Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Reader
•
ติดตาม
15 พ.ย. 2023 เวลา 04:38 • สุขภาพ
ปักหมุด "ร้านกาแฟหวานน้อย" เชียงใหม่ สสส. นำร่อง 6 คาเฟ่เฮ้ลท์ตี้
สสส.เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายลดหวาน ผนึกกำลังร้านกาแฟเชียงใหม่ นำร่อง 6 คาเฟ่เฮ้ลท์ตี้ รณรงค์คนไทยใส่ใจสุขภาพ ลดหวาน ลดโรค ตั้งเป้าขยายเครือข่ายร้านกาแฟให้ครอบคลุมเชียงใหม่
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า สสส.ได้เร่งดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายหวานน้อย ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของประเทศ ที่ได้รณรงค์มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี โดยปีนี้ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายร้านกาแฟในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมโครงการ “ร้านกาแฟหวานน้อย” นำร่อง 6 ร้านกาแฟสายสุขภาพ ก่อนที่จะขยายเครือข่ายร้านกาแฟหวานน้อยเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ เครื่องดื่มชงทุกประเภทควรเน้นหวานน้อยไม่เกิน 2 ช้อนชา ซึ่งจะช่วยลดโรค โดยเฉพาะเบาหวาน ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ปี 2565 พบคนไทยกินน้ำตาลมากถึง 25 ช้อนชาต่อวัน เกินกว่าที่องค์การอนามัย (WHO) กำหนดอยู่ที่ไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน เป็นต้นเหตุของภัยเงียบสุขภาพที่ทำให้อ้วนลงพุง ทำให้เกิดไขมันเกาะผนังหลอดเลือดจนเกิดการอักเสบ หากสะสมเป็นเวลานานจะเสี่ยงป่วยกลุ่มโรค NCDs
ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้จัดการโครงการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน สสส. กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่อยู่ในเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เดิมได้สร้างเครือข่ายเฉพาะในโรงเรียนเป็นหลัก แต่ปีนี้ได้ขยายเครือข่ายมาที่กลุ่มธุรกิจร้านกาแฟ ซึ่งเชียงใหม่เป็นเมืองกาแฟ และถือว่าเป็นตลาดการบริโภคขนาดใหญ่
โดยพบว่าเทรนด์ของคนดื่มกาแฟในปัจจุบัน มีแนวโน้มสั่งกาแฟที่มีรสหวานลดลง โดยสั่งกาแฟหวานน้อยเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็พบว่าร้านกาแฟก็ได้มุ่งสู่เทรนด์สุขภาพมากขึ้นเช่นกัน ด้วยการเสิร์ฟเมนูกาแฟหวานน้อยและสร้างสรรค์เมนูที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ด้วยการใช้วัตถุดิบทางเลือกในการมิกซ์เข้ากับกาแฟ
“กาแฟ 1 แก้ว มีน้ำตาล 5-6 ช้อนชา ถือว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพ เราต้องสร้างวัฒนธรรมหวานน้อย ให้คำว่าหวานน้อยเป็นความธรรมดาในการสั่งกาแฟหรือเครื่องดื่มต่างๆ ผู้บริโภคต้องตระหนักรู้ว่าการกินหวานมากเกินไปจะเป็นโทษต่อร่างกาย เป็นที่มาของโรคภัยต่างๆ ทั้งโรคอ้วน เบาหวาน ความดัน หรือโรค NCDs”
ทพญ.รักชนก นุชพ่วง ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าร้านกาแฟเฉพาะในตัวเมืองเชียงใหม่มีจำนวนราว 900-1,000 ร้าน ไม่นับรวมร้านกาแฟขนาดเล็กรายย่อยทั่วไป ทั้งนี้ การดึงร้านกาแฟเข้ามาอยู่ในเครือข่ายหวานน้อย จะทำให้เกิดกระแสในการบริโภคกาแฟหวานน้อยให้เกิดขึ้นในตลาดกลุ่มใหญ่ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันจะบริโภคกาแฟเป็นหลัก และจากข้อมูลของร้านกาแฟที่อยู่ในเครือข่ายก็พบว่า คนสั่งกาแฟหวานน้อยมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปักหมุด 6 คาเฟ่หวานน้อย
คุณรุ่ง เจ้าของร้านกาแฟ “หวานน้อย” ตั้งอยู่ภายในคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เปิดร้านกาแฟที่นี่มานาน 7 ปี ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มการสั่งเครื่องดื่มของลูกค้า ทั้งกาแฟและชาหรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ สัดส่วน 80% สั่งหวานน้อย ทำให้เห็นว่าผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้ทุกเมนูของทางร้านเน้นหวานน้อย และพัฒนาเมนูใหม่ๆที่นำผลไม้ อาทิ ส้มยูสุเข้ามามิกซ์กับกาแฟ เป็นเมนูขายดี
ขณะที่ร้าน “ภูพยัคฆ์” ร้านกาแฟสายคลีนภายในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีลูกค้ากลุ่มหลักคือ ข้าราชการที่ทำงานในสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงลูกค้าทั่วไป ซึ่งการสั่งเครื่องดื่มกาแฟหรือชา ส่วนใหญ่จะสั่งหวานน้อย-หวานน้อยมาก โดยมีเมนูทั้งร้อนและเย็นที่ระบุความหวานตั้งแต่ปกติ หวานน้อย หวานน้อยมาก และไม่หวาน
ส่วนร้านที่เข้าร่วมเครือข่ายกาแฟหวานน้อยร้านที่ 3 อย่างร้าน Graph ย่านศิริมังคลาจารย์ ซึ่งมีทั้งหมด 6 สาขาในเชียงใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าวัยทำงานระดับกลาง-บน ซึ่งทุกเมนูของทางร้านจะไม่เน้นหวานหรือมีความหวานน้อย แต่จะเน้นให้กาแฟมีความกลมกล่อม แสดงออกถึงรสชาติที่ชัดเจนของกาแฟในรสสัมผัส จาก 3 แหล่งปลูกกาแฟในภาคเหนือคือ ดอยช้าง, ห้วยชมภู จังหวัดเชียงราย และขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่
เสิร์ฟเมนู Signature ที่ขายดีคือ Graph No.18 สดชื่นด้วยน้ำส้มสด ได้รสเปรี้ยวของเลม่อนที่ปาดบนปากแก้ว หรือเมนู Moly Cola จากส่วนผสมของเชอร์รี่ เลม่อน โคล่าไซรัป และคราฟโซดา นอกจากนี้ ยังมีเมนูที่ชื่อว่า Indian เป็นกาแฟสกัดเย็นผสมเมล็ดและท้อปปิ้งเนื้อฟักทองอบกรอบ
อีกหนึ่งร้านกาแฟเฮ้ลท์ตี้ “สหายเข้ม” ย่าน อ.สันทราย ใกล้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ที่สร้างสรรค์เมนูกาแฟและเครื่องดื่มทุกชนิดที่เป็นเป็นออแกนิก และไม่เน้นหวาน แต่เน้นความเข้มของกาแฟที่นำมาจากกาแฟดอยช้าง จังหวัดเชียงราย และบ้านห้วยโทน จังหวัดน่าน
ขณะที่ร้านกาแฟ 186 Cafe&Bar ย่านมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ด้วยเพราะเจ้าของร้านเป็นผู้ประกอบการสายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เมื่อมาทำร้านกาแฟ จึงวางคอนเซ็ปต์ร้านว่า Less Sweet Longer live Happy More
เจนนี่ เจ้าของร้านกาแฟ Akha Ama Coffee หน้าวัดพระสิงห์ฯ บอกว่า ปัจจุบันมี 3 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ และในต่างประเทศอีก 1 สาขาคือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง Akha Ama Coffee กาแฟทุกเมนูจะเริ่มต้นแบบไม่หวานเลย แต่จะถามลูกค้าว่าต้องการหวานหรือไม่หวาน หรือความหวานระดับไหน ซึ่งพฤติกรรมคนดื่มกาแฟในปัจจุบันมีความแตกต่างจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยุคนี้ส่วนใหญ่สั่งหวานน้อยทุกเมนู
โดยลูกค้ากลุ่มหลักของทางร้านเป็นต่างชาติ 100% โดยทางร้านใช้วัตถุดิบทางเลือก อาทินมอัลมอนด์ ธัญพืช น้ำผึ้งแทนน้ำตาล แต่ก็เน้นความหวานน้อย เมนู Signature คือ มานี มานะ ที่ให้รสสัมผัสที่เข้มแข็งและอ่อนโยน มิกซ์ระหว่างกาแฟดำ น้ำผึ้ง และเปลือกส้ม นอกจากนี้ กาแฟวุ้น หรือ Coffee Jelly ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขายดี ทุกเมนูของ Akha Ama Coffee ต้องการให้ลูกค้ารับรสกาแฟอย่างชัดเจน
สสส. ย้ำชัดว่าการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยสามารถเข้าถึงอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพได้ จะช่วยลดการเกิดโรคอ้วน และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ และนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพได้อย่างยั่งยืน
บันทึก
2
4
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย