20 พ.ย. 2023 เวลา 02:30 • ธุรกิจ

Tao Huabi ผู้หญิงที่สร้างตัว ด้วยการขายน้ำมันพริก จนเป็นมหาเศรษฐี 37,000 ล้าน

หากถามว่าในยุคนี้ เราควรทำธุรกิจอะไร ถึงจะรวยจนเป็นมหาเศรษฐี ?
2
หลายคนก็อาจจะตอบว่า ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โลจิสติกส์ พลังงาน ความสวยความงาม อสังหาริมทรัพย์ หรือไม่ก็อีคอมเมิร์ซ
แต่เชื่อไหมว่า ทำธุรกิจขาย “น้ำมันพริก” ก็สามารถสร้างยอดขาย ได้หลักหมื่นล้านบาทต่อปี และสามารถก่อร่างสร้างตัวคนคนหนึ่ง ให้กลายเป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้านได้
1
โดยเจ้าของธุรกิจที่เรากำลังพูดถึงนี้ เธอมีชื่อว่าคุณ “Tao Huabi” อดีตแม่ค้าขายบะหมี่เย็นริมถนน ผู้สร้างอาณาจักรน้ำมันพริก “Lao Gan Ma” (อ่านว่า เหล่ากานมา)
ซึ่ง Lao Gan Ma ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตน้ำมันพริก รายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นสินค้าเครื่องปรุงรส ที่ชาวจีนแทบทุกบ้าน ต้องมีคู่ครัวไว้
ถึงขนาดที่มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ที่ไหนมีชาวจีน ที่นั่นต้องมี Lao Gan Ma”
แล้วเรื่องราวของคุณ Tao น่าสนใจอย่างไร
อะไรเป็นตัวจุดประกายให้เธอ หันมาจับธุรกิจน้ำพริก ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
1
คุณ Tao Huabi เป็นชาวจีน เกิดที่เมืองจุนยี่ ในมณฑลกุ้ยโจว ซึ่งปัจจุบันเธอมีอายุ 76 ปี
ด้วยความที่ครอบครัวของคุณ Tao ค่อนข้างยากจน ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเธอต้องปากกัดตีนถีบ ทำงานหาเลี้ยงชีพตั้งแต่เด็ก และไม่ได้ร่ำเรียนหนังสือ
แม้ความยากลำบาก จะพรากโอกาสบางส่วนในชีวิตเธอไป แต่นั่นกลับทำให้เธอได้เรียนรู้วิชาชีวิต มากกว่าคนอื่น รวมถึงวิชาทำอาหาร เพื่อประทังความหิวให้กับคนในครอบครัว ซึ่งใคร ๆ ก็ชมว่าเธอมีฝีมือในการปรุงอาหาร
จนเมื่อคุณ Tao มีอายุได้ 20 ปี เธอได้พบรักกับหนุ่มนักธรณีวิทยา และแต่งงานมีลูกด้วยกัน 2 คน
แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อสามีของเธอเกิดล้มป่วยอย่างหนัก และเสียชีวิตลง
1
เรื่องนี้ทำให้คุณ Tao ต้องกลายมาเป็นผู้นำครอบครัวแทน ซึ่งเธอต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำอยู่หลายปี เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูก ๆ จนเมื่อเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง คุณ Tao ในวัย 42 ปี ก็ตัดสินใจมาเป็นนายตัวเอง ด้วยการเปิดร้านแผงลอยเล็ก ๆ ขายบะหมี่เย็น
1
แม้ว่าบะหมี่เย็นของคุณ Tao จะดูเป็นเมนูแสนธรรมดา แต่มันกลับมีความพิเศษซ่อนอยู่ที่ “ซอสน้ำมันพริก” ซึ่งเอาไว้ใส่ทานคู่กัน
น้ำมันพริกนี้ ขึ้นชื่อเรื่องมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก ถึงขนาดทำให้ลูกค้าหลายคน ต่างติดอกติดใจ และมาขอซื้อเฉพาะซอสน้ำมันพริกเพียงอย่างเดียว โดยไม่เอาเส้นบะหมี่
และนั่นจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้คุณ Tao เริ่มรับรู้ว่า แท้จริงแล้วที่ลูกค้ามาอุดหนุนที่ร้านบ่อย ๆ ไม่ใช่เพราะชื่นชอบเมนูบะหมี่เย็น แต่กลับเป็นเพราะถูกใจในซอสน้ำมันพริกสูตรเด็ดของเธอต่างหาก
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ในปี 1994 คุณ Tao จึงตัดสินใจเปลี่ยนธุรกิจ จากขายบะหมี่เย็น มามุ่งเน้นขายน้ำมันพริกแทน ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจนี้ไปได้สวย
2
เพราะในตลาดมีความต้องการรออยู่ ประกอบกับพลังการตลาดของการบอกปากต่อปาก ยิ่งทำให้สินค้าของเธอเริ่มเป็นที่นิยมในวงกว้างมากขึ้น
2
เมื่อน้ำมันพริกขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คุณ Tao จึงก่อตั้งโรงงานและเปิดแบรนด์น้ำมันพริก อย่างเป็นทางการในปี 1997 โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Lao Gan Ma ที่ในภาษาจีนแปลว่า “แม่บุญธรรม”
3
และหลังจากนั้นไม่กี่ปี น้ำมันพริก Lao Gan Ma ก็กลายเป็นเครื่องปรุง ที่ชาวจีนแทบทุกบ้านต้องมีติดครัว เพราะนอกจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และอร่อยถูกปากแล้ว มันยังใช้ปรุงคู่กับอาหารได้สารพัดเมนู ทั้งเมนูผัด แกง ซุปหม้อไฟ หรือใช้จิ้มกับติ่มซำ
1
และเพื่อต่อยอดความสำเร็จ สร้างการเติบโตให้ธุรกิจไปอีกขั้น
คุณ Tao เลยมองหาโอกาสขยายพอร์ตสินค้า ด้วยการพัฒนาสูตรและขยายไลน์สินค้า ภายใต้แบรนด์ Lao Gan Ma ไปอีกกว่า 20 สูตร เช่น น้ำมันพริกหม่าล่า, น้ำมันพริกผสมเต้าเจี้ยว, น้ำมันพริกผสมเนื้อไก่ และอีกมากมาย
ในปัจจุบันน้ำมันพริก Lao Gan Ma ก็ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายความนิยมจนไปวางขายในอีกกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐฯ, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, แอฟริกาใต้
2
ซึ่งในทุก ๆ วัน โรงงานของ Lao Gan Ma สามารถผลิตน้ำมันพริกได้สูงถึง 3 ล้านกระปุก
และยังสามารถสร้างยอดขายในแต่ละปี ได้มากกว่า 5,000 ล้านหยวน หรือ 24,400 ล้านบาท
นั่นจึงทำให้คุณ Tao ได้เริ่มขยับสถานะ จากแม่ค้าริมทาง มาสู่มหาเศรษฐีระดับ Billionaire
โดยนิตยสาร Forbes ได้ประเมินว่า เธอมีความมั่งคั่งกว่า 1,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 37,400 ล้านบาท
2
มากไปกว่านั้น ในปี 2023 นิตยสาร Forbes ยังได้ยกย่องให้คุณ Tao ติดอันดับหนึ่งใน 50 ผู้หญิงสุดแกร่งที่ประสบความสำเร็จ ในแวดวงนักธุรกิจหญิงแห่งเอเชียแปซิฟิก ด้วยวัยเกิน 50 ปี อีกด้วย
จากเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าคุณ Tao คือบุคคลตัวอย่าง ที่ตอกย้ำว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” และไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับการเริ่มต้นทำสิ่งใด ๆ แม้แต่การทำธุรกิจ
1
อย่างคุณ Tao ที่กว่าธุรกิจจะเริ่มลงตัว ก็มีอายุเข้าสู่วัย 50 ปีไปแล้ว แต่เธอกลับไม่ได้มองว่า อายุคืออุปสรรค ในการเริ่มต้นลองทำสิ่งใหม่ ๆ และเป็นข้ออ้างในการประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ การเลือกทำในสิ่งที่ตนเองถนัดและเชี่ยวชาญ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสู่ความสำเร็จได้เช่นกัน
เหมือนที่คุณ Tao ถนัดในการปรุงอาหารและน้ำมันพริก เมื่อเธอเห็นโอกาสจากความต้องการของลูกค้า เธอจึงไม่ลังเลที่จะลงมือทำ และเปลี่ยนธุรกิจจากร้านขายบะหมี่เย็น มาสู่ธุรกิจน้ำมันพริก ทันที
1
จนในวันนี้ ความกล้าตัดสินใจในครั้งนั้นของคุณ Tao
ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ที่ทำให้เธอได้เจอชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมไปตลอดกาล..
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป พุ่งเป้าพัฒนาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เพื่อเข้ามาเติมเต็มและต่อจิกซอว์เทรนด์ไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่มาใช้บริการร้าน Marimekko Pop-Up Café คาเฟแห่งแรกในโลก พร้อมเดินหน้าปูทางธุรกิจ F&B ภายใต้แบรนด์อื่นในเครือ หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้า Gen Y - Gen Z มากขึ้น
#TANACHIRA #MarimekkoCafeThailand
โฆษณา