลา โดยเจ้าตัวเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองกลางแต่ก็สามารถขยับไปเล่นทางฝั่งขวาได้ โโยสโมสรแรกในชีวิตก็คือทีมในบ้านเกิดอย่าง คาวาลา
- ในปี 1992 เจ้าตัวได้ย้ายไปยังสโมสรที่ใหญ่กว่าอย่าง พีเอโอเค โดยได้เป็นขุนพลคนสำคัญของทีมซึ่งเขามักจะทำประตูสำคัญๆได้เสมอ นอกจากนั้นยังลงบู๊ในเกมสำคัญอย่างเช่นเกมดาร์บี้แมตช์อยู่แทบตลอด
- แม้ว่าจะทุ่มเทเกินร้อยให้กับ พีเอโอเค แต่ตลอด 6 ปีที่ค้าแข้งอยู่กับทีม ซาโกรากิส ไม่เคยได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์สักรายการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวเริ่มที่จะมองหาความท้าทายใหม่ๆและหาโอกาสที่จะมีแชมป์ติดมือเพื่อเติมเต็มความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอล
- ช่วงปี 1998 ซาโกรากิส ได้ออกไปผจญภัยยังต่างแดนโดยจุดหมายปลายทางอยู่ที่อังกฤษซึ่งเจ้าตัวเซ็นสัญญากับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตัวหลักให้กับ พีเอโอเค แต่เมื่อมาเข้ารังของทีมสุนัขจิ้งจอก เขากลับต้องตกเป็นแค่ตัวสำรองแต่ถึงยังไงก็ตาม ซาโกรากิส ก็อยู่ในทีมชุดแชมป์ลีกคัพเมื่อตอนปี 2000
- ซาโกรากิส เริ่มอดทนกับสถานการณ์ของตัวเองในถิ่นเดอะฟ็อกซ์ต่อไปไม่ไหว เขารู้สึกผิดหวังกับ มาร์ติน โอนีล กุนซือของทีมที่ไม่ค่อยที่จะใช้งานเขาเท่าไหร่ซึ่งในที่สุดเจ้าตัวตัดสินอำลาทีมในปี 2000 และเดินทางกลับไปยังกรีซโดยได้เขาได้เข้าร่วมทีม เออีเค เอเธนส์ อีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศ
- การมาร่วมทีม เออีเค เอเธนส์ เหมือนเป็นการชุบชีวิตของเจ้าตัวให้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เขาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์กรีกคัพในปี 2002 และทำประตูอันยอดเยี่ยมใส่ อินเตอร์ มิลาน ในศึกยูฟ่าคัพ
- หลังจากคว้าแชมป์ยูโรกับทีมชาติกรีซในปี 2004 ซาโกรากิสได้ย้ายไปร่วมทีม โบโลญญา ในอิตาลีซึ่งแม้ว่าเขาจะได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ โบโลญญา รอดพ้นจากการตกชั้นได้และทำให้เขาค้าแข้งให้กับทีมจากอิตาลีเพียงแค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น
- ปี 2005 ซาโกรากิส กลับมายัง พีเอโอเค ถิ่นเก่าที่คุ้นเคยอีกครั้งนึงโดยเขาได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลอย่างยิ่งใหญ่ แต่การกลับมารอบนี้มันเป็นช่วงบั้นปลายอาชีพของเจ้าตัวประกอบกับที่ทางสโมสรกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงินและมีปัญหาอย่างหนัก ในที่สุดแล้ว ซาโกรากิส ก็ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2007
- ขณะที่ผลงานกับทีมชาติกรีซต้องถือว่า ซาโกรากิส ทำได้เกินคำว่ายอดเยี่ยม โดยเขาเริ่มติดทีมชาติครั้งแรกในปี 1994 โดยทัวร์นาเมนต์ยูโร 2004 กลายเป็นเวทีที่สร้างชื่อให้กับ ซาโกรากิส และบรรดาผองเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคน
- ในศึกยูโร 2004 กรีซอยู่กลุ่มเดียวกับเจ้าภาพโปรตุเกส สเปนและรัสเซีย แต่แค่นัดเปิดสนามพวกเขาก็ทำช็อกด้วยการชนะโปรตุเกส โดยถึงแม้ว่าในรอบแรกพวกเขาจะเก็บได้แค่ 4 แต้มแต่ก็ยังเพียงพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
- รอบ 8 ทีมสุดท้ายพวกเขาจัดการล้มแชมป์เก่าอย่าง ฝรั่งเศส ไปแบบสุดช็อกโลก ขณะที่ในรอบรองก็เอาชนะทีมฟอร์มแรงอย่าง สาธารณรัฐเช็ก ก่อนที่จะไปย้ำแค้น โปรตุเกส ในนัดชิงอีกครั้งซึ่งทั้ง 3 รอบ กรีซเอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 1-0 เหมือนกันทั้ง 3 นัด
- กรีซ ผงาดคว้าแชมป์ยูโรได้เป็นสมัยแรกและสร้างตำนานเทพนิยายกรีซได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยที่ ออตโต้ เรห์ฮาเกล กุนซือชาวเยอรมันได้รับการยกย่องจากชาวกรีซทั่วประเทศให้เป็น คิง ออตโต้ ซึ่งเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าแท็กติกเกมรับอันเหนียวแน่นที่แสนจะน่าเบื่อก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
- ขณะที่ ธีโอโดรอส ซาโกรากิส กัปตันทีมชาติกรีซนอกจากที่จะได้เป็นคนชูถ้วยแชมป์แล้ว เจ้าตัวยังคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง เรียกได้ว่าปี 2004 เป็นปีทองของ ซาโกรากิส อย่างแท้จริง โดยในปี 2007 เจ้าตัวลงเล่นให้ทีมชาติเป็นเกมสุดท้ายในนัดอุ่นเครื่องที่เจอกับสเปนซึ่งเมื่อเจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามก็ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากแฟนบอลกรีซทุกหมู่เหล่า
- ขณะที่ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด ซาโกรากิส ได้ทำงานในทีมที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตัวอย่าง พีเอโอเค โดยรับตำแหน่งเป็นประธานสโมสร แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ตัดสินใจขายนักเตะคนสำคัญของทีมออกไปด้วยปัญหาด้านการเงิน นั่นจึงทำให้เกิดการประท้วงจากแฟนบอลเป็นจำนวนมากซึ่งในที่สุดเจ้าตัวก็ประกาศอำลาตำแหน่งประธานสโมสรไปในปี 2012
- ในปี 2014 หันเหไปทำงานด้านการเมือง โดยเขาได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกรัฐสภายุโรป แต่ถึงแม้จะอยู่ในบทบาทของการเมืองแต่ในสายตาของคอลูกหนังแล้ว ธีโอโดรอส ซาโกรากิส ก็คือ ดาวเตะผู้ปิดทองหลังพระและมิดฟิลด์จอมทุ่มเทที่ได้กลายมาเป็น กัปตันทีมชุดแชมป์ยูโร 2004 ของทีมเทพนิยายกรีซ
ธีโอโดรอส ซาโกรากิส คือ ตำนานกองกลางทีมชาติกรีซและยังเป็นตำนานของสโมสร พีเอโอเค โดยเขาค้าแข้งให้กับทีมถึง 2 รอบด้วยกัน
ช่วงปลายยุค 90 เจ้าตัวเคยมาเล่นในอังกฤษกับเลสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็ไม่ค่อยได้ลงสนามมากนัก แต่ก็ยังได้แชมป์ลีกคัพร่วมกับทีมในปี 2000
นอกจากนั้นเขายังเป็นกัปตันทีมชาติกรีซที่รับใช้ชาติยาวนานที่สุดและลงล่นให้ทีมชาติไปถึง 120 นัดก่อนที่จะถูกทำลายสถิติโดยกองกลางรุ่นน้องอย่าง จอร์จอส คารากูนิส
แชมป์ยูโร 2004 คือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนัักฟุตบอลของเจ้าตัว โดยในครั้งนั้น ซาโกรากิส ยังคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง
หลังจากแขวนสตั๊ด ซาโกรากิส ก็หันมาเล่นการเมืองและได้รับเลือกเป็น สมาชิกรัฐสภายุโรป ในปี 2014
ฟุตบอล
กีฬา
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย