16 พ.ย. 2023 เวลา 04:11 • ท่องเที่ยว
อุบลราชธานี

นอนกลางแจ้งริมโขงใต้ท้องฟ้าและแสงดาว

อะไรดลใจกันก็ไม่รู้…
สิ้นเสียงสรุปของวงคุยทุกคนก็พร้อมใจกันลุกขึ้นแยกย้าย
“เดี๋ยวคืนนี้เราจะออกไปนอนริมโขงกัน”
ใครคนหนึ่งในวงบอกเราง่ายๆแบบนั้นเป็นภาษากลาง
ผมรีบลุกไปเตรียมของสำหรับค้างแรมกลางแจ้งหนึ่งคืน
เวลาไปตามหมู่บ้านบางทีก็มีโปรไฟไหม้แบบนี้เสมอ
วงสนทนาออกรสได้ที่อยู่ดีๆ…
ก็ย้ายจากใต้ถุนบ้านไปใต้ดวงดาว
ดูเหมือนการไปนอนโขงจะเป็นเรื่องสนุกของคนที่นี่
อารมณ์น่าจะประมาณเพื่อนยุว่า…
เฮ้ยไปเปล่า เออเอาดิ ไปๆ แล้วก็ลุกกันพรึ่บ
ดูสนุกสนาน
แต่สำหรับคนเมืองต่างถิ่นอย่างผม…
ที่นอนใต้หลังคามาตลอดชีวิตก็จะงงๆหน่อย
คิดว่าการมาอีสานครั้งแรกในชีวิตครั้งนี้จะได้นอนบ้านคนตลอด
จึงไม่มีการเตรียมอุปกรณ์ใดๆ
แผ่นรองนอน หมอน ผ้าห่ม พาวเวอร์แบงค์ ฯลฯ
แต่นี่ผมไม่มีอะไรใดๆเลยมาสักอย่าง
ความเป็นคนแปลกหน้าหายไปแล้ว
คิดแง่ดีว่าคนที่นี่น่าจะไปนอนกันบ่อย
เดี๋ยวคงมีคนเตรียมเต็นท์เตรียมเครื่องนอนไปเผื่อ
เราเอาไปแค่เป้สะพายยัดเสื้อผ้าไปหน่อย
เอาไว้หนุนหัว
สรุปวันนั้นคือไม่มีอุปกรณ์ใดๆสำหรับนอน
ไม่มีเต็นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน ฯลฯ
มีแต่สัมภาระอื่นๆที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับการนอนแทน
ของที่แต่ละคนนำมามี…
กระติบข้าวเหนียว มีด ถ้วยชามช้อนส้อม เสื่อ
ครกตำส้มตำ ตะแกรงปิ้งปลา มะละกอ
เครื่องปรุงอย่างปลาร้า เกลือ ชูรส พริก หอมกระเทียม ฯลฯ
มีคนเอาแหจับปลามาด้วย
ส่วนที่เกี่ยวกับการนอนน่าจะมีแค่ผ้าห่ม
มีคนเอามาเผื่อผมด้วย
พูดเต็มปากได้เลยว่าครั้งนั้นแอบหวั่นๆ
เป็นประสบการณ์ไปชุมชนครั้งแรกๆในชีวิต
เลเวลยังอ่อน
และผมกำลังจะไปนอนริมน้ำ
ทุกอย่างที่จุดตั้งแคมป์คือสิ่งแปลกปลอมสำหรับคนกรุงอย่างผม
เสียงมวลน้ำที่เคลื่อนตัวตลอดเวลา
กลัวสายน้ำจะโถมมาเหมือนน้ำป่า
ทั้งความมืดสงัด ลานทราย พื้นหินแข็ง
ลมหนาว เสียงแมลง แสงดาวที่ข้ามเวลามาจากที่ไกลๆ
เสียงพูดคุยภาษาอีสานที่ตอนนั้นฟังแทบไม่ออก…
ซึ่งตอนนี้ก็ยังฟังไม่แตกแต่เข้าใจมากขึ้นเยอะ
เหมือนทุกคนจะรู้หน้าที่ดีว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
คนถือแหสองสามคนเดินหายไปทางแม่น้ำ
กิ่งไม้แห้งถูกนำมาสุม สักพักก็เปลี่ยนเป็นกองไฟ
เสียงตำครก กลิ่นปลาร้า น้ำปลา พริกป่น มะนาว ปะปน
ชั่วอึดใจทีมหาปลาก็กลับมา
ได้ปลามาหลายตัว
ทาเกลือ วางลงบนตะแกรงส่งกลิ่นหอม
ปลาหมดก็ไปหาใหม่
กิจกรรมวนเวียนไปแบบนี้อยู่ค่อนคืน
การมานอนแบบนี้เหมือนการมานอนเล่นสังสรรค์…
ผ่อนคลายจากการทำงานหนัก
วงพูดคุยครึกครื้นใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
ความร้อนจากกองไฟผสมความหนาวกลายเป็นความอบอุ่น
ได้ลองนอนแบบกลางธรรมชาติไม่มีเต็นท์…
รู้สึกโหวงหวิว ล่องลอย
แม้แผ่นหลังจะสัมผัสกับพื้นทราย
แต่มีเพียงเสียงน้ำโขงที่ทำให้รู้สึกว่ายังอยู่บนโลก
เราไม่รู้หรอกว่า…
การออกไปอยู่ในที่ที่ไม่เคยไป
สถานที่ที่ไม่เคยคิดจะไป…
ที่อยู่นอก comfort zone
อยู่เหนือสามัญสำนึก
มันจะส่งผลอะไรกับเราบ้าง
ทุกอย่างรอบตัวเรา
มีทั้งบวกและลบ มีทั้งที่เราชอบและไม่ชอบ
แต่ทุกอย่างพร้อมจะเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ให้เราเสมอ
ความสบายก็ดี ความแปลกใหม่ก็ดี
กลิ่นรุนแรงของปลาแดกก็ดี กลิ่นลมหนาวก็ดี
ถ้าไม่คุ้นชินบางทีก็อาจแค่ลองเปิดใจรับ
เก็บประสบการณ์นั้นไว้ลึกๆ
สักวันอาจจะทำให้มุมมองของเราต่อโลกเปลี่ยนไป
ซึ่งก็อาจเปลี่ยนไปแล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว
สำหรับผู้ที่จะไปเที่ยว
ถ้าถามว่าจะมีกิจกรรมกะทันหันแบบนี้ไหม
ก็ตอบว่ามี
แต่จะไม่ได้เล่นใหญ่ไฟกระชากเอกการละครไปนอนกลางแจ้งแบบนี้
จะเป็นกิจกรรมตามฤดูกาลที่บังเอิญเกิดขึ้นอยู่แถวนั้น
เช่น แวะสอยรังมดแดงระหว่างทาง...
หยุดพักเพื่อจับปลาเนื้ออร่อยที่บังเอิญเจอในห้วย
หรือแวะทักชาวประมงที่กำลังทำปลาอยู่บนเกาะกลางน้ำ ฯลฯ
ปล. ประสบการณ์จากการมาที่นี่ครั้งแรกร่วมสิบกว่าปีที่แล้ว
ส่วนภาพจากปีที่ผ่านมาแต่บรรยากาศโทนเดียวกัน
#folkation #โปรแกรมให้น้ำโขงและดวงดาวโอบกอด
โฆษณา