"Magnificent Seven" ผลงานแกร่ง-เรียกความเชื่อมั่น “หุ้นเทคฯ” กลับคืน
แนะ “กองหุ้นเทคฯ” ร่วมเติบโตฝ่าศก.โลก “ชะลอตัว” !!!
ลายแทงกองทุน: โลกของเทคโนโลยีทวีความสำคัญมากขึ้น เข้าไปเกี่ยวข้องในทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของคนเรา จึงไม่น่าแปลกใจว่านี่จะเป็นหนึ่งใน “Megatrend” ในโลกการลงทุนที่ไม่มีใครกล้าละเลย
และหากจะพูดถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลสูงของโลก ก็ต้องยกให้กลุ่มหุ้น “Magnificent Seven” ที่ประกอบด้วย Nvidia (NVDA), Tesla (TSLA), Meta Platforms (META), Apple (AAPL), Amazon.com (AMZN), Microsoft (MSFT), และ Alphabet (GOOGL)
ซึ่งในปีนี้ปรับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่นตั้งแต่ 48.78 – 237.56% สูงกว่าการปรับตัวขึ้นของดัชนี “Nasdaq” ที่ปรับตัวขึ้นมา +32.84%
ในทางตรงข้ามถ้าหุ้น “Magnificent Seven” ดิ่งลงก็พร้อมจะลากหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกให้ร่วงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ถือเป็น “โอกาส” ที่มาพร้อมกับ “ความเสี่ยง” ที่นักลงทุนก็ต้องรับไว้ให้ได้เช่นกัน
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ ได้คัดเอา 4 “กองทุนเด่น” ในธีมหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจมาฝากกัน
เปิด 4 "กองทุนเด่น" ธีมหุ้นเทคฯ...เติบโตไปกับ "Magnificent Seven" ฝ่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัว !!!
เมื่อเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นของหุ้น “Magnificent Seven” ทั้ง 7 แล้ว ซึ่งถือเป็นหุ้นผู้นำในโลกเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบัน ก็อาจจะสนใจอยากจะเข้าไปลงทุนเช่นกัน แต่คงไม่มีกองทุนไหนที่จะตั้งมาเพื่อไปลงทุนในหุ้นเพียง 7 ตัวนี้เท่านั้น แต่จะไปปรากฎอยู่ในพอร์ตหุ้นของกองทุนที่เน้น “หุ้นเติบโต” (Growth) หรือ “หุ้นเทคฯ” เป็นหลัก ขึ้นกับนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นๆ
สำหรับ 4 “กองทุนเด่น” ที่คัดมาในครั้งนี้ เป็น Feeder Fund ทั้งหมด ประกอบด้วย
- “ONE-UGG-RA: กองทุนเปิด วรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป” ของบลจ.วรรณ เป็นกลุ่ม “กองหุ้นโลก” (Global Equity) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก ‘Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund’ บริหารจัดการโดย Baillie Gifford ที่ไม่ได้จำกัดแค่หุ้นเทคโนโลยีเท่านั้น หากแต่มองหาหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูง 5 เท่า ใน 5 ปี
“ล่าสุดมีหุ้น Magnificent Seven ติด Top5 มา 3 ตัว ได้แก่ Nvidia, Amazon.com และ Tesla”
- ถัดมาเป็น “B-INNOTECH: กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี” ของบลจ.บัวหลวง เป็นกลุ่ม “กองหุ้นเทคโนโลยี” (Technology Equity) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกที่มีการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือบริการ อันจะนํามาซึ่งประโยชน์อย่างสูงจากความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี ผ่านกองทุนหลัก ‘Fidelity Funds - Global Technology Fund, Class YACC-USD’ บริหารจัดการโดย FIL Investment Management (Luxembourg) S.A.
“ล่าสุดมีหุ้น Magnificent Seven ติด Top5 มา 4 ตัว ได้แก่ Microsoft, Apple, Amazon.com และ Alphabet”
- ต่อกันด้วย “KFGTECH-A: กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้-สะสมมูลค่า” ของบลจ.กรุงศรี เป็นกลุ่ม “กองหุ้นเทคโนโลยี” (Technology Equity) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เช่นเดียวกัน ที่เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาหรือใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ผ่านกองทุนหลัก ‘T.Rowe Price Funds SICAV Global Technology Equity Fund (Class Q)’ บริหารจัดการโดย T.Rowe Price (Luxembourg) Management S.a.r.l
“ล่าสุดมีหุ้น Magnificent Seven ติด Top5 มา 3 ตัว ได้แก่ Apple, Nvidia และ Microsoft”
- ปิดท้ายกันด้วย “KKP NDQ100-H: กองทุนเปิดเคเคพี NDQ100 - HEDGED ชนิดทั่วไป” ของบลจ.เกียรตินาคินภัทร เป็นกลุ่ม “กองหุ้นสหรัฐ” (US Equity) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) และเป็นกองทุนสไตล์ Passive Fund ที่เน้นลงทุนในหุ้นองค์ประกอบของดัชนี NASDAQ-100 Index
ซึ่งประกอบด้วยหลักทรัพย์ของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน จํานวน 100 บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ทั้งบริษัทในประเทศและนอกประเทศสหรัฐที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ซึ่งแน่นอนว่ารวมทั้งกลุ่มหุ้น Magnificent Seven ทั้ง 7 ตัวด้วยเช่นกัน
“ล่าสุดมีหุ้น Magnificent Seven ติด Top5 มาครบ 5 ตัว ได้แก่ Microsoft, Apple, Nvidia, Amazon.com และ Tesla”
แม้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ “หุ้นเทคโนโลยี” ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในเชิงลบก็ตาม แต่หลังตลาดคาดว่าจุดจบดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จะมาเยือนแล้ว ก่อนจะกลับทิศสู่ “วงจรดอกเบี้ยขาลง” ในปีหน้าก็ทำให้หุ้นเทคฯ ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะหุ้น “Magnificent Seven” 7 ยักษ์ใหญ่โลกเทคโนโลยียังคงโชว์ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทำให้คาดว่า “หุ้นเทคฯ” จะแกร่งพอที่จะเติบโตได้ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่กำลังจะมาเยือน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
