20 พ.ย. 2023 เวลา 04:41 • ความคิดเห็น
"ชีวิตใหม่จากในหลวง"
ยายซุบ สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70
แห่งบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ยากจนมาตั้งแต่ยังสาวจวบจนวันนี้
.
หากแต่เธอกลับยืนยันว่า
เธอมีอดีตที่มีความหมายต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่
ไม่ว่าแกจะยังจนต้องขอเงินลูกๆ 9 คนใช้ดังเช่นทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข
ถูกหวยรวยเบอร์อย่างไรก็ตาม แกไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น
.
เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า 40 ปี
การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี
ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้าหลัง
ไม่มีแม้ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
หากแต่การเสด็จพระราชดำเนินในครานั้น
ได้ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมาจนถึงวันนี้
.
สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม?
.
ยาย....
“ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ
ท่านเสด็จฯ มาทางเหนือ ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว
แต่ไม่รู้หรอกนะตอนนั้นว่าเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องนอนซม
คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับเสด็จ
แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว”
.
เดินไม่ไหวแล้วไปยังไง?
.
ยาย....
“ก็ให้คนหามไปใส่เกวียนไปเลย”
.
ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอ?
.
ยาย...
“ไม่รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริงๆ ใกล้ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้
แต่ขอไปรับเสด็จก่อน แลกตัวแลกชีวิตกันเลย
พูดง่ายๆ ว่าวัดดวงเอาเลย อีกอย่างตอนนั้นถ้าเราไปหาหมอก็ลำบาก
เพราะน้ำแห้ง เรือเครื่องก็ไม่มี ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะตายก่อน”
.
แล้วตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม?
.
ยาย....
“ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก (หัวเราะเสียงดัง)”
.
แล้วได้เห็นท่านไหม?
.
ยาย...
“ก็ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่างๆ แล้วก็เห็นไม่นาน
เพราะว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ ไปที่ตีนเขาอีกลูกคนละฟาก
ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออกหมู่บ้าน”
.
ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น?
.
ยาย....
“ตอนนั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว พอดีว่าพระราชินี
ท่านทรงเยี่ยมเยียนราษฏร แล้วทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีด
พิงเพื่อน คือได้ตอนนั้นมันไม่ไหวจริงๆ
ท่านทอดพระเนตรเห็นก็คงสังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี
พระองค์ก็ถามว่า เป็นอะไร? ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้
เราบอกว่าเจ็บท้อง พระองค์ท่านตรัสถามต่อว่า เจ็บมากี่วันแล้ว?
เราก็บอกว่า เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้
ท่านก็เลยบอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู”
.
แล้วหมอว่ายังไง?
.
ยาย....
“หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก พอหมอบอกอย่างนั้น
พระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไปที่ในหลวงซึ่งทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก”
.
รู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง?
.
ยาย....
“รู้สิ เพราะเห็นในหลวง
พระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย ห่างกันถึง 1 กิโล”
.
รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น?
.
ยาย....
“ดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบมากๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่
คิดว่าตัวเองรอดแน่ มันมีกำลังใจ
คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่ได้”
.
3
พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่?
.
ยาย.....
“ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า
เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อน
พอพระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป
ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจนถึงเครื่อง
พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ. จะปิด
เราก็มองลงมาเห็นในหลวง ท่านทรงโบกพระหัตถ์
เราซาบซึ้งมาก ยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้”
.
ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้น ก็ต้องตายแน่?
.
ยาย....
“แน่นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า
มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาที ก็ไม่รอดแล้ว
แล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้ง
ไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะเดินทางไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า
ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่
ตายทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรตาย”
เหมือนกับได้ชีวิตใหม่?
.
ยาย....
“ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว
แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไรรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ทุกที
ตอนนั่งดูโทรทัศน์ เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด
รู้สึกว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา”
.
ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้าง?
.
ยาย....
“จำไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง
เราพูดไม่ค่อยไหว แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง
บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2 คน แล้วก็คนขับอีก 2 คน จำได้แค่นี้ล่ะ”
.
ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหน?
.
ยาย-....
“โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี”
.
แล้วพักอยู่กี่วัน?
.
ยาย....
“ปกติคนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้ว
แต่เราเป็นหนักต้องพักถึง 24 วัน ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่
แล้วถ้าเราตาย ลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง
ในหลวงท่านทรงเมตตา ทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก
เป็นห้องพิเศษเลย พูดตรง ๆ ว่าดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก
หมอก็นิสัยดี พูดจากับเราเพราะแล้วก็ใจดี”
.
”ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามาก
มีคนมาเยี่ยม ถามอาการ ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน
คนใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไรถึงท่านไหม
เราบอกให้ พระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
พูดได้แค่นั้น มันตื้นตันจนนึกไม่ออก”
.
หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไร?
.
ยาย....
“ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย
ถ้าเรามีโอกาส จะขอเข้าไปกราบแทบพระบาทเลย
สิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้ เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิตแล้ว”
.
คิดดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน
เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ท่านห่วงเราเหมือนเราเป็นลูกพระองค์ท่าน
ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก ท่านทรงเสียสละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์
ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา
พูดตรง ๆ ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่
อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด”
.
กลับมาบ้านแล้ว เป็นอย่างไร?
.
ยาย....
“ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1 ปี
ครั้งละ 3-5 พันบาท ส่งมาหลายครั้งอยู่
เรารู้เพราะว่าใส่ซองสีขาวประทับตราสำนักพระราชวัง
จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามาก”
.
”แล้วทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจตัวเองอยู่ว่า
เวลาที่ท่านป่วย เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้า ไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน
ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน นั่งร้องไห้ทุกวัน ดูข่าวทุกวันไม่เคยเว้นเลย
ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา
แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย”
.
การเสียสละของในหลวงคราวนั้นได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่?
.
ยาย....
มีส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่ว
ไปไหนไปกัน มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด
บางทีถึงไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ญาติเขา แต่เราก็ไป ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจ
บางทีก็ไปบีบให้นวดให้ นี่คือสิ่งที่ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ”
.
อ่านจบน้ำตาแทบไหล...คิดถึงพ่อหลวงที่สุด
.
**********************************************************************
โฆษณา