“ยูมีร์ อุบัติการณ์แห่งมหากาพย์สงครามยาวนานกว่า 2,000 ปี”
บทความนี้จะเปิดเผยเรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งหมดว่า 'ไททันเกิดมาได้อย่างไร' อย่างละเอียด
***มีบางส่วนที่เป็นการสปอยด์เนื้อหาของ Attack On Titan The Final Season
.
.
.
.
.
“ยูมีร์ ฟริทซ์” หญิงสาวที่เป็นต้นกำเนิดไททัน ถูกพันธะนาการด้วยความรักจอมปลอม และผู้ที่แบกเบื้องหลังประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี
ย้อนไปราว ๆ กว่า 2,000 ปีที่แล้วนับแต่เหตุการณ์ในปัจจุบันของ AOT Season 1 Episode 1 มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ ‘ยูมีร์’
ยูมีร์ เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา เป็นผู้ที่รักสงบ และเป็นมิตรกับผู้คนในหมู่บ้าน ยูมีร์และคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านอยู่กันอย่างสงบสุขจนกระทั่งเกิดการรุกรานของเผ่า ‘เอลเดีย’
เผ่าเอลเดียที่นำโดยราชาฟริทซ์จับผู้คนในหมู่บ้านของยูมีร์ รวมถึงตัวยูมีร์มาเป็นทาส กระทำทรมาณโดยการตัดลิ้นออกเพื่อไม่ให้พูด
จนวันหนึ่ง ‘หมู’ ของราชาฟริทซ์หายไป ราชาได้บอกกับทาสเหล่านั้นว่าหากไม่มีใครสารภาพว่าเป็นคนปล่อยหมูจะแทงตาของทาสทีละคนจนกว่าจะบอก
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทาสทุกคนพร้อมใจกันชี้ไปที่ตัวของ ‘ยูมีร์’ อีกทั้งยูมีร์ก็สารภาพว่าตัวของเธอเป็นคนปล่อยหมูของราชาไป (ซึ่งตัวเธอเองนั่นแหละเป็นคนปล่อยจริง ๆ)
ราชาปล่อยให้ยูมีร์หนีไปโดยสั่งให้ทหารขี่ม้าไล่ยิงธนูตาม ตัวของยูมีร์ที่บาดเจ็บได้เห็นโพรงในต้นไม้ขนาดใหญ่จึงตัดสินใจเข้าไปหลบ และลื่นตกในแอ่งน้ำ
ตัวของเธอพบเข้ากับสิ่งมีชีวิตประหลาดเรืองแสงคล้ายตะขาบที่ถูกเรียกในภายหลังว่า ‘ชีวิต’
ชีวิต ได้รวมเข้ากับตัวของเธอเนื่องจากต่างฝ่ายต่างเรียกร้องในการเอาชีวิตรอด การประสานจึงสมบูรณ์เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่โลกไม่เคยเห็นอย่าง ‘ไททัน’
ยูมีร์จึงกลายเป็นไททันตัวแรกของโลก หรือไททันบรรพบุรษ โดยมีลักษณะผมยาวเหมือนผู้หญิง ร่างกายส่วนกลางเป็นโครงกระดูยื่นออกมา
น่าแปลกใจที่ยูมีร์กลับไปหาราชาฟริทซ์โดยเสนอที่จะใช้พลังไททันของเธอทำประโยชน์ให้กับเผ่าเอลเดีย
ยูมีร์ในฐานะพลังใหม่ของเผ่าเอลเดียได้ใช้พลังดังกล่าวรบราฆ่าฟัน เป็นหอกหลักในการทำสงครามต่อสู้กับศัตรูคู่อาฆาตอย่างมาเลย์จนเผ่าเอลเดียเจริญเติบโตจนกลายเป็น ‘จักรวรรดิเอลเดีย’
ราชาฟริทซ์ตอบแทนการมีอยู่ของยูมีร์โดยการแต่งตั้งให้เป็นทาสรับใช้ผู้ใกล้ชิด และมีลูกด้วยกัน 3 คน ได้แก่ มาเรีย โรเซ่ และซีน่า
*** ชื่อของทั้งสามคนถูกตั้งเป็นชื่อกำแพงในเกาะพาราดีส์ในภายหลัง
แต่หนึ่งเหตุการณ์พลิกฝันแห่งประวัติศาสตร์คือมีทหารนายหนึ่งปาหอกเพื่อที่จะสังหารราชาฟริทซ์ แต่ทันใดนั้นยูมีร์กลับเอาตัวเข้าแลกเพื่อบังหอกให้ราชาจนตนเองต้องตายไป
แม้ร่างของยูมีร์จะตาย แต่จิตวิญญาณของเธอดันไปปรากฎอยู่ในสถานที่หนึ่งซึ่งถูกเรียกว่า Path หรือสายธาร เป็นสถานที่ที่จิตของชาวเอลเดียเชื่อมต่อถึงการ และอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของเวลา
ราชาฟริทซ์ไม่อยากให้พลังไททันนี้สลายหายไป จึงนำศพของยูมีร์ให้ลูก ๆ ทั้งสามกิน เพื่อหวังให้พวกเธอทั้งสามได้สืบทอดพลังของไททัน
และก็เป็นเช่นนั้นจริง เนื่องจากพลังไททันสามารถส่งต่อได้โดยกินผู้ใช้พลังคนก่อนเข้าไป ทำให้พลังไททันในตัวของยูมีร์ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน
ผ่านมากว่า 1,700 ปี พลังไททันที่ถูกแบ่งแยกจากตัวยูมีร์ไปยังลูก ๆ ก็ถูกสืบทอดผ่านสายเลือดของชาวเอลเดียมาเรื่อย ๆ ถูกแยกย่อยเป็นหลายตระกูล และแบ่งพลังออกเป็น 9 ไททัน
โดยยังมีจิตวิญญาณของยูมีร์ที่คงอาศัยอยู่ในสายธารคอยฟูมฟักและดูแล ทำหน้าที่ทาสต่อเนื่องเสมอมา
จนกระทั่งเกิดมหาศึกขนาดใหญ่ที่แต่ละตระกูลผู้มีพลังไททันได้ต่อสู้กันจนเกิดเป็นสงครามไททัน กษัตริย์ในตอนนั้น ‘คาร์ล ฟริทซ์’ ผู้ได้รับพลังของไททันก่อกำเนิด (พลังไททันของยูมีร์) ได้เบื่อหน่ายสงคราม และการสู้รบทั้งภายในตระกูล และระหว่างชาวเอลเดียกับชาวมาเลย์
คาร์ล ฟริทซ์ จึงได้ตกลงหนีไปยังเกาะอันแสนไกล โดยได้วางอุบายกับตระกูลไทเบอร์เพื่อให้สร้างวีรบุรุษจอมปลอมขึ้นมาโดยกุเรื่องว่าชาวเอลเดียที่มีพลังไททันนั้นได้ล่มสลายไปแล้ว และให้ตระกูลไทเบอร์ครอบครองพลังไททันไว้ 1 ตัว นั่นคือไททันค้อนสงคราม
คาร์ล ฟริทซ์ ย้ายชาวเอลเดียบางส่วนไปยังเกาะสวรรค์ หรือเกาะพาราดีส์ และใช้พลังไททันของตนเองสร้างกำแพง 3 ชั้นล้อมรอบ เพื่อปิดกั้นจากโลกภายนอก รวมไปถึงลบความทรงจำของชาวเอลเดียทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าตนเองเป็นมนุษย์ในกำแพง กำแพงมีไว้ปกป้องพวกเขาจากเหล่าไททัน เป็นการหาความสงบจากสงครามของกษัตริย์โดยการหลอกลวง
อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า ‘หากชาวมาเลย์ยังไม่เลิกรบราฆ่าฟัน เขาจะใช้พิภพคำราม ให้ไททันจำนวนมหาศาลเหยียบย่ำโลกนอกกำแพงจนไม่เหลือซาก’
และตลอดเวลากว่า 1,700 ปี หลังจากที่ยูมีร์ตายลง และกว่า 300 ปี หลังเหตุการณ์ของกษัตริย์คาร์ล ฟริทซ์ ยูมีร์ยังคงอยู่ในสายธารที่เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างไททันที่เราได้เห็นไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดจบ
นั่นยังคงแสดงให้เห็นว่าแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใด หรือจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผู้ที่มีพลังของราชาไททันไปเท่าใด ยูมีร์ก็ยังคงติดอยู่กับพันธะของเธอที่ตราว่าเธอเป็นทาสของราชาฟริทซ์ หน้าที่เพียงอย่างเดียวคือการรับใช้ลูกหลานชาวเอลเดีย
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
