9 พ.ย. 2023 เวลา 21:05 • สุขภาพ

อย่าให้ความกตัญญูรทำร้ายบุพการีของคุณ

ความกตัญญูเป็นคุณธรรมอันดีงามที่ทุกคนควรมีต่อบุพการี แต่ความกตัญญูนั้นควรกระทำอย่างถูกวิธี มิใช่กระทำจนทำร้ายบุพการีโดยไม่รู้ตัว
หนึ่งในสิ่งที่ควรระวังคือการดูแลบุพการีที่มีอายุมากให้กลายเป็นผู้ติดเตียง บุพการีที่มีอายุมากมักมีความเปราะบางต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่าย หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยคือภาวะกดทับ (Decubitus) หรือที่เรียกกันว่าแผลกดทับ
ภาวะกดทับ เกิดจากแรงกดทับต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อเป็นเวลานาน โดยแรงกดทับนี้อาจเกิดจากน้ำหนักตัว แรงเสียดสี หรือแรงเฉือน ภาวะกดทับมักพบบริเวณที่มีการกดทับบ่อยๆ เช่น บริเวณสะโพก กระดูกก้นกบ หัวเข่า ข้อศอก และข้อเท้า
ภาวะกดทับในระยะแรกจะมีอาการแดง ร้อน บวม ปวด และอาจมีอาการชาร่วมด้วย หากไม่ได้รับการแก้ไข ภาวะกดทับจะลุกลามกลายเป็นแผลกดทับ ซึ่งแผลกดทับนั้นยากต่อการรักษาและอาจนำไปสู่การติดเชื้อและเสียชีวิตได้
ภาวะกดทับในระยะแรก
หากบุพการีของคุณมีอายุมากแล้ว แต่คุณยังคอยดูแลทุกอย่างให้ เช่น ไปหยิบของมาให้ทั้งๆ ที่บุพการีสามารถหยิบเองได้ พาบุพการีไปไหนมาไหนแทนที่บุพการีจะเดินเอง สิ่งนี้อาจทำให้บุพการีของคุณกลายเป็นผู้ติดเตียงในที่สุด
เมื่อบุพการีไม่เคลื่อนไหวร่างกาย กล้ามเนื้อจะฝ่อลีบลง กระดูกและข้อต่อจะแข็งตัว ส่งผลให้บุพการีไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ด้วยตัวเอง กลายเป็นผู้ติดเตียงในที่สุด
นอกจากนี้ บุพการีที่ติดเตียงยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกดทับได้สูง เนื่องจากต้องนอนหรือนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน แรงกดทับจากน้ำหนักตัวจะกดทับผิวหนังและเนื้อเยื่อเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดแผลกดทับได้
ภาวะกดทับ
แผลกดทับนั้นมีหลายระดับความรุนแรง ระดับที่รุนแรงที่สุดคือระดับที่ 4 แผลกดทับระดับนี้จะทะลุถึงกล้ามเนื้อ กระดูก หรืออวัยวะภายใน หากแผลกดทับติดเชื้อ เชื้อโรคอาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะติดเชื้อในอวัยวะภายใน และภาวะติดเชื้อในกระดูก
ภาวะติดเตียง
ภาวะที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ภาวะนี้มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ภาวะไร้ความสามารถสามารถแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ความไม่มั่นคง
ในขั้นตอนนี้ จะเริ่มมีอาการไม่มั่นคงในการเดินหรือยืน ส่งผลให้เกิดความกลัวและวิตกกังวลในการออกจากบ้านหรือห้องนอน บางคนอาจไม่กล้าออกจากบ้านหรือห้องนอนเลย
ขั้นตอนที่ 2: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในขั้นตอนนี้ มักเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความไร้ความสามารถรุนแรงขึ้น เช่น การหกล้ม อุบัติเหตุ หรือโรคร้ายแรง เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลให้ความสามารถในการเคลื่อนไหวลดลงอย่างมาก
ขั้นตอนที่ 3: ไม่เคลื่อนที่ภายในห้อง
ในขั้นตอนนี้ ผู้ป่วยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนั่งหรือนอน การเคลื่อนไหวภายนอกห้องทำได้ยาก โดยต้องใช้รถเข็นหรือความช่วยเหลือจากผู้อื่น ผู้ป่วยอาจไม่สามารถลุกจากเตียงหรือรถเข็นได้ด้วยตัวเอง
ขั้นตอนที่ 4: ยึดติดกับสถานที่
ในขั้นตอนนี้ ผู้ป่วยจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ผู้ป่วยจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในที่เดียว เช่น เตียง เก้าอี้ หรือรถเข็น ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่นในการเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ หรือทำธุระส่วนตัว
ขั้นตอนที่ 5: เป็นอัมพาต
ในขั้นตอนนี้ ผู้ป่วยจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แม้แต่น้อย ผู้ป่วยจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในเตียงหรือรถเข็น ผู้ป่วยจะต้องใช้ความช่วยเหลือจากผู้อื่นในทุกกิจกรรมของชีวิตประจำวัน
ผู้ป่วยบนรถเข็น
เพื่อป้องกันไม่ให้บุพการีของคุณกลายเป็นผู้ติดเตียงตั้งแต่ต้น คุณควรดูแลบุพการีให้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้
ความกตัญญูต่อบุพการีเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรกระทำอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ความกตัญญูนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายบุพการีโดยไม่รู้ตัว หากบุพการีของคุณมีอายุมากแล้ว ควรส่งเสริมให้บุพการีเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้บุพการีกลายเป็นผู้ติดเตียง
ตัวอย่างเพิ่มเติม
นอกจากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นแล้ว ยังมีตัวอย่างอื่นๆ อีกมากมายที่อาจทำให้บุพการีกลายเป็นผู้ติดเตียงได้ เช่น
คอยป้อนข้าวให้บุพการีทั้งๆ ที่บุพการีสามารถป้อนเองได้
อาบน้ำให้บุพการีทั้งๆ ที่บุพการีสามารถอาบน้ำเองได้
พาบุพการีขึ้นลงบันไดแทนที่บุพการีจะเดินเอง
ซื้อข้าวของเครื่องใช้ให้บุพการีทุกอย่างแทนที่บุพการีจะเลือกเอง
สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นการแสดงความกตัญญู แต่หากทำบ่อยๆ อาจทำให้บุพการีสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายไปในที่สุด
ดังนั้น หากบุพการีของคุณมีอายุมากแล้ว ควรส่งเสริมให้บุพการีเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้
  • ส่งเสริมให้บุพการีออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เช่น การเดิน การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
  • หลีกเลี่ยงการปล่อยให้บุพการีนั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน
  • เปลี่ยนท่านอนหรือท่านั่งของบุพการีทุก 2-3 ชั่วโมง
  • ใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยพยุงร่างกายของบุพการี เช่น หมอน แผ่นรองนอน หรืออุปกรณ์พยุงขา
ส่งเสริมให้บุพการีออกกำลังกาย
ความกตัญญูต่อบุพการีเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรกระทำอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ความกตัญญูนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายบุพการีโดยไม่รู้ตัว หากบุพการีของคุณมีอายุมากแล้ว ควรส่งเสริมให้บุพการีเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้บุพการีกลายเป็นผู้ติดเตียง
นอกจากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นแล้ว ยังมีตัวอย่างอื่นๆ อีกมากมายที่อาจทำให้บุพการีกลายเป็นผู้ติดเตียงได้ เช่น
คอยป้อนข้าวให้บุพการีทั้งๆ ที่บุพการีสามารถป้อนเองได้
อาบน้ำให้บุพการีทั้งๆ ที่บุพการีสามารถอาบน้ำเองได้
พาบุพการีขึ้นลงบันไดแทนที่บุพการีจะเดินเอง
สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นการแสดงความกตัญญู แต่หากทำบ่อยๆ อาจทำให้บุพการีสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายไปในที่สุด
ดังนั้น หากบุพการีของคุณมีอายุมากแล้ว ควรส่งเสริมให้บุพการีเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้
พูดคุยกับบุพการีอย่างเปิดใจถึงประโยชน์ของการออกกำลังกาย
พาบุพการีไปออกกำลังกายในที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ หรือศูนย์ออกกำลังกาย
หากิจกรรมต่างๆ ที่ทำร่วมกัน เช่น เดินเล่น ปลูกต้นไม้ หรือทำอาหาร
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถแสดงความกตัญญูต่อบุพการีได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยไม่ทำร้ายบุพการีโดยไม่รู้ตัว
โฆษณา