Occupancy Rate ก็เพิ่มขึ้นได้แม้จะเป็นช่วง Low Season
Dynamic Pricing ในธุรกิจโรงแรม คือ การตั้งราคาแบบยืดหยุ่นตามระดับความต้องการห้องพักในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดย Dynamic Pricing เป็นกลยุทธ์ที่มักจะพบได้บ่อยในโรงแรมที่มีระบบจัดการห้องพัก เช่นเดียวกับการทำการตลาดโรงแรม
Hotel Weinhaus Weiler เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ Hotelsup ได้รับโอกาสให้ช่วยดูแล ในเรื่องของระบบจัดการห้องพักและระบบจองโรงแรมออนไลน์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางทีม Hotelsup มีการปรับเซ็ตราคาห้องพักโดยเลือกใช้ Dynamic Pricing Strategy เพื่อตั้งราคาเตรียมรับมือก่อนเข้าสู่ช่วง Low Season หลังทีมวิเคราะห์ข้อมูลเรียบร้อยแล้วจึงตัดสินใจกำหนดราคาที่เหมาะสม และปรับราคาห้องพักหลังจากทำการตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย
ก่อนทำการตั้งค่า ทีม Hotelsup ได้มีการวิเคราะห์ Property Analysis, Competitor Analysis และคำนึงถึง OCC (Occupancy Rate) ของโรงแรมเป็นหลักเพื่อนำมาทำการตลาดโรงแรมให้ดีที่สุด โดยมีทริคเล็ก ๆ เกี่ยวกับ Rule ในการใช้ PIE (Pricing Intelligence) ดังนี้
1. กำจัด Demand ส่วนเกิน
หากโรงแรมมีจำนวน OCC (Occupancy Rate) สูงวิธีการกำจัด Demand ส่วนเกิน ด้วยการตั้งราคาแบบ Dynamic Pricing ก็คือการเพิ่มราคาห้องพักให้สูงขึ้น เพื่อตักตวงกำไรเพิ่มจากการแย่งการจองเพราะห้องพักเหลือน้อย และลดจำนวนลูกค้าที่ต้องการห้องพักลงชั่วคราว
2. กำจัด Supply ส่วนเกิน
ตรงกันข้าม หากโรงแรมมีจำนวน OCC (Occupancy Rate) น้อย วิธีกำจัด Supply ส่วนเกิน ก็คือการปรับราคาลง ทั้งนี้แม้การลดราคาจะทำให้กำไรลดน้อยลงแต่อย่าลืมว่าต้นทุนยังคงเท่าเดิม ดีกว่าปล่อยให้เหลือห้องว่างแล้วไม่มีรายได้ ในขณะเดียวกันลูกค้าก็จะเกิดความสนใจมากขึ้น เพราะสามารถได้พักห้องแพงในราคาที่ถูกลง
เปรียบเทียบหลังใช้ Dynamic Pricing Strategy 4 เดือน แม้จะเป็นช่วง Low Season แต่ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก เพราะภายในเดือนที่สอง OCC ของโรงแรมเพิ่มขึ้นจาก OCC สุดท้ายก่อนเริ่มทำ และเพิ่มขึ้นอีกในเดือนถัดมา ถือเป็นการประสบความสำเร็จที่น่ายินดีอย่างมาก
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับโรงแรม : https://www.weinhaus-weiler.de/
สนใจใช้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.hotelsup.co
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
