“ฮาลองเบย์” มรดกโลกทางธรรมชาติกำลังพัง เอกชนบุกรุกถมที่กลางอ่าวหินปูนสร้างวิลล่า รีสอร์ต
เมื่อหลายปีก่อน Reporter Journey นำเสนอปัญหาที่สื่อต่างประเทศและนักสิ่งแวดล้อมกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการถมทะเล และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทั้งบ้านพักตากอากาศสุดหรู รีสอร์ต ถนน โรงแรม และอื่นๆ ลุกล้ำเข้าไปบริเวณชายฝั่งของ "ฮาลองเบย์" อ่าวชื่อดังระดับโลกของเวียดนามที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่าปีละ 7 ล้านคน ว่านี่คือการทำลายธรรมชาติ และระบบนิเวศน์ของพื้นที่อย่างรุนแรง และไม่ใช่การพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างที่ควรจะเป็น
แต่ก็มีคนไทยจำนวนไม่น้อยเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์การนำเสนอเนื้อว่า ที่เวียดนามกล้าพัฒนาจนสิ่งปลูกสร้างดูดีสวยงาม ไทยไม่มีวันพัฒนาได้แบบนี้อย่างแน่นอน และต่างยินดีกับเวียดนามที่สร้างสิ่งเหล่านี้ หรือหลายคนบอกว่าไทยกำลังโดนเวียดนามแซงแล้ว เพียงเพราะเอกชนสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นกลางธรรมชาติ
แต่ล่าสุดอ่าวแห่งนี้ที่มีธรรมชาติสวยงามกำลังจะพังพินาศ เพราะนักพัฒนาที่ดินและอสังหาฯ เวียดนามถึงขึ้นถมทะเลลึกเข้าไปกลางภูเขาหินปูนอันสวยงาม จนทำลายทัศนียภาพและระบบนิเวศน์ของอ่าวอย่างรุนแรง จนสุดท้ายหน่วยงานรัฐของเวียดนามที่เพิ่งจะมองเห็นปัญหา ได้มีการสั่งระงับโครงการ
เช่น โครงการ Do Gia Capital Limited กําลังเตรียมพื้นที่สําหรับอาคารพักอาศัยและโรงแรมบนพื้นที่มากกว่า 318,000 ตารางเมตร ซึ่งสถานที่ก่อสร้างอยู่ในพื้นที่กลางอ่าวฮาลอง ซึ่งยูเนสโกรับรองให้เป็นพื้นที่ปกป้องทรัพย์สินมรดกโลก
สื่อของเวียดนามรายงานว่า อาคารดังกล่าวประกอบด้วยคอมเพล็กซ์ วิลล่า และบ้าน 451 หลังโรงแรม 7 ชั้นหลายแห่ง พื้นที่บริการ และการค้า
ขณะที่ Truong Quoc Binh อดีตรองหัวหน้าแผนกมรดกของกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า "พื้นที่ของอ่าวฮาลองถูกรุกรานอย่างร้ายแรง"
คณะกรรมการประชาชนเมืองกัมผาได้ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมการจัดการเมืองวัฒนธรรม และข้อมูลคณะกรรมการประชาชนเขต Quang Hanh และหน่วยงานอื่น ๆ ตรวจสอบการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จังหวัดกว๋างนินห์กล่าวว่า มีการละเมิดสิ่งแวดล้อมรวมถึงการไม่ปฏิบัติตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
กระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวเรียกร้องให้พวกเขาสั่งให้นักลงทุนปฏิบัติตามบรรทัดฐานอย่างเต็มที่และแจ้งให้สาธารณชนทราบเกี่ยวกับการพัฒนาของโครงการ
ด้าน Tran Hoa Thanh ผู้อํานวยการ Do Gia Capital กล่าวตอบโต้ว่า บริษัทได้ดําเนินมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามที่เจ้าหน้าที่เสนอก่อนการก่อสร้าง และวิธีการก่อสร้างมีการทำตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เคยยื่นต่อหน่วยงานรัฐไปแล้ว
แต่ภาพที่ปรากฎออกมาทำให้เกิดความกังวลอย่างรุนแรงในหมู่ประชาชน และนักสิ่งแวดล้อมว่า นี่คือการรุกราน รุกล้ำ ทำลายอ่าวแห่งนี้อย่างรุนแรง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการคุกคามทุกอย่างของธรรมชาติในอ่าว และเอกชนกำลังทำให้อ่าวแห่งนี้กลายเป็นเพียงสวนสนุกของคนรวย
เมื่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงมากขึ้น เจ้าหน้าที่ในเมืองกัมผาซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่ก่อสร้างกล่าวว่าพวกเขาได้ขอให้นักลงทุนระงับงานก่อสร้างและการตรวจสอบพื้นที่จะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 10 พฤศจิกายน
การเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองฮาลองซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเคเบิลคาร์ สวนสนุก โรงแรมหรู และบ้านหรูหลายพันหลังได้ทําลายระบบนิเวศของอ่าวอย่างรุนแรง
นักอนุรักษ์ประเมินว่าเดิมมีปะการังประมาณ 234 ชนิดในอ่าว แต่ตอนนี้เหลือแค่จํานวนประมาณครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปัญหาใหญ่จากขยะและพลาสติก
จนอ่าวที่เคยสวยงามแห่งนี้กลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรม และสกปรกอย่างไม่น่าเชื่อว่า แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศจะสกปรกได้ถึงเพียงนี้
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
