14 พ.ย. 2023 เวลา 08:18 • ท่องเที่ยว
ด่าหลัต

ดาหลัต จะเรียกสมยานามที่นี้ว่าอะไรดี เมืองแห่งหมอก , หุบเขาแห่งความเหงา , หุบเขาแห่งหมอก

ก็แล้วแต่ใครสะดวกจะเรียกได้เลย ส่วนตัวผมขอเรียกเมืองดาหลัต อย่างที่ทุกคนเข้าใจแล้วกัน
วิวหลังปั๊มน้ำมัน
ก่อนอื่นเลยต้องบอกเลยว่าตั้งแต่ผมเกิดมา27 ปี ผมไม่เคยมาเวียดนามเลยสักครั้ง แต่ก็ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเท่าที่จำได้ เจ้จะเล่าให้ฟังบ่อยๆตอนนั้นว่าไปเที่ยวเวียดนามมา ที่เมืองชื่อเมืองๆหนึ่ง มันสวยและสนุกมาก แต่ด้วยความเป็นวัยละอ่อนของเรา จึงไม่สามถจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้มากเท่าไหร่ แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เราเคยได้ยินได้ฟังจากพี่สาวของเราตั้งแต่เด็กๆ สุดท้ายสถานที่น้้นมันมาอยู่ตรงหน้าเราตรงนีั ที่นี้ ณ ตอนนี้ มันเหมือนฝันเลย
ตอนนี้ในขณะที่พิมพ์ไป ตัวผมก็กำลังนั่งรถมินิบัสลงจากดาหลัดมาญาจางแล้วด้วยระยะทางประมาณ2/4 ของที่เหลือ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมรู้เรื่องระยะทาง จริงๆมันไม่ใช่ระยะทางที่จริงหรอก ผมก็พูดไปเรื่อยของผมแหละ แต่ประเด็นสำคัญคือเส้นทางเส้นนี้เป็นเส้นทางของจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมต้องควักโทรศัพท์มาจดโน๊ตแล้วก็เริ่มจนบันทึกการเดินทางของผม
น้ำตกที่ 1
มันจะมีเส้นทางสักกี่เส้นทางบนโลกนี้ ที่วิ่งผ่านแล้วมีน้ำตกไหลลงสู่ผืนป่าอันกว้างใหญ่ข้างล่าง ถ้าสถานที่ไหนเป็นเช่นนี้อีก รบกวนช่วยบอกผมด้วย ตั้งแต่ระยะทาง2/4 อย่างที่ผมเคลมไว้ ระหว่างทางคุณจะเห็นทั้งน้ำตกน้อย น้ำตกใหญ่ น้ำตกหน่อย อยู่เต็มข้างทางทั้งสองฝั่ง ลองจินตนาการภาพดูว่าถ้าคุณนั่งรถมินิแวนที่มีคนขับรถเป็นชาวเวียดนามอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มเก่ง บริการทุกระดับประทับใจ และรถที่มาพร้อมกับเบาะที่ปรับเอนได้ พร้อมกับมีเสียงเพลงโมสาสกล่อมเด็กพร้อมมีเสียงน้ำ เสียงน้ำตกเป็นที่เป็น background ให้เราได้ฟัง
ถ้าคุณนึกไม่ออก มันก็คือเพลงกล่อมที่เค้าชอบเปิดที่คลีนิคทำหน้า เพื่อให้เราผ่อนคลายนั้นแหละ เอาเป็นว่ามันชิวแล้วกัน แล้วจินตนาการภาพต่อว่าเส้นทางที่คุณกำลังเดินทางผ่าน ระหว่างทางมีน้ำตกไหลมาข้างทาง พร้อมกับหมอกปกคลุมหนาจนไม่เห็นพื้นถนน พร้อมกับวิวภูเขาป่าไม้ที่สุดลูกหูลูกตา แถมมองไปข้างล่างยังมีน้ำตกให้ดูอีก มันเหมือนฝันเลย และนี้คือสิ่งที่ผมรู้สึก ณ ตอนนี้ แถมภาพน้ำตกให้อีกเดี๋ยวจะหาว่าผมโม้อีก
น้ำตกที่ิ…
ความกลัว
คุณเคยกลัวนู่นนี่นั่น ตั้งแต่ยังไม่ได้เจอเหตุการณ์กับตัวเองกันปะ ส่วนตัวผมบอกได้เลยว่าผมพึ่งมาเป็นคนที่แพนิคเรื่องความตาย เวลาเจอสถานการณ์ที่รู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อประมาณ4-5 ปีก่อน จริงๆเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ผมตัองมาเล่าอะไรหรอก แต่จริงๆแล้วความกลัวนี้แหละสิ่งสำคัญที่เป็นหัวใจหลัก เป็นมารผจญ ที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะเปิดใจ เปิดรับการผจญภัยใหม่ๆ หลายๆคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็คงรู้สึกเหมือนกันใช่ไหม๊ละ ผมก็เป็นแบบนั้นแหละ หรือเพราะผมอาจจะเป็นมือใหม่สำหรับนักเดินทาง
หรือจริงๆแล้วสถานที่ต่างๆ เมืองต่างๆ ผู้คนที่ใช้ชีวิต พวกเค้าก็ดำเนินกิจวัตรประจำวันปกติอย่างที่เราๆทำกัน ผมอาจจะคิดว่าที่นั่นไม่ปลอดภัย ที่นี้ไม่ปลอดภัย เราอาจจะคิดไปเองก็ได้ หรือถ้าหากสถานที่นั้นๆไม่ปลอดภัยจริงๆ เราก็ต้องหาวิธีป้องกันตัวเพื่อเซฟตัวเองมากขึ้น ถ้าเราไม่ลองทำอะไรสิ่งใหม่ๆ เปิดใจรับสิ่งต่างๆ มันก็จะมีสิ่งค้างคาใจไปจนวันตายว่า
ทำไมเราไม่ได้ทำสิ่งนี้ในตอนนั้น ทำไมเราไม่ทำสิ่งนี้ในตอนนู้น นี้ไงที่เขาบอก " รู้อะไร ไม่เท่ารู้งี้ " ภาพที่ทุกคนได้เห็น ภาพๆนี้แหละที่ผมเรียกว่า " ความกลัว "
โฆษณา