Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อาจวรงค์ จันทมาศ
•
ติดตาม
14 พ.ย. 2023 เวลา 08:42 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
กาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaffeinated coffee) สร้างอย่างไร และไม่มีคาเฟอีนจริงหรือไม่
กาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaffeinated coffee) สร้างอย่างไร
และไม่มีคาเฟอีนจริงหรือไม่
(เรียบเรียงโดย ณัฐนันท์ รัตนชื่อสกุล)
กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาลในประวัติศาสตร์โลก เนื่องจากมันมีคาเฟอีนในระดับสูง ช่วยให้ร่างกายเรากระปรี้กระเปร่า อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางประการ หลายๆคนก็ต้องการจำกัดปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับต่อวัน ทำให้ กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือกาแฟ decaf นั้นมีขายโดยทั่วไป อีกทั้งอัตราการบริโภคนั้นยังสูงขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย
การกำจัดคาเฟอีนออกโดยที่ยังคงความหอมและรสชาติของเมล็ดกาแฟนั้นถือเป็นเรื่องท้าทายเป็นอย่างมาก โดยอาศัยหลักการทางเคมี ในปัจจุบันสามารถแบ่งกระบวนการกำจัดคาเฟอีนได้เป็น 3 วิธี วิธีแรกนั้นเป็นการใช้ตัวทำละลายทางเคมี กาแฟไม่มีคาเฟอีนส่วนใหญ่จะถูกผลิตด้วยวิธีนี้ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ราคาถูกที่สุด โดยเทคนิคยังแบ่งย่อยออกเป็น 2 วิธีย่อยคือ ทางตรง และ ทางอ้อม
1
วิธีทางตรงนั้นทำได้โดยการนึ่งเมล็ดกาแฟด้วยไอน้ำร้อน แล้วแช่มันลงในตัวทำละลายอย่าง เมธิลีนคลอไรด์ หรือ เอธิลอะซิเตต ซึ่งจับกับคาเฟอีนได้ดี เมื่อทำซ้ำๆ จะทำให้เราสามารถสกัดคาเฟอีนออกไปจากเมล็ดกาแฟได้
ส่วนวิธีทางอ้อม จะไม่ให้เมล็ดกาแฟสัมผัสกับตัวทำละลายโดยตรง แต่นำเมล็ดกาแฟไปแช่น้ำร้อน แล้วกรองเมล็ดกาแฟออก นำของเหลวที่ได้มาผสมกับตัวทำละลาย เช่นเดียวกับวิธีทางตรง โมเลกุลของคาเฟอีนจะจับกับตัวทำละลายแล้วใช้ความร้อนทำให้ระเหยออกไป แล้วจึงนำเมล็ดกาแฟกลับมาแช่ลงในสารละลายที่กำจัดคาเฟอีนออกไปอีกครั้งหนึ่งเพื่อซึมซับกลิ่นและรสชาติของกาแฟ
อย่างไรก็ตามตัวทำละลายเคมีที่ใช้ในกระบวนการ หากได้รับในปริมาณที่สูงก็อาจก่อผลเสียต่อร่างกายได้ แต่ทางการก็อนุญาตการใช้ตัวทำละลายเหล่านี้ในกระบวนการ โดยมีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน และในทางปฏิบัติแล้วถือว่าตัวทำละลายนั้นไม่หลงเหลืออยู่บนเมล็ดกาแฟเลย
วิธีถัดมาเป็นการใช้คาร์บอนไดออกไซด์เหลวสกัดคาเฟอีนออกมาภายใต้ความดันสูง จึงได้เมล็ดกาแฟที่ไร้คาเฟอีนออกมานั่นเอง
อีกหนึ่งวิธีเป็นการใช้น้ำสกัด (Swiss water process) โดยเมล็ดกาแฟตั้งต้นจะถูกแช่ในน้ำร้อนเพื่อสกัดคาเฟอีนและสารให้รสชาติต่างๆของกาแฟออกมาให้มากที่สุด แล้วทิ้งส่วนเมล็ดไป จากนั้นจึงนำสารละลายที่ได้ไปผ่านตัวกรองโดยมีถ่านกัมมันต์เป็นตัวดูดซับคาเฟอีนเอาไว้ แต่ปล่อยให้โมเลกุลของสารให้รสชาติต่างๆผ่านได้ ของเหลวที่ได้ออกมาจึงเป็นสารสกัดกาแฟเข้มข้นที่ไร้คาเฟอีน
การใช้น้ำสกัด (Swiss water process) ที่มา : bluegoose.coffee
จากนั้นจึงใช้สารสกัดที่ได้ มาแช่เมล็ดกาแฟล็อตใหม่ที่มีทั้งคาเฟอีนและสารให้รสชาติต่างๆอีกครั้ง เนื่องจากความเข้มข้นของสารให้รสชาติต่างๆอิ่มตัวแล้วในสารละลาย สารในกลุ่มนี้จึงไม่ถูกสกัดออกมาจากเมล็ดกาแฟอีก สารหนึ่งในเดียวที่จะละลายออกมาจากเมล็ดกาแฟได้ นั่นก็คือ คาเฟอีน นั่นเองส่งผลให้คาเฟอีนในเมล็ดกาแฟล็อตใหม่ละลายออกมาในน้ำ แต่สารให้รสชาติยังคงถูกกักเก็บในเมล็ดกาแฟอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้ได้เมล็ดกาแฟไร้คาเฟอีนออกมาในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกระบวนการใดที่สามารถกำจัดคาเฟอีนได้ 100%ในแต่ละวิธีการนั้นจะยังคงเหลือคาเฟอีนอยู่ในปริมาณเล็กน้อยแตกต่างกันออกไป โดยอาจจะต้องดื่มกาแฟไม่มีคาเฟอีนมากกว่า 10 แก้ว ถึงจะได้ปริมาณเทียบเท่าการดื่มกาแฟปกติสักแก้วหนึ่ง
ในส่วนของรสชาตินั้น บางคนก็บอกว่ารสชาติมีความแตกต่างจากกาแฟปกติ ขึ้นอยู่กับวิธีการ เพราะสารให้รสชาติหลายๆชนิดก็สามารถถูกสกัดออกไปพร้อมกับคาเฟอีนได้เช่นกัน นอกจากนี้ คาเฟอีนนั้นมีรสขม จึงทำให้กาแฟไม่มีคาเฟอีนนั้นมีความขมลดลง
อีกประเด็นหนึ่ง ในเรื่องของสุขภาพ พบว่า การดื่มกาแฟไม่มีคาเฟอีนนั้นมีส่วนช่วยในการลดโอกาสเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 รวมไปถึงมะเร็งบางชนิด ได้พอๆกับการดื่มกาแฟปกติเป็นประจำ
นอกจากนี้ การดื่มกาแฟยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัวได้อีกด้วยโดยจากการศึกษาพบว่าปริมาณกาแฟที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมากที่สุดจากการดื่มกาแฟทั้งแบบมีคาเฟอีนและไม่มีคาเฟอีนนั้นอยู่ที่ 3-4 แก้วต่อวัน ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าสุขภาพที่ดีย่อมมาจากการบริโภคอาหารอย่างสมดุลและออกกำลังกายเป็นประจำด้วย
1
อ้างอิง
https://phys.org/news/2023-11-decaf-coffee-caffeine-free.html
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5696634/
7 บันทึก
19
4
7
19
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย