Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่า-เข้ม-เข้ม
•
ติดตาม
18 พ.ย. 2023 เวลา 08:48 • เกม
“Pokemon” จากไอเดีย ‘ตาข่ายจับแมลง’ ของ ‘Dr. Bug’ สู่การคว่ำ ‘Super Mario Bro.’
แฟรนไชส์ “โปเกมอน” (Pokemon) สร้างเม็ดเงินให้ นินเทนโด (Nintendo) มากกว่า 88,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท แต่กว่าจะก้าวมาเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างความสนุกสนานและรายมหาศาลเช่นนี้ #โปเกมอน เกือบถูกล้มเลิก
วันนี้ เล่า-เข้ม-เข้ม จะพาทุกคนย้อนไปดูต้นกำเนิดของเกมที่อยู่คู่กับเกมเมอร์มานานกว่า 27 ปี เกมอย่าง “Pocket Monster”
# AspergerSyndrome
โปเกมอน เป็นไอเดียชายที่เป็นโรค “Asperger Syndrome” หรือโรคผิดปกติเกี่ยวกับการเข้าสังคม ส่งผลให้เขาเป็นคนเก็บตัวอย่างมาก เวลาว่างเขามักไปเดินเล่นคนเดียวในป่าละแวกบ้าน พร้อมอุปกรณ์คู่ใจอย่าง #ตาข่ายจับแมลง ทำให้ “ซาโตชิ ทาจิริ” (Satoshi Tajiri) มีความรู้เกี่ยวกับแมลงมากมายจนเพื่อน ๆ และครูต่างคิดว่าโตขึ้นซาโตชิต้องเป็น #นักกีฏวิทยา แน่ ๆ และตั้งฉายาให้ซาโตชิว่า “Dr. Bug”
#GameFreak
แต่เมื่อธรรมชาติเริ่มถูกรุกราน แมลงที่เคยมีก็ลดน้อยลง ทำให้เด็กน้อยซาโตชิเข้าสู่การเล่นเกม โดยเขามักจะไปร้านอาเขตแถวบ้านจนเจ้าของร้านเกมถึงกับยกตู้เกม “Space Invader” ให้ไปเล่นที่บ้านเลยทีเดียว
และด้วยที่ชอบเกมเอามาก ๆ ซาโตชิเลยชวนเพื่อนรักอย่าง “เคน ซูกิโมริ” (Ken Sugimori) ทำนิตยสารเกมทำมือ โดยรวบรวมสูตรต่าง ๆ วิธีการผ่านเควส และ Ester Eggs โดยให้ชื่อว่า “Game Freak” โดยหน้าที่หลักเขาเป็นคนหาข้อมูล ส่วนเคนจะเป็นคนวาดรูปประกอบ
เมื่อซาโตชิเรียนจบก็ตั้งบริษัททำเกมชื่อเดียวกับนิตยสารที่เขาทำคือ “Game Freak” ผลงานเด่นคือ คิดไอเดียเข้าประกวดชนะเลิศในงานของ #เซกา (Sega) จนได้ผลิตเกมอาเขตที่ชื่อว่า “Quinty” และยังรับงานเขียนคอลัมน์เกมในนิตยสาร “Family Computer Magazine” และ “Famicom Tsūshin“
แต่จุดเปลี่ยนก็มาถึงเมื่อนินเทนโดประกาศหาไอเดียสร้างเกมใหม่ จากโจทย์สุดหินว่า “เกมที่จะมาโค่น ซูเปอร์มาริโอ (Super Mario Bro.)” ซึ่งตอนนั้นเรียกได้ว่า ซูเปอร์มาริโอเป็นเกมอันดับต้น ๆ ของโลกเลยก็ว่าได้
Game Freak ก็เริ่มระดมความคิด จนกระทั่งพบว่า “Game Boy” นั้นมีสาย “Link Cable” ไว้เชื่อมต่อเครื่องอื่น ๆ ได้ ทำให้เขานึกถึงประสบการณ์การเข้าป่าจับแมลง โดยแนวคิดคือ ซาโตชิคิดว่าจะดีแค่ไหนถ้าสร้างเกมที่เป็นสามารถเป็นสัตว์เลี้ยง มีการเจริญเติบโต สามารถฝึกให้สัตว์เหล่านั้นต่อสู้และร่วมออกผจญภัย เชื่อมต่อกันระหว่างผู้เล่นได้ ที่สำคัญต้องไม่มีลือดหรือการเข่นฆ่า
#CapuMon
ทั้งคู่นำร่างต้นแบบเกมไปเสนอให้นินเทนโด ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีคนเข้าใจแต่ “ชิเงรุ มิยาโมโต้” (Shigeru Miyamoto) ผู้สร้าง Super Mario Bro. กลับชอบไอเดียที่มีการจับมอนสเตอร์และสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ระหว่างผู้เล่นผ่านสาย Link ได้ โดยชิเงรุเองก็เติมไอเดียการสร้างทีละ 2 ภาค โดยให้มีมอนสเตอร์แตกต่างกันเพื่อทำให้ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนกันได้
นินเทนโดจึงตกลงให้ Game Freak สร้างตัวต้นแบบ โดยเคนรับหน้าที่ออกแบบมอนสเตอร์ทั้งหมด 150 ตัว และ ซาโตชิออกแบบตัวเกม โดยให้ชื่อเกมนี้ว่า “Capsule Monster” ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อให้สั้นลงว่า “CapuMon”
แต่เวลาผ่านไป 6 ปี ดูเหมือนว่าเกมไม่มีท่าทีจะเสร็จ จน Game Freak ไม่มีเงินทุนในการดำเนินงานพนักงานทั้งหมดลาออก เขาทั้งสองคนต้องไปรับงานออกแบบ Yoshi ,Mario & Wario และ Pulseman เพื่อให้พอมีรายได้เข้ามาบ้าง จนกระทั่งบริษัทอย่าง “Creatures Inc” เสนอเงินทุนช่วยเหลือโดยแลกกับสิทธิ์ 1 ใน 3 ของเกมซีรีส์นี้
ซาโตชิต้องคว้ามันไว้ และลงมือพัฒนาจนเกมเสร็จสิ้น แต่ก็เกิดปัญหาเรื่องชื่อที่ติดลิขสิทธิ์ และคำว่า CapuMon นั้นเรียกยาก จึงมีการเปลี่ยนชื่อใหม่ จนกระทั้งมาจบที่ Pocket Monster และตัดคำให้สั้นลงเหลือเพียง #Pokemon
#ซาโตชิ
ด้วยไอเดียการจับแมลงเป็นสารตั้งต้นของเกมนี้ เคนที่เป็นคนร่างภาพตัวละครจึงให้ถามว่า จะให้ตัวเอกในเกมนี้ชื่อว่าอะไร คำตอบที่ได้คือ “ซาโตชิ” เพราะคิดว่า เขานี้แหละเหมาะสมที่สุดที่จะถือตาข่ายออกไปจับโปเกมอนเป็นคนแรก และเคนก็ใส่ลูกเล่นด้วยการตั้งชื่อตัวละครคู่แข่งในเกมว่า “ชิเงรุ” ชื่อเดียวกับผู้สร้าง ซูเปอร์มาริโอ คล้ายจะบอกให้โลกรู้ว่าโปเกมอนที่พวกเขาสร้าง จะคว่ำซูเปอร์มาริโอได้ในวันหนึ่ง
โปเกมอน ถูกนำออกวางจำหน่ายในปี 1996 ซึ่งแม้จะช่วงปลายยุคของเครื่องเล่น #GameBoy แต่ประสบการณ์เชื่อมต่อกันของผู้เล่นและการช่วยกันหาโปเกมอนในตำนานอย่าง มิว (Mew) ก็ทำให้เกมประสบความสำเร็จ
สร้างยอดขายให้โปเกมอนภาคแรกอย่าง Red & Green มียอดขายรวมกว่า 5 ล้านยูนิตใน 2 ปีแรกและปัจจุบัน ภาคเริ่มต้นนี้ก็ขายไป 31.3 ล้านยูนิต และเมื่อรวมยอดขายทุกภาค ก็ขาสยไปกว่า 480 ล้านยูนิตเลยทีเดียว
.
.
แม้ตัวละครโปรดของซาโตชิจะเป็น เนียวโมโระ (Poliwag) ที่เป็นลูกอ้อด แต่เมื่อมีการสร้าง Pokemon เป็นอนิเมะ ทางบริษัทก็ตัดสินใจใช้ “ปิกาจู” (Pikachu) เป็นมาสคอตของเรื่อง และออกตีตลาดอเมริกาได้อย่างยิ่งใหญ่ จนมีคนกล่าวว่า “โดราเอมอน” (Doraemon) เป็นแมวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก “ปิกาจู” (Pikachu) ก็คือหนูที่โด่งดังไม่แพ้กัน
#เล่าเข้มเข้ม #เกม #Nintendo #PocketMonster #Gameboy #Satoshi #SuperMario
.
อ้างอิง
https://pokemon.fandom.com/wiki/Pok%C3%A9mon_Wiki
https://vgsales.fandom.com/wiki/Pok%C3%A9mon
https://www.youtube.com/watch?v=Ua-aYS_nL_0
https://www.statista.com/statistics/1072224/pokemon-unit-sales-worldwide/
https://www.dollthai.com/2023/06/04/pokemon-origin-story/
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย